Zelos Hammerhead V3 สวยมีเอกลักษณ์ในราคาที่เข้าถึงได้

0

ในตลาดนาฬิกาแบบ Microbrand มีทางเลือกที่หลากหลายแบรนด์ แต่ชื่อของ Zelos จากสิงคโปร์ถือว่าอยู่คู่กับตลาดมานานและมีผลผลิตใหม่ๆ ออกมาขายอย่างต่อเนื่องและ Hammerhead ที่ถือว่าเป็นนาฬิกาคู่บุญของพวกเขาก็เดินทางมาถึงการเปิดตัวเวอร์ชันที่ 3 ซึ่งมีการปรับปรุงหลายจุดบนตัวเรือนเพื่อความสวยและความสะดวกในการสวมใส่มากขึ้น

- Advertisement -

Zelos Hammerhead V3

Zelos Hammerhead V3 สวยมีเอกลักษณ์ในราคาที่เข้าถึงได้

  • เวอร์ชันที่ 3 ของ Hammerhead นับจากเปิดตัวในปี 2016

  • ลดความหนาของตัวเรือนรวมถึงความสามารถบางอย่างลง เช่น HEV และการกันน้ำ

  • ราคาจองช่วงแรก 349 เหรียญสหรัฐฯ และจะเพิ่มขึ้นหลังจากพ้นเดือนพฤษภาคม

หลังจากเกิด COVID-19 ทำให้ผมห่างหายจากการสั่งนาฬิกาจากกลุ่ม Microbrand ไปอยู่พักใหญ่ๆ เพราะความล่าช้าในการขนส่ง ทำให้กว่าจะเดินทางมาถึงในแต่ละครั้งต้องรอกันนานมาก จนกระทั่งถึงตอนนี้เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น

และแบรนด์ที่เฝ้าติดตามมานานแต่ยังไม่ได้กด CF สักทีอย่าง Zelos มีการเปิดตัวโฉมใหม่ของคอลเล็กชั่น Hammerhead ออกมา สุดท้ายแล้วก็ได้เสียเงินสักทีกับเวอร์ชันที่ 3 ของ Zelos Hammerhead V3 ที่มีความเปลี่ยนแปลงจากรุ่น 2 ค่อนข้างเยอะ

Hammerhead เรียกว่าเป็นนาฬิการุ่นแรกๆ ของ Zelos ที่เป็น Microbrand จากสิงคโปร์ ซึ่งตอนที่รุ่นแรกเปิดตัวออกมาในปี 2016 นั้น ผมยังแค่สนใจแต่ไม่ได้สั่งซื้ออย่างเป็นเรื่องเป็นราว ครั้นพอจะสนใจก็ปรากฏว่านาฬิกากลับได้รับความนิยม และ Sold Out ไปอย่างรวดเร็ว

ก่อนที่จะกลับมาอีกครั้งแต่คราวนี้ราคาจะถูกอัพขึ้นไปอีกร่วมๆ 100 เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งส่วนตัวผมมองว่าราคามันเริ่มแพงเกินไปแล้วกับการเป็น Microbrand ที่มีสเป็กประมาณนี้

ในรุ่นที่ 2 ก็เช่นกัน ผมเจอกับลักษณะเดียวกันนั้น คือ จองในช่วง Early Bird ไม่ทัน จนกระทั่งมาถึงเวอร์ชัน 3 ซึ่งเป็นเรื่องบังเอิญ ที่ผมเข้าไปส่องเว็บของแบรนด์พอดี และพบว่าอีกไม่กี่วันพวกเขาจะเปิดตัว Zelos Hammerhead V3 ออกมา ก็เลยตั้งเวลาแจ้งเตือนซะ พร้อมกับเตรียมบัตรเครดิตรอท่าเอาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ

Zelos Hammerhead V3 Zelos Hammerhead V3 Zelos Hammerhead V3

สำหรับรุ่นใหม่มีการเปิดตัวออกมาด้วยรุ่นย่อยมากมาย ทั้งรุ่นธรรมดา และ Limited Edition ซึ่งเป็นตัวเรือนที่ผลิตจากวัสดุแปลกๆ เช่น Damascus Steel ที่มีเพียง 100 เรือน หรือ Titanium (50 เรือน) และ Tantalum (20 เรือน)

บอกเลยว่าพวกรุ่นเหล่านี้ผมยังไม่เคยมีความว่องไวในการแข่งกับชาวเน็ตที่รักนาฬิกาสำหรับการกด CF ก็เลยต้องเบนเข็มมาที่พวกกลุ่ม Bronze แทน และเล็งหน้าขาว หรือ Frost Dial เอาไว้

ที่เลือกหน้าสีนี้ (ซึ่งก็เช่นกันที่ดูท่าจะไม่ได้รับความนิยมมาเท่าไร เพราะของยังเหลือ ขณะที่หน้าปัดสีอื่นๆ ทยอย Sold Out กันไปเรื่อยๆ) เพราะความไม่เหมือนใคร เนื่องจากเป็นลักษณะแบบ Lume Dial ซึ่งพรายน้ำจะเรืองแสงทั้งแผ่น ขณะที่รุ่นที่เหลือกจะเป็นพรายน้ำบนหลักชั่วโมง

Zelos Hammerhead V3 Zelos Hammerhead V3 Zelos Hammerhead V3

ราคาป้ายที่ตั้งเอาไว้ตลอดช่วงเดือนพฤษภาคม คือ 349 เหรียญสหรัฐฯ สำหรับช่วง Early Bird หรือ Launch Special price และหลังจากวันที่ 31 พฤษภาคมเป็นต้นไป

ราคาจะถูกปรับใหม่เป็น 449 เหรียญสหรัฐฯ แต่นั่นหมายความว่า จะต้องมีของเหลือสำหรับขายด้วยนะ เพราะตามปกติของแบรนด์นี้ ถ้าหมดแล้วมักจะหมดเลย แทบไม่ค่อยมีของใหม่เข้ามาเติม

กลับมาที่ความเป็นมาของ Zelos กันก่อน สิ่งที่ต้องบอกว่าน่าสนใจคือ การที่พวกเขาสามารถคงแบรนด์ตัวเองให้ยืนระยะได้นานขนาดนี้ เพราะในโลกของ Microbrand นั้น ส่วนใหญ่มักจะมาแล้วไปแบบรวดเร็ว แต่สำหรับ Zelos ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2014 โดย Elshan Tang

พวกเขากลับทำได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ และสามารถทำตลาดอย่างต่อเนื่องมาจนเกือบจะ 10 ปีแล้ว กับโมเดลที่เริ่มมีความหลากหลายมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งรุ่นที่มีราคาจับต้องได้ในระดับ 300 เหรียญสหรัฐฯ ไปจนถึงที่มีราคาเกิน 1,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือตัวแรงระดับ 11,000 เหรียญสหรัฐฯ ที่มาพร้อมกลไก Tourbillon ก็ทำมาแล้ว แถมยัง Sold Out หมดด้วย ถือว่าไม่ธรรมดาเลย

สำหรับ Hammerhead V3 นั้นเคยเปิดตัวมาตั้งแต่ปลายปี 2021 แล้ว แต่ตอนนั้นเป็นเวอร์ชันสตีล ส่วนที่เปิดล่าสุดนี้คือ รุ่นบรอนซ์ ซึ่งจะแตกต่างจาก Microbrand ฝั่งฮ่องกงอย่าง Maranez และ Helson ที่มักจะเป็น Brass มากกว่าสำหรับนาฬิกาที่มีราคาอยู่ในช่วง 300-400 เหรียญสหรัฐฯ

ส่วนในเรื่องความแตกต่างของวัสดุทั้ง 2 ประเภทนี้ลองอ่านได้จากบทความเก่าๆ ของ Ana-Digi ดูครับเพราะเคยเขียนถึงเอาไว้แล้ว

ตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ทำตลาด Hammerhead มีความเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด แต่จะเป็นในแง่ของมิติและการผลิตมากกว่าเรื่องของหน้าตา ในรุ่นที่ 3 นั้น จะเรียกว่าค่อนข้างขัดใจพวกบ้าพลังอย่างผมอยู่ 2 เรื่อง

อย่างแรกคือ การลดขนาดความหนาตัวเรือนจาก 17 มิลลิเมตรมาเป็น 13.5 มิลลิเมตร ซึ่ง 3.5 มิลลิเมตรที่หายไปย่อมส่งผลต่อประสิทธิภาพอะไรบางอย่างของตัวนาฬิกา อย่างที่ 2 ที่ทำให้ผมไม่ค่อยแฮปปี้สักเท่าไร นั่นคือ ความสามารถในการกันน้ำที่ถูกลดจาก 1,000 เมตรใน 2 รุ่นแรกมาเป็น 300 เมตรในรุ่นล่าสุด ซึ่งก็น่าจะเป็นเพราะความเกี่ยวข้องกับประการแรก

ถามว่าแฮปปี้ไหมในแง่ภาพรวม ? คำตอบคือไม่ เพราะผมเป็นพวกที่ชอบใส่นาฬิกาหนาๆ และบ้าตัวเลขของระดับความลึกที่เอาไว้คุยกับเพื่อนๆ แต่จะใช้งานจริงหรือไม่นั้น คงไม่ต้องบอก เพราะว่าชาตินี้ไม่น่าจะมีทาง

ความหนาที่ลดลงของตัวเรือนนอกจากหมายถึงความสามารถในการกันน้ำที่ลดลงแล้ว ในรุ่นนี้จะไม่มี HEV หรือ Helium Escape Valve มาให้ด้วย ถามว่าได้ HEV ใช่เหรอ ? คำตอบคือ ไม่ได้ใช่เช่นกัน แต่อารมณ์มันเหมือนกับเวลาที่ต้องจ่ายเงินเท่ากัน แต่ดันได้ของมาไม่ครบเท่านั้นเอง

Zelos Hammerhead V3 Zelos Hammerhead V3 Zelos Hammerhead V3

นั่นคือ อารมณ์ที่เกิดขึ้นก่อนการจอง

แต่สุดท้ายความอยากได้ก็อยู่เหนือเหตุผล และนำไปสู่การซื้อในที่สุด โดยหลังจากที่รอเวลาในการส่งและการเดินทางที่ค่อนข้างทุลักทุเลอยู่หลายวันเพราะถูกกักพัสดุเพื่อรอการประเมินภาษีนำเข้า ในที่สุด เจ้า Zelos Hammerhead V3 Frost Dial ก็เดินทางมาถึงมือ

วินาทีแรกของการแกะห่อและดูสิ่งที่อยู่ข้างใน บอกเลยว่าไม่แปลกใจที่พัสดุของผมถึงโดนกักเพื่อรอประเมินราคา จนต้องส่งใบเสร็จให้ดู เพราะแทบไม่น่าเชื่อว่านี่คือนาฬิกาที่มีราคาป้ายอยู่ในระดับ 349 เหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 12,000 กว่าบาท

ตัวกล่องเป็นอะลูมิเนียม พร้อมกับใบรับประกันที่ผลิตจากโลหะ เรียกว่าสร้าง First Impression ได้ในบัดดล ซึ่งพอหันไปดู Microbrand จากฮ่องกง ก็ต้องถอนหายใจดังๆ เพราะกับราคาเท่ากัน

ถ้าเป็นสมัยก่อนก็จะเป็นกล่องที่เป็นทรงกระบอก ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นถุงหนังแบบม้วนได้ในปัจจุบัน ซึ่งก็เป็นสินค้า OEM ที่แบรนด์เหล่านี้ซื้อมาใช้เหมือนกันจนไม่มีเอกลักษณ์ของตัวเองเลย

Zelos Hammerhead V3

เมื่อเปิดออกมาก็เจอเข้ากับ Zelos Hammerhead V3 Frost Dial นอนรออยู่ในกล่อง ซึ่งสามารถแปลงร่างเป็นกล่องใส่นาฬิกาได้ เพราะทางแบรนด์ออกแบบให้ข้างในสามารถวางนาฬิกาได้ประมาณ 4 เรือน และตอนที่ได้เห็นตัวเป็นๆ บอกเลยว่าตัวเองลืมความข้องใจที่ตั้งแง่เอาไว้ก่อนหน้านี้

ตัวเรือนที่บางลงช่วยให้นาฬิกาใส่ง่ายขึ้น และความยาวของตัวเรือน หรือ Lug to Lug ก็ถือว่าลงตัวกับข้อมือของผม ซึ่งในรุ่นใหม่เวอร์ชัน 3 ทางแบรนด์ไม่ได้ลดตัวเลขในส่วนนี้ลง ยังอยู่ที่ 48 มิลลิเมตรเท่าเดิมแถมยังมีการออกแบบให้ตัวขาสายมีลักษณะงุ้มลงอันเป็นผลมาจากการปรับปรุงเหลี่ยมมุมของตัวเรือนในช่วงนี้

Zelos Hammerhead V3 Zelos Hammerhead V3

นอกจากนั้น จากการที่แบรนด์ใช้เครื่องผลิตตัวเรือนที่เรียกว่า CNC ยังทำให้เส้นสายบนตัวเรือนมีความเฉียบคม และมีความเที่ยงตรงและแม่นยำในการตัดเหลี่ยมมุมของเส้นสายในส่วนนี้ เม็ดมะยมมีขนาดใหญ่และจับถนัดมือ เพราะถูกออกแบบมาเพื่อให้นักดำน้ำสามารถหมุนปรับเวลาในขณะที่ตัวเองสวมถุงมืออยู่

Zelos Hammerhead V3 Zelos Hammerhead V3 Zelos Hammerhead V3

การจัดวางรายละเอียดบนหน้าปัด การออกแบบชุดเข็มและหลักชั่วโมง รวมถึงการใช้คู่สีของ Zelos Hammerhead V3 Frost Dial ถือว่าลงตัวและถูกใจมาก เอาละแม้ว่าจะไม่เป็นที่ต้องการเพราะ

ณ ตอนนี้ก็ยังไม่ Sold Out แต่บอกเลยว่าถูกใจมาก ซึ่ง Zelos เลือกใช้โทนสีขาว ดำ และฟ้าเป็นตัวคุมโทนสีที่มีอยู่บนตัวเรือนและขอบตัวเรือนของนาฬิกา ซึ่งเป็นกลุ่มสีที่เข้ากันได้อย่างกลมกลืน

Zelos Hammerhead V3

ขอบตัวเรือนในแต่ละรุ่นจะแตกต่างกันไปอย่างรุ่นที่ผมสอยมาจะใช้อินเสิร์ตแบบเซรามิก แต่ก็มีรุ่นขอบที่เป็น Bronze ทั้งหมดขายด้วยขึ้นอยู่กับหน้าปัดแต่ละสี โดยสิ่งที่เหมือนกันใน V3 คือ จะมีการใช้สีที่แตกต่างบนสเกลจับเวลาในช่วง 0-15 เพื่อความสะดวกในการมองเห็น

Zelos Hammerhead V3

กลไก NH35 ที่เป็นรหัสสำหรับผลิตส่งขายของ Seiko นั้นถือว่าเป็นกลไกมาตรฐานสำหรับ Microbrand ในปัจจุบัน เพราะถ้าเป็นรุ่นที่มีการใช้กลไก ETA ราคามักจะขยับไปเท่าตัว ซึ่งในกรณีของ Hammerhead V3

ก็เช่นเดียวกัน เพียงแต่ในรุ่นใหม่นี้ทางแบรนด์ยังไม่มีทางเลือกในแบบ ETA ออกมาขายเหมือนกับรุ่นที่แล้ว แต่ส่วนตัว ผมไม่ได้ซีเรียสอะไรมากมาย เพราะ NH35 ก็ถือว่าเป็นกลไกที่ทนทานมั่นใจได้ และไม่ค่อยเจอปัญกหาจุกจิกกวนใจ

อย่างไรก็ตาม สิ่งเดียวที่กวนใจผมสำหรับนาฬิกาเรือนนี้คือ ความนุ่มที่มีมากเกินไปจนย้วยของสายยาง ความนุ่มเป็นเรื่องดี แต่เมื่อต้องเจอกับนาฬิกาบรอนซ์ที่มีน้ำหนักค่อนข่างเยอะ การเลือกความนุ่มที่ไม่สอดคล้องกัน มักจะนำมาสู่ปัญหาที่คุณจะต้องรัดสายให้แน่นเพื่อป้องกันไม่ให้นาฬิกาดิ้นไปดิ้นมาเวลาอยู่บนข้อมือ

และสิ่งที่ตามมาคือ ความไม่สบายเวลาสวมใส่ ซึ่งตรงนี้จริงๆ แล้วเราสามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเองกับการหาสายมาทดแทน แต่การไม่มีปัญหานี้มาเลยตั้งแต่ต้นทางจะเป็นเรื่องดีที่สุด

Zelos Hammerhead V3 Zelos Hammerhead V3
Zelos Hammerhead V3 Zelos Hammerhead V3 Zelos Hammerhead V3

349 เหรียญสหรัฐฯ คือ ค่าตัวของ Hammerhead V3 และบวกกับภาษีนำเข้าร่วมๆ 1,700 บาท ถือว่าเป็นราคาที่ผมรับได้กับนาฬิกา Microbrand ซึ่งหน้าตาดูดี มีเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของตัวเอง ไม่ใช่เป็นงาน Homage มาจากนาฬิการุ่นดังในอดีตเหมือนอย่างที่เห็นอยู่เป็นประจำ

ส่วนตัวผมว่า Zelos เป็นแบรนด์ที่น่าสนใจและจับตามอง เพราะการอยู่ในตลาดมานานถึง 8 ปีโดยที่ยังเป็นกระแสให้พูดถึง และไม่หายเงียบไปจากตลาดเหมือนกับ Microbrand ค่ายอื่นๆ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการสร้างแบรนด์ของพวกเขา และก็ได้แต่หวังว่า

นาฬิกาเรือนนี้จะไม่ใช่เรือนสุดท้ายของผมกับพวกเขา แต่เป็นจุดเริ่มต้นในการนำไปสู่รุ่นอื่นๆ ที่จะเปิดตัวออกมาในอนาคต

รายละเอียดทางเทคนิค : Zelos Hammerhead V3

  • เส้นผ่านศูนย์กลาง : 44 มิลลิเมตร
  • ความหนา : 13 มิลลิเมตร
  • Lug to Lug : 48 มิลลิเมตร
  • ความกว้างขาสาย : 22 มิลลิเมตร
  • วัสดุตัวเรือน : บรอนซ์
  • กระจก : Sapphire แบบ Double Domed เคลือบสารป้องกันการสะท้อนแสงที่ด้านใน
  • กลไก : อัตโนมัติ NH35 ของ Seiko
  • ความถี่ : 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง
  • กำลังสำรอง : 41 ชั่วโมง
  • การกันน้ำ : 300 เมตร
  • ประทับใจ : รูปทรง รายละเอียดบนหน้าปัด และสเป็กที่คุ้มค่ากับราคา
  • ไม่ประทับใจ : สายยางที่นุ่มไปจนรู้สึกย้วย