Ulysse Nardin จับมือกับ Norrøna แบรนด์เสื้อผ้าสำหรับการใช้งานแบบ Outdoor ในการผลิตนาฬิการุ่นพิเศษที่แสดงให้เห็นถึงความยั่งยืนและห่วงใยต่อสภาพแวดล้อมอย่างรุ่น Diver Norrøna Arctic Night โดยจะมีการผลิตออกขายเพียง 29 เรือนเท่านั้น
Ulysse Nardin Diver Norrøna Arctic Night เรือนเวลาแห่งความยั่งยืนเพื่อสิ่งแวดล้อม
-
โปรเจ็กต์พิเศษที่จับมือร่วมกับผู้ผลิตเครื่องแต่งกาย Outdoor ของนอรเวย์
-
วัสดุและขั้นตอนในการผลิตนาฬิกาเรือนนี้ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ถึง 40% เมื่อเทียบกับกระบวนการผลิตโดยใช้วัสดุแบบเดิม
-
มีการผลิตเพียง 29 เรือนและจะมาพร้อมกับเสื้อ Outdoor ของ Norrøna
ผลงานจากความร่วมมือครั้งใหม่ โดย Ulysse Nardin จับมือกับแบรนด์เสื้อผ้าสำหรับการใช้งานแบบ Outdoor ชื่อดังของนอรเวย์อย่าง Norrøna ในการร่วมผลิตนาฬิการุ่นใหม่ที่มีชื่อว่า Ulysse Nardin Diver Norrøna Arctic Night ซึ่งมาพร้อมกับตัวเรือนที่ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ และสายที่ผลิตจากวัสดุที่มีความยั่งยืน เพื่อสอดรับกับแนวคิด Sustainability ที่กำลังเป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงในวงกว้างสำหรับการทำธุรกิจ
สำหรับการ Collaboration ครั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของการนำสีหรือโลโก้ของแบรนด์ที่ทำงานร่วมด้วยมาแปะอยู่บนส่วนหนึ่งส่วนใดของตัวนาฬิกาแล้วก็จบ แต่ทว่าทั้งคู่มีการสร้างสรรค์และทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง และมีการนำแนวคิดในการดำเนินธุรกิจแบบยั่งยืนของตัวเองมาใช้เป็นตัวตั้งต้นในการทำงาน
โดยทาง Norrøna เองก็ได้ประกาศว่าภายในปี 2029 ซึ่งเป็นวาระครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งบริษัท พวกเขาจะเป็น the most responsible outdoor company หรือพูดง่ายๆ คือ บริษัทที่ทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องของเอาท์ดอร์ที่มีความห่วงใยและรับผิดชอบต่อโลกของเรามากที่สุด
ดังนั้นเราจึงได้เห็นตัวเรือนนาฬิการุ่น Diver มากับวัสดุอย่าง Cabonium ที่เป็นเอกสิทธิ์ในการพัฒนาโดย Ulysse Nardin โดยวัสดุที่ใช้ในการผลิตตัวเรือนจะจากการผสมระหว่าง Nylo (60%) และ Carboium (40%) ดังนั้น บนตัวเรือนจึงมีลวดลายที่แตกต่างและดูคล้ายกับตัวเรือนที่ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์
![]() |
![]() |
![]() |
ฝาหลังแบบใสมีโลโก้ของ Norrøna สกรีนอยู่ ขณะที่ชิ้นส่วนอื่นๆ ของตัวนาฬิกาก็ผลิตจากสแตนเลสสตีลที่ผ่านกระบวนการรีไซเคิล ขณะที่สายก็มาจากไนลอนที่ถูกผลิตขึ้นจากวัสดุที่เป็นส่วนผสมในอัตรา 60-40% จากเส้นใยพลาสติกที่มาจากแหหรืออวนที่ถูกทิ้งอย฿ในธรรมชาติ
โดยจากการทำงานทั้งหมด ทาง Ulysse Nardin เคลมว่า สามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนออกสู่บรรยากาศได้ถึง 40% เมื่อเปรียบเทียบกับกระบวนการผลิตโดยใช้วัสดุแบบเดิมๆ
![]() |
![]() |
ตัวหน้าปัดมากับสัญลักษณ์ X คาดกลางอันเป็นเอกลักษณ์ของ Ulysse Nardin Diver พื้นหน้าปัดสีดำแบบ Sandblasted เข้ากันได้ดีกับรูปแบบโดยรวมของตัวนาฬิกา ขณะที่ในตำแหน่ง 6 นาฬิกาจะเป็นหน้าปัดย่อยของวินาที หรือ Small Second พร้อมกับโลโก้ไวกิ้งของ Norrøna ขณะที่ในตำแหน่ง 12 นาฬิกาจะเป็นหน้าปัดแสดงระดับกำลังสำรอง หรือ Power Reserve Indicator
กลไกในการขับเคลื่อนนาฬิกาเป็น In-House ในรหัส UN-118 แบบอัตโนมัติเดินด้วยความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมงมีกำลังสำรอง 60 ชั่วโมง ซึ่งกลไกรุ่นนี้เปิดตัวครั้งแรกกับนาฬิการุ่น Marine Chronometer ในปี 2012 และมีความโดดเด่นในการใช้เฟืองเอสเคปเมนต์แบบ DiamonSil (ซึ่งเป็นวัสดุที่ผสมระหว่างซิลิเซียมกับเพชรสังเคราะห์) และใยนาฬิกาที่ผลิตจากซิลิเซียม ทำให้มีความทนทาน ความเสถียรในการทำงาน และตัวนาฬิกามีความสามารถในการกันน้ำ 300 เมตร
ที่น่าสนใจคือ กว่า 95% ของชิ้นส่วนที่อยู่ในกลไก UN-118 จะถูกผลิตโดยซัพพลายเออร์ที่มีที่ตั้งซึ่งอยู่ในรัศมี 30 กิโลเมตรโดยรอบของโรงงาน Ulysse Nardin เพื่อลดระยะทางการขนส่งที่อาจจะได้รับผลกระทบจากการปล่อยก๊าซไอเสียออกมา
การผลิตมีเพียงแค่ 29 เรือนเท่านั้นและจะมาพร้อมกับเสื้อ Outdoor ของ Norrøna โดยจะทำตลาดด้วยราคา 12,600 เหรียญสหรัฐฯ
รายละเอียดทางเทคนิค : Ulysse Nardin Diver Norrøna Arctic Night
- เส้นผ่านศูนย์กลาง : 44 มิลลิเมตร
- วัสดุตัวเรือน : Nylo (60%) และ Carboium (40%)
- กระจก : Sapphire เคลือบสารกันการสะท้อนแสง
- กลไก : UN-118 อัตโนมัติ แบบ Small Second
- ความถี่ : 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง
- กำลังสำรอง : 60 ชั่วโมง
- การกันน้ำ : 300 เมตร
- จำนวนการผลิต : 200 เรือน
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline