Tudor Pelagos FXD Alinghi Red Bull Racing Edition สุดพิเศษบนตัวเรือนคาร์บอนไฟเบอร์

0

ผลผลิตใหม่จากนาฬิกาของคอลเล็กชั่น Pelagos FXD กับความพิเศษที่ทำงานร่วมกับทีมแข่งเรือ Alinghi Red Bull Racing พร้อมความเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่กับตัวเรือนที่ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ และขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ MT5602

- Advertisement -

Tudor Pelagos FXD Alinghi Red Bull Racing Edition

Tudor Pelagos FXD Alinghi Red Bull Racing Edition สุดพิเศษบนตัวเรือนคาร์บอนไฟเบอร์

  • รุ่นพิเศษที่ผลิตขึ้นภายใต้ความร่วมมือของทีมแข่งเรือ Alinghi Red Bull Racing

  • ตัวเรือนยังใช้แบบขาหูกระทะยึดตายตัวแต่ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์

  • ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ MT5602

ถือเป็นอีกเวอร์ชันที่ถูกจับตามองและตั้งข้อสงสัยว่าจะมีอะไรใหม่ๆ ออกมาอีกไหมนับจากเปิดตัวในปี 2021 สำหรับ Pelagos FXD ซึ่งในที่สุดทาง Tudor ก็เปิดเผยผลผลิตใหม่ที่อยู่ในคอลเล็กชั่นนี้ออกมาแล้วกับนาฬิการุ่นพิเศษ Tudor Pelagos FXD Alinghi Red Bull Racing Edition ซึ่งควงคู่ออกมาพร้อมกับเวอร์ชัน Chronograph

Pelagos FXD เป็นผลผลิตที่แตกตัวออกมาจากคอลเล็กชั่นหลักอย่าง Pelagos ด้วยตัวเรือนที่มีความพิเศษในแบบ Fixed Lug หรือขาสายแบบหูกระทะที่ยึดติดตายตัว ซึ่งโปรเจ็กต์เป็นการทำงานร่วมกับกองทัพเรือฝรั่งเศส ซึ่งถือเป็นพันธมิตรหลักของ Tudor ตั้งแต่ปี 1956

โดยในครั้งนั้น Groupe d’Étude et de Recherches Sous-Marines (G.E.R.S.) ซึ่งเป็นหน่วยงานทางวิทยาศาสตร์ภายใต้การกำกับดูแลของกองทัพเรือฝรั่งเศสที่มีสำนักงานอยู่ในเมืองตูลง ได้นำเอานาฬิกา Oyster Prince Submariner บางรุ่นไปประเมินประสิทธิภาพการทำงานในสถานการณ์จริง

ก่อนที่จะนำไปสู่การพัฒนานาฬิกาดำน้ำเพื่อใช้กับกองทัพนับตั้งแต่ปี 1961 ซึ่ง Pelagos FXD ถูกเปิดตัวออกมาในปี 2021 ในวาระของการฉลองความร่วมมือครบ 60 ปี

Tudor Pelagos FXD Alinghi Red Bull Racing Edition

สำหรับ Tudor Pelagos FXD Alinghi Red Bull Racing Edition เป็นเวอร์ชันพิเศษในฐานะที่ Tudor เป็นพันธมิตรของทีมแข่งเรือใบ Alinghi Red Bull Racing ซึ่งเริ่มต้นทำงานร่วมกันในปี 2022 และมีการเปิดตัวนาฬิกาออกมา 2 รุ่นคือ  FXD แบบ 3 เข็ม และ Pelagos FXD Chronograph

Tudor Pelagos FXD Alinghi Red Bull Racing Edition

ในรุ่น FXD 3 เข็มนั้นใช้พื้นฐานเดียวกับ Pelagos FXD รุ่นดั้งเดิม แต่มีความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลายจุด โดยเฉพาะเรื่องของวัสดุตัวเรือนที่ในรุ่นดั้งเดิมนั้นจะเป็นแบบไทเทเนียม แต่สำหรับรุ่นใหม่ถูกผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์โดยที่ยังมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือนเท่าเดิมที่ 42 มิลลิเมตร

Tudor Pelagos FXD Alinghi Red Bull Racing Edition

ส่วนฝาหลังเป็นวัสดุอย่างสแตนเลสสตตีล และขอบตัวเรือน-เม็ดมะยมจะผลิตจากไทเทเนียม โดยการเลือกใช้วัสดุเหล่านี้ของทาง Tudor นั้นถือว่าเป็นการสร้างสรรค์ที่สอดคล้องไปกับวัสดุที่ใช้อยู่ในเรือแข่งรุ่น AC75 ของทีม Alinghi Red Bull Racing

Tudor Pelagos FXD Alinghi Red Bull Racing Edition

ขอบตัวเรือนมาพร้อมกับสเกลแบบจับเวลาถอยหลังเหมือนกับรุ่นแรก และสามารถหมุนได้ 2 ทิศทาง โดยตัวเลขที่เป็นสเกลจับเวลาจะได้รับการเคลือบด้วยสารเรืองแสง SuperLuminova Grade X1 ที่ได้รับการพัฒนาให้เพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซับแสงและการคายแสง โดยเมื่อเปรียบเทียบกับสารเรืองแสงทั่วไปด้วยการทดสอบภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน Grade X1 จะมีการส่องสว่างที่ดีกว่าสารเรืองแสงแบบเดิมถึง 60% หลังจากเวลาผ่านไป 2 ชั่วโมง

Tudor Pelagos FXD Alinghi Red Bull Racing Edition

พื้นหน้าปัดคงเลย์เอาท์และสไตล์ของหลักชั่วโมงแบบเดียวกับรุ่นแรก แต่มีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดบางจุดเพื่อให้สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ของตัวความร่วมมือ พื้นหน้าปัดมากับสีแบบเดียวกับที่ใช้กับตัวเรือ AC75 ซึ่งเป็นสีที่สวยและสามารถมองเห็นได้ง่าย

เพิ่มความสวยด้วยเข็มวินาทีและคำว่า ‘Pelagos’ ในตำแหน่ง 6 นาฬิกาที่มากับสีแดง ซึ่งเป็นอีกสีประจำทีมแข่ง ขณะที่ตรงตำแหน่ง 10-2 นาฬิกาของอินเนอร์ริงในหน้าปัดจะมีการพิมพ์ชื่อทีม Alinghi Red Bull Racing ลงไป ส่วนชุดเข็มชั่วโมงก็มากับปลายทรง Snowflake อันเป็นเอกลักษณ์ของ Tudor

อีกสิ่งที่ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของ Tudor มาตั้งแต่ปี 2010 คือ การนำสายผ้าแบบ Single-Piece หรือชิ้นเดียวมาใช้ โดยจะถูกทอขึ้นจากเครื่อง Jacquard ที่ถูกผลิตขึ้นในศตวรรษที่ 19 โดยบริษัท Julien Faure ซึ่งตั้งอยู่ที่ Saint-Etienne ซึ่งในนาฬิการุ่นนี้ก็จะมีการใช้สายผ้ารุ่นนี้ด้วยเช่นกัน และมีการทอออกมาด้วยสีน้ำเงิน-แดง ซึ่งเป็นสีประจำทีมแข่งนี้และใช้ตัวรัดสายที่ผลิตจากไทเทเนียม

สำหรับการขับเคลื่อนยังเป็นหน้าที่ของกลไกอัตโนมัติในรหัส MT5602 ที่พัฒนาขึ้นในโรงงานของ Tudor และมีรายละเอียดแบบเดียวกันกับกลไกที่พัฒนาขึ้นภายในโรงงานรุ่นอื่นๆ เช่น โรเตอร์ทำจากทังสเตนแบบโมโนบล็อกที่มีลวดลายฉลุ

พร้อมพื้นผิวซาตินที่ตกแต่งรายละเอียดแบบพ่นทราย แผ่นเชื่อมและแท่นเครื่องมีพื้นผิวแบบพ่นทรายสลับกับขัดเงาและตกแต่งด้วยเลเซอร์ โครงสร้างถูกออกแบบมาเพื่อรับประกันถึงความทนทาน อายุการใช้งานที่ยืนยาว ความน่าเชื่อถือ และความเที่ยงตรง เช่นเดียวกับเม็ดถ่วงสมดุลในตัวนาฬิกาซึ่งรักษาสมดุลด้วยแผ่นเชื่อมอันมั่นคงที่มีจุดยึดสองจุด และด้วยสปริงซิลิคอนแบบไร้แม่เหล็ก

นอกจากนั้น MT5602 ที่พัฒนาขึ้นภายในโรงงานของตนเองจึงเป็นโครโนมิเตอร์ที่ผ่านการรับรองโดยสถาบันทดสอบความเที่ยงตรงอย่างเป็นทางการของสวิตเซอร์แลนด์ (COSC) ด้วยสมรรถนะที่เหนือชั้นยิ่งกว่ามาตรฐานที่กำหนดโดยสถาบันอิสระแห่งนี้

โดยอันที่จริงแล้ว ทาง COSC อนุญาตให้กลไกนาฬิกามีความผันแปรเฉลี่ยสำหรับอัตราการทำงานในแต่ละวันอยู่ที่ระหว่าง -4 ถึง +6 วินาทีตามเวลาสัมบูรณ์ในแต่ละครั้งที่เคลื่อนไหว แต่ TUDOR ยังคงยืนยันที่จะกำหนดความคลาดเคลื่อนที่ยอมรับได้ไว้ที่ -2 ถึง +4 วินาทีสำหรับนาฬิกาของบริษัทที่ประกอบสมบูรณ์แล้ว

อีกคุณสมบัติที่โดดเด่นก็คือพลังงานสำรองของคาลิเบอร์ MT5602 ที่พัฒนาขึ้นภายในโรงงานของตนเองนั้น “ไม่หยุดสุดสัปดาห์” หรือกล่าวคือประมาณ 70 ชั่วโมง จึงทำให้ผู้สวมใส่สามารถถอดนาฬิกาในคืนวันศุกร์และสวมกลับคืนอีกครั้งตอนเช้าวันจันทร์ได้โดยไม่จำเป็นต้องไขลานหรือตั้งเวลาใหม่

Tudor Pelagos FXD Alinghi Red Bull Racing Edition

Tudor Pelagos FXD Alinghi Red Bull Racing Edition เป็นนาฬิการุ่นพิเศษไม่ได้ผลิตจำกัด และมีราคาอยู่ที่ 132,800 บาท

รายละเอียดทางเทคนิค : Tudor Pelagos FXD Alinghi Red Bull Racing Edition

  • หมายเลขอ้างอิง: Ref. M25707KN-0001
  • เส้นผ่านศูนย์กลาง: 42 มิลลิเมตร
  • วัสดุตัวเรือน: คาร์บอนไฟเบอร์ ฝาหลังตัวเรือนทำจากเหล็กกล้า
  • กลไก: MT5602 In-House แบบอัตโนมัติ COSC
  • กำลังสำรอง: 70 ชั่วโมง
  • ความถี่:28,800 ครั้ง/ชั่วโมง (4Hz)
  • การกันน้ำ: 200 ม. (660 ฟุต)