อีกครั้งที่ Tudor นำเสนอสีสันและความสดใสของหน้าปัดผ่านทางเรือนเวลารุ่น Tudor Black Bay. Chrono ซึ่งในครั้งนี้มากับสี ‘Flamingo Blue’ ซึ่งเป็นนาฬิกาอีกรุ่นที่เติมเต็มด้วยสีสันอันสดใสโดยได้รับแรงบันดาลใจจากบรรยากาศของ South Beach ใน Florida และขับเคลื่อนด้วยกลไก Manufacture รหัส MT5813 พร้อมฟังก์ชั่นจับเวลา
Tudor Black Bay Chrono ความงามจากสีสันของ South Beach
-
นาฬิกาอีกรุ่นที่เติมเต็มด้วยสีสันอันสดใสโดยได้รับแรงบันดาลใจจากบรรยากาศของ South Beach ใน Florida
-
หน้าปัดทรงโดมมากับสี ‘Flamingo Blue’ ซึ่งออกโทนสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ และใช้พื้นฐานของรุ่น Black Bay Chrono
-
ขับเคลื่อนด้วยกลไก Manufacture รหัส MT5813 พร้อมฟังก์ชั่นจับเวลา
Tudor กับคอนเซ็ปต์ Born To Dare ยังเป็นสิ่งที่ถูกนำเสนอออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกับสีสันบนหน้าปัดอันสดใส โดยต่อจากรุ่นหน้าปัดสีชมพูที่เคยสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจในปีที่แล้ว คราวนี้ ทางแบรนด์ได้เปิดตัว Tudor Black Bay. Chrono ‘Flamingo Blue’ กับหน้าปัดสีเทอร์ควอยซ์ พร้อมกับคอนเซ็ปต์ที่อ้างอิงความคลาสสิคและสีสันของแถบ South Beach ของฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา
จริงๆ แล้วนาฬิกาเรือนนี้มีการเผยภาพ Teaser ออกมาก่อนหน้าการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยเป็นภาพที่อยู่บข้อมือของ Jay Chou แบรนด์แอมบาสเดอร์อีกคนของ Tudor และหลังจากนั้นเพียงแค่วันเดียวเท่านั้นก็มีการเผยโฉมออกมา และถือเป็นครั้งที่ Tudor นำเสนอสีสันบนหน้าปัดต่อจากรุ่นหน้าปัดสีชมพูที่เคยสร้างความฮือฮามาเมื่อปีที่แล้ว โดยเป็นอ้างอิงสีสัน โดย Jay Chou ดูเหมือนว่าจะเป็นตัวแทนของการก้าวข้ามสิ่งธรรมดาของแบรนด์ไปแล้ว เพราะในรุ่นหน้าปัดสีชมพู ก็เป็นการทำงานร่วมกันของ Tudor กับ Chou ส่วนรุ่นนี้ก็โปรโมทล่วงหน้าผ่านทางข้อมือของนักแสดงผู้นี้
สิ่งที่น่าสนใจคือ คอนเซ็ปต์ในการนำเสนอสีสัน เพราะแม้ว่าจะว่ามีคำว่า Blue ต่อท้ายชื่อสีสัน แต่หน้าปัดของ Tudor Black Bay. Chrono ‘Flamingo Blue’ ก็ออกโทนสีฟ้าสดใสแบบเทอร์ควอยซ์ โดยแรงบันดาลใจมาจากสีสันและความน่าตื่นตาตื่นใจของบรรยากาศใน South Beach ซึ่งเป็นเมืองชายทะเลทางตอนใต้ของ Florida ประเทศสหรัฐอเมริกา และเป็นเมืองที่มีความหลากหลายของเชื้อชาติของผู้อยู่อาศัย ซึ่งทั้งหมดถูกสะท้อนผ่านหน้าปัดทรงโดม
ตัวนาฬิกาถูกสร้างสรรค์บนพื้นฐานของ Tudor Black Bay. Chrono ซึ่งมากับตัวเรือนขนาด 41 มิลลิเมตรที่ผลิตจากสเตนเลสสตีล ขอบตัวเรือนมากับอินเสิร์ตสีดำที่ผลิตจากอะลูมิเนียมเคลิอบด้วยอะโนไดซ์สีดำพร้อมกับสเกล Tachymeter ขณะที่ตัวสายเป็นการใช้สายแบบ 5-Link พร้อมกับบานพับแบบ T-Fit ซึ่งสามารถปรับได้ละเอียดเพื่อให้รัดกระชับกับข้อมือ โดยเป็นสายแบบเดียวกับรุ่นหน้าปัดชมพู และหน้าปัดสีฟ้าที่เป็น Boutique Edition
หน้าปัดทรงโดมใช้พื้นหลักเป็นสีเทอร์ควอยซ์ หรือ Flamingo Blue ตัดกับสีดำที่เป็นพื้นของหน้าปัดย่อยจับเวลา ซึ่งในตำแหน่ง 3 นาฬิกาจะเป็นหน้าปัดในการจับเวลา ซึ่งจับได้สูงสุด 45 นาที และในตำแหน่ง 9 นาฬิกาจะเป็นเข็มวินาทีแยกจของการแสดงเวลาหลัก โดยเข็มชั่วโมงมากับปลายทรง Snowflake อันเป็นเอกลักษณ์ของนาฬิกาดำน้ำจาก Tudor มาตั้งแต่ปี 1969 พร้อมกับเคลือบสารเรืองแสง Super-LumiNova Grade A
การขับเคลื่อนเป็นกลไกแบบ Manufacture ซึ่งทุกขั้นตอนตั้งแต่ออกแบบและผลิตในโรงงานของ Tudor เป็นรหัส MT5813 ที่มีความเที่ยงตรงระดับ Chronometer ที่ผ่านการรับรองโดย C.O.S.C. โดยระบบจับเวลามีการติดตั้งทั้ง Vertical Clutch เพื่อความนุ่มนวลในการกดปุ่ม และ Column Wheel ซึ่งจะช่วยลดอาการกระตุกของเข้มวินาทีที่ใช้ในการจับเวลา ทำให้มีความเที่ยงตรงและแม่นยำมากขึ้น ส่วนกำลังสำรองอยู่ในระดับ 70 ชั่วโมง และมีความสามารถในการกันน้ำ 200 เมตร
Tudor Black Bay. Chrono ‘Flamingo Blue’ มากับรหัส Ref.79360N และมีราคาจำหน่ายในเมืองไทยอยู่ที่ 217,500 บาท
รายละเอียดทางเทคนิค : Tudor Black Bay. Chrono ‘Flamingo Blue’
- เส้นผ่านศูนย์กลาง :41 มิลลิเมตร
- ความหนา :14.4 มิลลิเมตร
- ความกว้างขาสาย :22 มิลลิเมตร
- กระจก :Sapphire ทรงโดม
- กลไก :อัตโนมัติ MT5813 แบบจับเวลา
- ความถี่ :28,800 ครั้งต่อชั่วโมง
- กำลังสำรอง :70 ชั่วโมง
- การกันน้ำ :200 เมตร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline