Tudor Black Bay Chrono เพิ่มสาย 5-Link และ Fit สำหรับรุ่น Panda

โดย

GoodTimes

14/04/2025

T-Fit เป็นนวัตกรรมบานพับของ Tudor ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานกับสายโลหะ และที่ผ่านมาในรุ่น Tudor Black Bay Chrono ยังไม่มีบานพับแบบนี้เข้ามา ดังนั้น ในปี 2025 ทางแบรนด์จึงเพิ่มบานพับ T-Fit ในรุ่นสาย 3-Link และเพิ่มรุ่น 5-Link พร้อม T-Fit ที่ในอดีตมีเฉพาะในนาฬิการุ่นพิเศษเข้ามาอยู่ในรุ่นปกติของ Tudor Black Bay Chrono

- Advertisement -

Tudor Black Bay Chrono

Tudor Black Bay Chrono เพิ่มสาย 5-Link และ Fit สำหรับรุ่น Panda

การเพิ่มทางเลือกใหม่ด้วยบานพับแบบ T-Fit สำหรับรุ่น 3-Link
เพิ่มสาย 5-Link เข้ามาในรุ่นธรรมดา โดยจะเริ่มกับหน้าปัดสไตล์ Panda สีขาว-ดำก่อน
ตัวเรือน 41 มิลลิเมตร ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติจับเวลา MT5813

หลังจากที่สายแบบ 5 แถว หรือ 5-Link ที่มาพร้อมกับบานพับแบบ T-Fit เปิดตัวออกมา ส่วนใหญ่แล้วถ้าเป็นรุ่น Tudor Black Bay. Chrono จะมากับเฉพาะรุ่นพิเศษที่เป็น Boutique Edition เท่านั้น ยังไม่มีจำหน่ายร่วมกับรุ่นปกติธรรมดาเหมือนกับเวอร์ชัน 3 เข็มรุ่นใหม่ จนกระทั่งถึงตอนนี้ เมื่อ Tudor ขยายทางเลือกของสายรุ่นนี้มากับรุ่น Tudor Black Bay. Chrono 3-Link สำหรับรุ่นหน้าปัดสไตล์ Panda และ Reverse Panda พื้นหน้าปัดสีขาว และสีดำ โดยจะทำตลาดควบคู่กับสายแบบ 3 แถวซึ่งได้รับการเปลี่ยนบานพับเป็นแบบ T-Fit แล้วเช่นกัน

นับจากปี 1970 ที่ Tudor เข้าสู่ตลาดนาฬิกาจับเวลาหรือ Chronograph ด้วยรุ่น Oysterdate ทางแบรนด์ได้เปิดตัวนาฬิกาจับเวลาที่มีความโดดเด่นออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งถึงรุ่นล่าสุด ซึ่งล่าสุดนาฬิกาจับเวลาถูกบรรจุให้เป็นส่วนหนึ่งของคอลเล็กชั่น Black Bay และ Pelagos โดยเป็นการผสมผสานความสปอร์ต และความสามารถในการกันน้ำเข้าด้วยกัน พร้อมกับอ้างอิงรูปทรงของเข็มชั่วโมงที่มีปลายเป็นเอกลักษณ์และถูกเรียกว่า Snow Flake ซึ่งถูกใช้ครั้งแรกในปี 1969

สำหรับ Tudor Black Bay. Chrono เป็นนาฬิกาที่เปิดตัว 2021 ในวาระของการฉลอง 50 ปีในการทำตลาดนาฬิกา Chronograph ด้วยนาฬิกาในสไตล์ Panda และ Reverse Panda พื้นหน้าปัดสีขาว และสีดำ ซึ่งถูกส่งมาเป็นรุ่นแรก ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่เมื่อ Tudor ต้องการปรับปรุงตัวสาย และเพิ่มอีกทางเลือกเข้ามา หน้าปัดทั้ง 2 สีนี้จึงเป็นตัวเลือกแรก

สำหรับรุ่นสาย 3-Link นั้น มีทำตลาดมาตั้งแต่รุ่นแรกๆ แล้ว ดังนั้น การเพิ่มรุ่นครั้งนี้จึงเป็นการปรับปรุงบานพับสาย ด้วยการติดตั้งระบบ T-Fit เข้าไป ซึ่งนั่นหมายความว่าตัวบานพับสายสามารถปรับละเอียดได้ 5 ตำแหน่งโดยมีระยะเคลื่อนตัวเพิ่มขึ้นหลังจากตัดสายแล้วสูงสุด 8 มิลลิเมตร ตรงนี้จะช่วยอย่างมากในเรื่องเวลาที่เกิดความเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิที่ทำให้ผิวหนังของเราขยายหรือหดตัว จนทำให้นาฬิกาที่สวมใส่อยู่หลวมหรือแน่นเกิน ก็สามารถใช้ระบบนี้ปรับโดยไม่จำเป็นจะต้องเพิ่มข้อสาย

Tudor Black Bay Chrono

อีกรุ่นที่มีเข้ามาคือ สายสเตนเลสสตีลแบบ 5 แถว หรือ 5-Link ซึ่งตามปกติแล้ว สายรุ่นนี้จะอยู่กับพวกนาฬิการุ่นพิเศษแบบ Boutique Edition แต่สำหรับรุ่นนี้จะมีเพิ่มเข้ามาในรุ่นปกติ และรุ่นนี้ก็มาพับบานพับแบบ T-Fit นั่นหมายความว่า Tudor Black Bay Chrono ใหม่จะมีด้วยกัน 4 รุ่นย่อยคือ

สาย 3-Link พร้อม T-Fit

Ref.M79360N-0011 หน้าปัดแบบ Reverse Panda
Ref.M79360N-0012 หน้าปัดแบบ Panda

สาย 5-Link พร้อม T-Fit

Ref.M79360N-0013 หน้าปัดแบบ Reverse Panda
Ref.M79360N-0014 หน้าปัดแบบ Panda

ทุกรุ่นมากับตัวเรือนที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 41 มิลลิเมตร ตัวเรือนและสายผลิตจากสเตนเลสสตีล โดยที่กลไกขับเคลื่อนยังเป็นอัตโนมัติในรหัส MT5813 เหมือนกับทุกรุ่นของ Tudor Black Bay Chrono มีกำลังสำรอง 70 ชั่วโมง พร้อมฟังก์ชั่นจับเวลาสูงสุด 45 นาที โดยที่มีกลไกทั้งคลัตช์แนวตั้ง (Vertical Clutch) และ Column Wheel เข้ามาช่วยทำงานเพื่อเพิ่มความเที่ยงตรง และแม่นยำในการจับเวลา เช่นเดียวกับความสะดวกสบายในการกดปุ่มเพื่อจับเวลา ขณะที่ความเที่ยงตรงอยู่ในระดับ Chronometer

Tudor Black Bay Chrono ทำตลาดแล้ว โดยรุ่น 3-Link มีราคาอยู่ที่ 213,700 บาท ส่วนรุ่น 5-Link มีราคา 217,500 บาท