2 ปีหลังจากที่รุ่น Seascoper เปิดตัวออกมาและได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าทั่วโลก ทำให้ Titoni จัดการเปิดตัวรุ่นน้องของคอลเล็กชั่นนี้กับสเป็กที่ลดลงด้วยความสามารถในการกันน้ำ 300 เมตร และกลไกใหม่แต่ยังคงความเที่ยงตรงในระดับ Chronometer เหมือนเดิม และมีจำหน่ายทั้งหมด 3 สีหน้าปัด กับ 3 รูปแบบของสาย
Titoni Seascoper 300m ปรับสเป็กและยังแจ่มเหมือนเดิม
-
การเพิ่มทางเลือกให้กับรุ่น Seascoper ด้วยรุ่น 300m
-
ตัวเรือนไซส์ 42 มิลลิเมตรเท่าเดิมแต่ปรับลดความหนาลง และเปลี่ยนกลไกใหม่
-
มีขายทั้งหมด 3 สีหน้าปัด กับ 3 รูปแบบของสาย
หลังจากที่เปิดตัวคอลเล็กชั่น Seascoper พร้อมกับได้รับการตอบรับจากแฟนนาฬิกาทั่วโลกเป็นอย่างดี ในตอนนี้ทาง Titoni เปิดตัวทางเลือกใหม่ของคอลเล็กชั่นนี้กับรุ่น Titoni Seascoper 300m ที่มีการปรับสเป็กใหม่พร้อมกับหน้าปัดแบบใหม่ แต่ยังคงดีไซน์และกลิ่นอายที่สามารถสัมผัสได้จากรุ่นใหญ่อย่าง Seascoper 600m โดยจะมาพร้อมกับหน้าปัด 3 สี คือ ดำ น้ำเงิน และเขียว
![]() |
![]() |
![]() |
สำหรับนาฬิการุ่นนี้ยังคงความโดดเด่นในแง่ของการออกแบบที่สามารถมัดใจบรรดาแฟนๆ นาฬิกาดำน้ำได้เป็นอย่างดี แต่ก็มีการปรับสเป็กในแง่ของรายละเอียดหลายจุดของตัวนาฬิกาลงจากรุ่น 600m ที่เปิดตัวในปี 2020 เช่น ตัวเรือนที่บางลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 12.55 มิลลิเมตร (จากเดิม 14.45 มิลลิเมตร) และไม่มีช่อง Helium Escape Valve ขณะที่เส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือนอย่างเท่ากันที่ 42 มิลลิเมตร
ถ้ามองจากหน้าปัดจะพบถึงความเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน ใน Titoni Seascoper 300m จะมากับหน้าปัดที่เป็นหลักชั่วโมงและไม่มีตัวเลขกำกับเหมือนกับรุ่น 600m มีช่องหน้าต่างอยู่ในตำแหน่ง 3 นาฬิกาเหมือนกัน และใช้ชุดเข็มชั่วโมง นาที และวินาทีที่มีรูปทรงคล้ายกัน
โดยในรุ่น 300m จะมีสีหน้าปัดให้เลือกด้วยกัน 3 สีคือ ดำ น้ำเงิน และเขียว พร้อมกับทางเลือกของสายที่มีทั้งสายสแตนเลสสตีล สายผ้าไนลอน และสายยาง โดยตัวสายผ้าไนลอนนั้นผลิตจากวัสดุที่เป็นเส้นใย ซึ่งผ่านกระบวนการรีไซเคิลจากขวดพลาสติกซึ่งเป็นขยะที่อยู่ในทะเลจากโปรเจ็กต์ของ TIDE พร้อมอินเสิร์ตบนขอบตัวเรือนที่ผลิตจากเซรามิก
![]() |
![]() |
![]() |
ฝาหลังเป็นอีกจุดที่เปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน โดยจริงอยู่ที่ Titoni พยายามคงรูปแบบของรุ่น Seascoper 600m เอาไว้ด้วยการออกแบบฝาหลังให้มีสไตล์ Porthole หรือช่องหน้าต่างของเรือเดินทะเล ซึ่งเป็นทรงกลมและมีหมุดยึดโดยรอบ แต่ในรุ่น Seascoper 300m จะเปลี่ยนจากแบบฝาหลังใสแบบเห็นกลไกมาเป็นแบบทึบ และตรงพื้นผิวที่เป็นทรงกลมในช่อง Porthole จะมีการขัดเงาจนเหมือนกับกระจก
แน่นอนว่าแม้ในรุ่น Seascoper 300m จะมาพร้อมกับความเที่ยงตรงในระดับ Chronometer แต่ก็ไม่ได้ใช้กลไก T10 แบบเดียวกับ Seascoper 600m ซึ่งเป็นกลไกแบบ In-House โดยในรุ่น 300m จะมากับกลไกที่พัฒนาบนพื้นฐานของ Sellita SW-200 ผ่านการขัดแต่งและปรับปรุงจนมีความเที่ยงตรงในระดับ Chronometer เช่นเดียวกัน แต่มีกำลังสำรองอยู่ที่ 42 ชั่วโมงเท่านั้น
![]() |
![]() |
ตรงนี้เกิดเครื่องหมายคำถามทันที เพราะเมื่อดูจากราคาแล้วแทบจะต่างกันไม่มาก โดย Seascoper 600m มีราคาอยู่ที่ 1,870 ฟรังก์สวิสส์ ส่วนรุ่น 300m มีราคาอยู่ที่ 1,750 ฟรังก์สวิสส์ ซึ่งต่างกันแค่ 100 ฟรังก์สวิสส์เท่านั้นเอง แต่สเป็กกลับแตกต่างกันค่อนข้างมาก แถมยังเป็นนาฬิกาที่มีขนาดตัวเรือนเท่ากัน ต่างกันแค่ความหนา และสีสันของหน้าปัด
![]() |
![]() |
![]() |
ซึ่งก็คงต้องดูกันต่อไปว่า สุดท้ายแล้วความต่างแค่ 100 ฟรังก์สวิสส์แต่สเป็กเปลี่ยนไปค่อนข้างมากจะส่งผลต่อการตัดสินใจของลูกค้าที่จะเทใจมาสู่รุ่น Seascoper 300m หรือไม่ โดยราคาของ Titoni Seascoper 300m จะอยู่ที่ 1,630-1,750 ฟรังก์สวิสส์ขึ้นอยู่กับประเภทของสาย
รายละเอียดทางเทคนิค : Titoni Seascoper 300m
- เส้นผ่านศูนย์กลาง : 42 มิลลิเมตร
- ความหนา : 12.55 มิลลิเมตร
- วัสดุตัวเรือน : สแตนเลสสตีล
- กระจก : Sapphire เคลือบสารกันการสะท้อนแสง
- กลไก : อัตโนมัติ SW-200 Chronometer
- ความถี่ : 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง
- กำลังสำรอง : 42 ชั่วโมง
- การกันน้ำ : 300 เมตร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline