TAG Heuer x Porsche – คู่ตำนานแห่งการแข่งขันในรายการพานาเมริคานา

0

Porsche และ TAG Heuer ร่วมเฉลิมฉลองให้กับรายการการแข่งขัน คาร์เรร่า พานาเมริคานา (Carrera Panamericana) ความผูกพันแห่งตำนานของคาร์เรร่า (Carrera) และความร่วมมืออันยาวนานกับแท็ก ฮอยเออร์ (TAG Heuer) และแรงบันดาลใจแห่งการสรรสร้าง ปอร์เช่ 550 คูเป้ (Porsche 550 Coupé) รถแข่งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเพื่อระลึกถึงและเชิดชู องค์ประกอบต่างๆ ของการออกแบบ ได้รับอิทธิพลมาจากการแข่งขันที่มีชื่อเสียงในเม็กซิโก

TAG Heuer x Porsche
TAG Heuer x Porsche

TAG Heuer x Porsche – คู่ตำนานแห่งการแข่งขันในรายการพานาเมริคานา

- Advertisement -

Porsche และ TAG Heuer เป็นพันธมิตรกันมายาวนานหลายปี ตั้งแต่ความร่วมมือในกีฬามอเตอร์สปอร์ตรวมไปถึงการเปิดตัวนาฬิกาที่ออกแบบมาเชื่อมโยงกันต่อหลายครั้ง และในปัจจุบันเกิดการพัฒนารถยนต์รุ่นพิเศษ ‘TAG Heuer x PorscheLegends of Panamericana’ Sonderwunsch เป็นโครงการที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรุ่น 550 Coupé โดย 2 ทีมนักแข่งในรายการ Carrera Panamericana เมื่อปี 1953

สำหรับรุ่น 550 Coupé นี้ มีพื้นฐานมาจาก 718 Cayman GT4 RS ที่มีสมรรถนะเหนือชั้นอย่างไร้ที่ติ สร้างความประทับใจให้กับผู้ขับขี่ด้วยโครงสร้างน้ำหนักเบา การปรับแต่งแชสซีที่คล่องตัวเป็นพิเศษ และหลักอากาศพลศาสตร์ที่เหนือชั้น โดยการออกแบบของ 718 Cayman ถือเป็นซีรีส์ที่มีสมรรถนะสูงสุดเทียบเท่ารถแข่งในตำนาน และรถ Sonderwunsch หมายเลขแข่ง 154 จะถูกเปิดตัวในนิทรรศการ ‘TAG Heuer Heritage Experience’ งาน Rennsport Reunion 7

TAG Heuer x Porsche
TAG Heuer x Porsche

ย้อนกลับไปเมื่อ 70 ปีที่แล้ว 2 ทีมนักแข่ง ได้นำรถ ปอร์เช่ 550 คูเป้ (Porsche 550 Coupé) เข้าร่วมการแข่งขันคาร์เรร่า พานาเมริคานา (Carrera Panamericana) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งการแข่งขันที่น่าสนใจในวงการรถแข่งในยุคนั้น และเมื่อ 60 ปีก่อน Jack Heuer ได้นำนาฬิกาข้อมือโครโนกราฟหรือนาฬิกาจับเวลามาใช้สำหรับนักแข่งรถ

โดยเฉพาะ นั่นคือ TAG Heuer Carrera Chronograph และเพื่อเป็นหวนย้อนกลับไปถึงการแข่งรถในตำนานที่ประเทศเม็กซิโก เขาได้ตั้งชื่อนาฬิกาตามชื่อตามรายการแข่งรถในครั้งนี้ด้วย ทั้ง 2 เหตุการณ์บ่งบอกได้ถึงตำนานแห่งความผูกพันของ คาร์เรร่า (Carrera) และในการนี้ถือเป็นวาระแห่งการเฉลิมฉลองระหว่างทั้ง 2 แบรนด์ จึงเกิดโปรเจกต์พิเศษที่เรียกว่า “Sonderwunsch”

โดยการนำเอารถ 718 เคย์แมน จีที4 อาร์เอส จำนวน 2 คัน มารังสรรค์ให้มีความพิเศษยิ่งขึ้นภายใต้รถแข่งหมายเลข 154 ได้รับความร่วมมือจากปอร์เช่ ลาตินอเมริกา และเปิดตัวเป็นครั้งแรกที่ Rennsport Reunion 7 งานพบปะของเหล่าบรรดาแฟนปอร์เช่ตัวยง จัดขึ้น ณ  Weathertech Raceway Laguna Seca รัฐแคลิฟอร์เนีย

TAG Heuer x Porsche
TAG Heuer x Porsche
TAG Heuer x Porsche
TAG Heuer x Porsche

แพทริค เดมป์ซีย์ (Patrick Dempsey) นักแข่งรถ นักแสดงชาวอเมริกัน แบรนด์แอมบาสเดอร์ของ TAG Heuer และ Porsche Design จะเข้าร่วมงานเปิดตัวที่ Rennsport Reunion 7 ในช่วงกลางเดือนตุลาคม และเขาจะขับรถสปอร์ตรุ่นใหม่นี้

ในช่วงที่ 1 และ 2 ของการแข่งขัน Carrera Panamericana ปีนี้ รถคันที่ 2 ที่มีหมายเลขแข่ง152 จะถูกนำมาโชว์ตัวที่นี่ด้วยเช่นกัน นั่นคือ  718 Cayman GT4 RS คันนี้มีความแตกต่างจากรถคันแรกเพียงเล็กน้อย ซึ่งจะมีการเปิดประมูลในช่วงต้นปี 2024

รถสปอร์ตทั้ง 2 คันถูกสร้างขึ้นในเวิร์คช็อป Porsche Sonderwunsch ในเมือง Stuttgart-Zuffenhausen โดยได้รับความช่วยเหลือจาก Style Porsche ซึ่งเปรียบดั่งคลังข้อมูลของบริษัท ซึ่งปอร์เช่ ลาติน อเมริกา (Porsche Latin America) ได้ร่วมมือกับ TAG Heuer

โดยหน้าที่สำคัญของผู้เชี่ยวชาญจาก Porsche Exclusive Manufaktur คือการยกระดับรถสปอร์ตที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยการผสมผสานระหว่างงานฝีมือที่มีทักษะและความใส่ใจในรายละเอียด ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ Co-Creation ปอร์เช่ได้จัดทำโครงการ Sonderwunsch ที่เป็นตำนานตั้งแต่ปลายทศวรรษ 1970 ขึ้นมาใหม่ ซึ่งช่วยให้สามารถออกแบบรถยนต์ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว (one-off cars) ให้ลูกค้าได้

TAG Heuer x Porsche

คำแถลงเกี่ยวกับ TAG Heuer x Porsche – คู่ตำนานแห่ง พานาเมริคานา

อเล็กซานเดอร์ ฟาบิค (Alexander Fabig) รองประธานบริหารฝ่าย Individualization และ Classic ของ ปอร์เช่ เอจี (Porsche AG) กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้นำเสนอรถยนต์รุ่นพิเศษของ Sonderwunsch ซึ่งเป็นไฮไลท์ของงาน Rennsport Reunion ในปีนี้ รถยนต์ทั้ง 2 คันได้มีการออกแบบที่ผสมผสานคุณลักษณะของรถยนต์ในตำนานอย่าง ปอร์เช่ 550 คูเป้ (Porsche 550 Coupé) เข้าด้วยกัน

ขณะเดียวกันโครงการนี้ยังแสดงให้เห็นอีกว่า Sonderwunsch ของ ปอร์เช่ เอจี (Porsche AG) สามารถทำอะไรได้บ้าง”

ด้านโรเบิร์ต เอเดอร์ (Robert Ader) หัวหน้าฝ่ายการตลาดของ ปอร์เช่ เอจี (Porsche AG) กล่าวว่า “การแข่งขัน Carrera Panamericana นั้น  TAG Heuer และ Porsche มีความคล้ายคลึงกันหลายอย่าง อาทิ ด้านนวัตกรรม ด้านความหลงใหลในการแข่งรถ และการทำความฝันให้เป็นความจริง เราต้องการเฉลิมฉลองความร่วมมือของเราร่วมกับรถยนต์พิเศษอันเป็นเอกลักษณ์ 2 คันนี้ และมากกว่านั้นยังเป็นของขวัญให้กับลูกค้าที่รักแบรนด์ของเราในละตินอเมริกา”

โทเบียส เอนิงเงอร์ (Tobias Eninger) ซีอีโอของ Porsche Latin America กล่าวว่า “ปอร์เช่ ลาติน อเมริกา (Porsche Latin America) ได้สร้างสรรค์รถยนต์พิเศษ 2 คันนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองตำนานแห่งปอร์เช่ในการแข่งขัน La Carrera Panamericana ระหว่างปี 1952-1954 และปีนี้เราภูมิใจอย่างมาก ไม่เพียงแค่การสร้างรถพิเศษที่ทำให้หวนระลึกไปถึงรถหมายเลข 152

ซึ่งคว้าชัยชนะที่ Carrera Panamericana ในปี 1953 เพียงเท่านั้น แต่ยังได้จำลองการแข่งขันแบบทีมโดยรถรุ่นพิเศษหมายเลข 154 และยิ่งไปกว่านั้น ยังได้ร่วมสนับสนุนกิจกรรม CSR โดยนำรถหมายเลข 152 นำไปประมูลในประเทศเม็กซิโก”

จอร์จ ซิซ (George Ciz) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด (CMO) ของ TAG Heuer กล่าวว่า TAG Heuer x Porsche คือ 2 บริษัทที่เป็นพาสเนอร์ทางธุรกิจ มีการเฉลิมฉลองเนื่องในแห่งวาระแห่งปีที่ครบรอบ 60 ปีของนาฬิกา Carrera Chronograph นี่เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้น สำหรับ TAG Heuer ความร่วมมือครั้งใหม่กับปอร์เช่ แสดงถึงความตั้งใจอย่างเต็มที่ด้านความแม่นยำและสมรรถนะ

เป็นการผสมผสานวัฒนธรรมระหว่างการแข่งรถ และการเฉลิมฉลองจิตวิญญาณแห่งความเป็นมอเตอร์สปอร์ต และคือก้าวสำคัญของการเป็นหุ้นส่วนและพันธมิตรทางธุรกิจ และรถยนต์เหล่านี้เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่า เมื่อแบรนด์ใหญ่ที่มีเอกลักษณ์ 2 แบรนด์มารวมตัวกัน สามารถสรรสร้างสิ่งที่พิเศษได้อย่างแท้จริง

ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะร่วมเฉลิมฉลองให้แก่ “Carrera” ด้วยการออกแบบคุณสมบัติพิเศษของรถ ซึ่งนั่นก็คือ: โมดูลนาฬิกาจับเวลา TAG Heuer ในคอนโซลกลางของรถ”

แพทริค เดมป์ซีย์ (Patrick Dempsey) นักแข่งรถปอร์เช่ และมีทีมแข่งรถของตนเอง อีกทั้งยังเป็นนักแสดงชาวอเมริกัน และแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ TAG Heuer และ Porsche Design กล่าวว่า “การแข่งขัน Carrera Panamericana พิเศษมากๆ เนื่องจากถูกมองว่าเป็นการแข่งขันที่ยากที่สุดในโลกมาเป็นเวลานาน ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เดินตามเส้นทางความสำเร็จของมอเตอร์สปอร์ตในยุคแรกของ Porsche และ Carrera ในตำนานของ TAG Heuer และได้อยู่ในจุดเริ่มต้นของการแข่งขันอันทรงเกียรติในปีนี้

องค์ประกอบของการออกแบบต่างๆ เชื่อมโยงกับแข่งขัน Carrera Panamericana ที่โด่งดัง

โครงการ Sonderwunsch มีองค์ประกอบในการออกแบบหลายอย่างที่แสดงถึงความเชื่อมโยงที่มีมายาวนานระหว่าง 2   แบรนด์ แกรนท์ ลาร์สัน (Grant Larson) จากสไตล์ ปอร์เช่ (Style Porsche) ได้ดีไซน์รถสำหรับการแข่งขัน Carrera Panamericana หมายเลข 152 และ 154 โดยใช้สีของตัวเลขเป็นสีเดียวกับตัวถังรถ และมีขอบสีเหลืองล้อมรอบหมายเลขการแข่งขัน สีบนประตูและหลังคาของรถถูกดีไซน์ด้วยภาพถ่ายของ Porsche 550 Coupé ที่ลงแข่งขันในรายการแข่งรถระดับตำนาน

รถทั้ง 2 คันเป็นสีเทา Le Mans Silver Metallic รวมไปถึงส่วนประกอบภายนอกอื่นๆ ขอบมุมของหน้าต่าง แผงช่องรับอากาศต่างๆ ที่บริเวณด้านหน้าและด้านข้าง ทอด้วยคาร์บอนทั้งหมด สีพิเศษถูกสรรสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถัน ด้วยความร่วมมือระหว่าง Porsche France, Automobile Club de l’Ouest (ACO) และผู้เชี่ยวชาญของปอร์เช่ เอจี (Porsche AG) ซึ่งเป็นสีพิเศษที่พัฒนาขึ้นมาเฉพาะเนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปีของ 24 Hours of Le Mans และถูกนำมาใช้สำหรับรุ่น ‘911 Carrera GTS Le Mans Centenaire Edition’ และ 718 GT4 RS รถพิเศษสำหรับโปรเจกต์นี้อีกด้วย และสีนี้เป็นสีเดียวกับรถของผู้ชนะคนแรกในรายการ 24 Hours of Le Mans (356 SL Coupé, 1951) และในปี 1953 รถทั้ง 2 คันได้ลงสนาม Le Mans เป็นครั้งแรก และยังสามารถคว้า 2 อันดับแรกในรุ่นขนาด 1.5 ลิตรอีกด้วย

บริเวณตรงกลางฝากระโปรง และด้านข้างของปีกหลัง รถในโครงการ Sonderwunsch จะมีโลโก้ TAG Heuer เป็นสีเทาเข้ม มองเห็นได้ผ่านกระจกหลังบริเวณกล่องกรองระบายอากาศของเครื่องยนต์วางกลาง ส่วนฝาครอบดุมล้อของขอบล้อเซ็นทรัลล็อคบนปีกหน้าซ้าย (ของหมายเลขรถแข่ง 152) และบนซุ้มล้อหลังซ้าย (ของหมายเลขรถแข่ง 154) เป็นลายลายเพกาซัส อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือเจ้ารุ่น 550 Spyder ที่ปอร์เช่นำมาลงแข่งในรายการ Carrera Panamericana เป็นหนึ่งในรถแข่งคันแรกๆ ที่ติ๊กสติ๊กเกอร์ของสปอนเซอร์เป็นรูปม้ามีปีกซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของโลโก้โมบิลออยล์ (Mobil Oil) และในขณะนี้ Porsche Tequipment กำลังผลิต Pegasus เวอร์ชันดั้งเดิมขึ้นใหม่เพื่อติดเป็นสติ๊กเกอร์สำหรับลูกค้า Porsche ทุกคน

ภายในห้องโดยสารใช้หนังสีแดง Guards Red ตัดกับแผงหน้าปัดและแผงประตูสีดำ on-board interior package ผิวอะลูมิเนียมชุบอะโนไดซ์สีดำ ซี่ล้อพวงมาลัยก็เป็นสีดำเช่นกัน พร้อมไฮไลท์สำคัญคือการปักเดินด้ายไขว้ 3 สี ตามสีของธงชาติเม็กซิโกและโลโก้ TAG Heuer รอยเย็บสีเขียว สีขาว และสีแดง ซึ่งจะเห็นได้บนขอบพวงมาลัย และตัวอักษร ‘GT4 RS Panamericana Special’ ถูกพิมพ์ลงบนแผงประตู และพิมพ์ลงบนแผงที่วางแก้วด้านผู้โดยสารบริเวณหน้าปัด โดยผู้เชี่ยวชาญแผนก Porsche Exclusive Manufaktur ได้ใส่องค์ประกอบสำคัญอีก 2 สิ่งคือ ของโลโก้ Carrera Panamericana ที่ติดบนหมอนพนักพิงศีรษะ พร้อมกับดีไซน์ตัวอักษรอันเป็นเอกลักษณ์ของหมวกนักแข่ง และโลโก้ TAG Heuer บริเวณที่วางแขนระหว่างคนขับและผู้โดยสาร อีกหนึ่งความพิเศษของรถแข่งหมายเลข 154 คือโมดูลนาฬิกาจับเวลา TAG Heuer ที่คอนโซลกลาง ซึ่งถูกออกแบบและผลิตโดย TAG Heuer สำหรับโปรเจกต์นี้โดยเฉพาะ และไม่มีวางจำหน่าย

เกี่ยวกับ คาร์เรรา พานาเมริกานา (Carrera Panamericana)

คาร์เรรา พานาเมริกานา (Carrera Panamericana) เป็นการแข่งรถบนถนนที่ทรหดเป็นระยะทางกว่า 3,400 กิโลเมตรทั่วประเทศเม็กซิโก การแข่งรถนี้มีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับ Porsche และ TAG Heuer ในปี 1952 บริษัทได้เข้าร่วมการแข่งขันเป็นครั้งแรกโดยได้รับการสนับสนุนจากโรงงาน และในปี 1953 รถสปอร์ต Type 550 ใหม่ก็ได้ลงแข่งในชื่อ Spyder และ Coupé

จิตวิญญาณของการแข่งขันและชื่อเสียงที่โด่งดัง เป็นแรงบันดาลใจให้ Jack Heuer สร้างนาฬิกาข้อมือโครโนกราฟ Carrera เรือนแรก และเปิดตัวในปี 1963 ถือเป็นโครโนกราฟเรือนแรกที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับนักแข่งรถมืออาชีพและผู้ที่ชื่นชอบรถสปอร์ต การออกแบบให้อารมณ์สื่อถึงพละกำลังแห่งความเร็ว และแรง สำหรับหน้าปัดมาพร้อมกับฟังก์ชั่นสำหรับวัดความเร็ว นาทีหน่วยเป็นทศนิยม ซึ่งปอร์เช่ได้จดทะเบียนการค้าและใช้คำนี้ไปอย่างเป็นทางการ ณ งาน IAA เมื่อปี 1955 พร้อมเปิดตัวรถยนต์ปอร์เช่รุ่น  356 A 1500 GS Carrera และในปี  1972 ปอร์เช่ได้เปิดตัว 911 Carrera RS 2.7 อย่างเป็นทางการ

Porsche และ TAG Heuer ได้สานต่อกิจกรรมของ Carrera มาเป็นเวลาหลายปีและคงความมีชื่อเสียงอันโด่งดังในตำนานของยุคทองมอเตอร์สปอร์ต ซึ่งทั้ง 2 แบรนด์เป็นพันธมิตรกันมาอย่างยาวนาน สืบเนื่องมาจากการขาย Heuer ให้กับ TAG Group ในช่วงกลางทศวรรษ 1980 บริษัทจึงกลายเป็น TAG Heuer จวบจนยุคของเครื่องยนต์ TAG Turbo ที่พัฒนาและสร้างโดย Porsche อีกทั้งยังได้รับทุนจาก TAG Heuer ซึ่งนับเป็นยุคของเครื่องยนต์ TAG Turbo ที่พัฒนาและสร้างโดย Porsche ลงทุนโดย TAG Heuer นี่คือเครื่องยนต์ที่ทำให้ Niki Lauda (1984) และ Alain Prost (1985 และ 1986) กลายเป็นแชมป์โลก F1 และทีม McLaren TAG Porsche ยังได้รับรางวัลผู้สร้างติดต่อกัน ทั้งในปี 1984 และ 1985

ในปี 1999 ความสัมพันธ์ของทั้ง 2 แบรนด์ แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นสืบเนื่องมาจากการแข่งขัน Porsche Carrera Cup และ Supercup ตามด้วยการแข่งขัน Endurance World Championship และในปี 2019 Porsche ได้ก่อตั้งทีม Formula E โดยมี TAG Heuer เป็นผู้สนับสนุนหลักและดูแลเรื่องการจับเวลา จึงเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา TAG Heuer ยังเป็นผู้สนับสนุนหลักของซีรีส์การแข่ง Porsche TAG Heuer Esports Supercup