Tag Heuer F1 Chronograph Indy 500 2020 Special Edition รุ่นพิเศษผลิต 1,500 เรือน

0

Tag Heuer (แท็กฮอยเออร์) จับ F1 Chronograph มาผลิตเป็นนาฬิการุ่นพิเศษ พิเศษ Indy 500 2020 Special Edition เพื่อฉลองโอกาสพิเศษ โดยจะมีการผลิตออกสู่ตลาดเพียง 1,500 เรือนเท่านั้น

- Advertisement -

Tag Heuer F1 Chronograph Indy 500 2020 Special Edition

Tag Heuer F1 Chronograph Indy 500 2020 Special Edition รุ่นพิเศษผลิต 1,500 เรือน

  • นาฬิการุ่นพิเศษผลิตที่เตรียมเปิดตัวครั้งแรกในรายการ Indy 500 ปีนี้

  • หน้าปัดนาฬิกาได้รับอิทธิพลการออกแบบมาจากพื้นผิวสนามแข่ง Indy 500

  • ผลิตเพียง 1,500 เรือนเท่านั้นกับราคา 2,100 เหรียญสหรัฐฯ

นอกจากคอลเล็กชั่น Gulf, Senna และทีมแข่ง F1 ที่ทาง แท็กฮอยเออร์ เข้าไปเป็น Official partner แล้ว อีกเวอร์ชันที่เกี่ยวข้องกับความเร็ว และนาฬิการุ่น F1 Chronograph จะต้องเข้าไปมีส่วนร่วมด้วยอยู่เสมอคือ Indy500 ซึ่งในตอนนี้ทาง แท็กฮอยเออร์ เปิดตัวรุ่นใหม่ที่ชื่อว่า Indy 500 2020 Special Editionออกมาแล้วพร้อมกับความพิเศษในการเป็นรุ่นของการเฉลิมฉลองอายุครบ 104 ปีของการจัดการแข่งขัน Indianapolis 500 หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า Indy500

Tag Heuer F1 Chronograph Indy 500 2020 Special Edition

อีกทั้งในปีนี้ยังถือเป็นช่วงเวลาแห่งความพิเศษระหว่าง แท็กฮอยเออร์ กับทาง NTT INDYCAR SERIES เจ้าของสนาม และผู้จัดการแข่งขัน Indy 500 ในฐานะที่เป็นผู้จับเวลาการแข่งขันอย่างเป็นทางการเป็นปีที่ 16 ด้วย โดยการแข่งขันในสนาม Indianapolis Speedway

นั้นถือว่ามีความคลาสสิคและเป็นหนึ่งใน The Triple Crown ของวงการแข่งรถโลก ซึ่งประกอบด้วย Monaco GP สำหรับ F1 การแข่ง Le Mans 24 ชั่วโมงสำหรับ GT Car และการแข่งขัน Indy 500 สำหรับการแข่งขัน CART หรือที่เรารู้จักกันในอีกชื่อว่า Indy Car ซึ่งในประวัติศาสตร์มีเพียงนักแข่งคนเดียวที่สามารถคว้าชัยในการแข่งขันทั้ง 3 รายการ นั่นคือ Graham Hill พ่อของ Damon Hill นักแข่ง F1 ชาวอังกฤษ แถมยังบวกอีก 1 ตำแหน่งคือ เป็นแชมป์โลก F1 ประเภทนักแข่ง

นอกจากนั้นตัวสนามแข่งที่นี่ยังมีความพิเศษตรงที่จุดใกล้เส้นชัยจะมีการปูบล็อกสีแดงเอาไว้ นั่นก็เลยเป็นที่มาของชื่อเล่นของสนามว่า The Brickyard ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้ถูกนำมาใช้ในการตกแต่งนาฬิการุ่นพิเศษ แท็กฮอยเออร์ รุ่น F1 Chronograph Indy 500 รุ่นนี้

จริงๆ แล้วแนวของอิฐสีแดงนั้นคือพื้นสนามในยุคดั้งเดิมที่ทางเจ้าของสนามได้นำอิฐขนาด 10 ปอนด์จำนวน 10 ล้านก้อนมาปูเพื่อใช้เป็นแทร็คในการแข่งขัน หลังจากที่การแข่งขันในช่วงแรกตอนเปิดสนามเมื่อเดือนสิงหาคม 1909 รถแข่งประสบอุบัติเหตุบ่อย เพราะพื้นสนามเป็นกรวด หลังจากผ่านการใช้งานมาเรื่อยๆ เพื่อให้สนามเข้ากับมาตรฐานในการแข่งขันอิฐเหล่านี้ก็ถูกปูด้วยยางมะตอยทับลงไปในภายหลังและเหลือเพียงแถบคาดสนามที่มีความกว้าง 1 หลา (90 เซ็นติเมตร) เอาไว้ตรงจุดสตาร์ทและจบการแข่งขัน ซึ่งตามธรรมเนียมของการนแข่งขันนั้นเมื่อจบการแข่งขัน ผู้ชนะจะต้องมาจุมพิตที่พื้นแห่งนี้หรือเรียกว่า ทำ Kissing the Brick

ตัวนาฬิกามากับขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 43 มิลลิเมตร พร้อมกับสายยางสีดำเข้าชุดกับตัวเรือนที่ผ่านการรมดำแบบ DLC พร้อมกับขอบตัวเรือนแบบยึดตายตัวซึ่งบนขอบในตำแหน่งระหว่าง 1 และ 2 นาฬิกาจะมีการสลักคำว่า INDY 500เอาไว้ตามแบบฉบับของเวอร์ชันนี้ โดยที่ขอบสเกลของขอบตัวเรือนผลิตจากเซรามิกและมีการยิงทรายเพื่อให้มีความด้านเข้ากับลักษณะของตัวเรือน

Tag Heuer F1 Chronograph Indy 500 2020 Special EditionTag Heuer F1 Chronograph Indy 500 2020 Special Edition

สิ่งที่โดดเด่นคือ รายละเอียดของหน้าปัดที่แม้ว่าจะมากับสีดำแต่ก็มีพื้นผิวที่หยาบและขึ้นลวดลายเหมือนกับพื้วผิวของแทร็คสนามแข่ง และตรงตำแหน่งหน้าปัดย่อย 3 นาฬิกามีการพาดกลางด้วยบล็อกสีแดงเอาไว้เหมือนกับจำลองสภาพของพื้นสนามในส่วนที่เป็นเอกลักษณ์และทำให้สนามได้รับการขนานนามว่า The Brickyard

Tag Heuer F1 Chronograph Indy 500 2020 Special Edition

นอกจากนั้นบนหน้าปัดวงย่อยในตำแหน่ง 6 นาฬิกาจะมีสัญลักษณ์ของการแข่งขัน Indy500 ถูกวางเอาไว้ และทั้ง 3 หน้าปัดย่อยจะมใช้พื้นสีเงินแบบ Silver Azurage โดยกลไกที่ใช้สำหรับรุ่นนี้จะเป็นควอต์แบบ Chronograph

แท็กฮอยเออร์ จะนำนาฬิการุ่นนี้ออกเปิดตัวครั้งแรกโดยคาดอยู่บนข้อมือของ Alexander Rossi นักแข่ง CART และเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ หรือ Tag Heuer Friend ด้วย โดยจะเปิดตัวครั้งแรกในการแข่งขัน Indy 500ปีนี้ ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 23 สิงหาคมนี้และเป็นการแข่งขันครั้งที่ 104

Tag Heuer F1 Chronograph Indy 500 2020 Special Edition

Tag Heuer F1 Chronograph Indy 500 2020 Special EditionTag Heuer F1 Chronograph Indy 500 2020 Special Edition

ส่วนการผลิตนาฬิกาเรือนนี้จะมีเพียง 1,500 เรือนเท่านั้นกับราคา 2,100 เหรียญสหรัฐฯ