สำหรับคอเกมเมอร์ที่ชื่นชอบโลกแห่งเรือนเวลา งานนี้ไม่ควรพลาดผลงานความร่วมมือครั้งใหม่ล่าสุดอย่าง TAG Heuer Connected x Super Mario Limited Edition
TAG Heuer Connected x Super Mario Limited Edition เอาใจสายเกมเมอร์สุดคลาสสิค
-
TAG Heuer Connected x Super Mario กับ การจับมือครั้งใหม่กับ Nintendo เจ้าของลิขสิทธิ์เกม Super Mario
-
ใช้พื้นฐานของรุ่น Connected ที่มีขนาดตัวเรือน 45 มิลลิเมตร
-
ผลิตเพียง 2,000 เรือนและมีราคาอยู่ที่ 2,150 เหรียญสหรัฐฯ
ชื่อของเกมอย่าง Super Mario ของค่าย Nintendo ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่ขึ้นหิ้งแห่งความคลาสสิค และมักจะมีบรรดาผู้ผลิตสินค้าต่างๆ เข้ามาร่วมทำงานในเชิง Collaboration เพื่อออกเป็นสินค้าออกมาอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดคือ TAG Heuer ที่ได้นำความคลาสสิคของตัวละครในเกมอย่าง Mario มาโลดแล่นและผสมผสานกันอย่างลงตัวบนสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ล่าสุดของพวกเขาพร้อมจำหน่ายในชื่อ TAG Heuer Connected x Super Mario Limited Edition ซึ่งจะมีการผลิตออกสู่ตลาดเพียง 2,000 เรือนเท่านั้น
การสร้างสรรค์จะมีขึ้นบนรุ่น Connected ที่มีขนาดตัวเรือน 45 มิลลิเมตร และหนา 13.5 มิลลิเมตร โดยบนขอบตัวเรือนที่ผลิตจากเซรามิก จะมีการสลัก Item ที่สำคัญในเกมซึ่งแฟนๆ คุ้นเคยกันดีเอาไว้ เช่น เห็ดเพิ่มขนาดตัวซึ่งอยู่ในตำแหน่ง 3 นาฬิกา ส่วนท่อที่เป็นทางลัดจะอยู่ในตำแหน่ง 6 นาฬิกา และดาวสำหรับเพิ่มความเร็วก็จะอยู่ในตำแหน่ง 9 นาฬิกา บนหน้าตัดเม็ดมะยมก็มีสัญลักษณ์ตัว M ของ Mario
ส่วนหน้าจอสัมผัสของ Connected จะมีขนาด 1.39 นิ้วและมีความละเอียดอยู่ที่ 454X454 Pixels บนหน้าจอแบบ OLED และมีกระจก Sapphire ป้องกันการขูดขีดและการกระแทก โดย Watchface ของตัวนาฬิกาก็จะมีให้เลือกหลายแบบ และแต่ละแบบก็จะมีภาพของ Mario ปรากฏอยู่ด้วย ลางหน้าปัดก็จะมีเฉพาะในนาฬฺการุ่นนี้เท่านั้น
แบตเตอรี่มีความจุ 430 mAh สามารถใช้งานในรูปแบบปกติได้จนครบวัน คือ 20 ชั่วโมงบวกกับการใช้งานนาฬิกาในการทำกิจกรรมอีก 1 ชั่วโมง แต่ถ้าคุณเป็นพวกชอบออกกำลังกายและให้นาฬิกาเก็บข้อมูลในด้านต่างๆ การใช้งานก็จะอยู่ที่ 6 ชั่วโมงเมื่อใช้โหมด Sport Use อย่างต่อเนื่องโดยที่ทั้ง GPS, Heart Rate และการเปิดเพลงทำงานครบเต็มรูปแบบ ส่วนการชาร์จจนเต็มนั้นใช้เวลา 1ชั่วโมงครึ่งเท่านั้นเอง
ส่วนฟังก์ชั่นในการทำงานนั้นถือว่า TAG Heuer Super Mario Limited Edition สามารถตอบสนองผู้ที่ชื่นชอบออกกำลังกาย และเล่นกีฬาได้เป็นอย่างดี เพราะทั้งตัวนาฬิกาและตัวแอพพลิเคชั่นได้รับการออกแบบให้สามารถรองกับการใช้งานที่หลากหลายด้วยโหมดการทำงานที่ถูกปรับเซ็ตมาอย่างเหมาะสมเพื่อการใช้งาน และจะมีระบบปฏิบัติการ Wear OS ของ Google ในการควบคุมการทำงาน
การผลิตมีเพียง 2,000 เรือนเท่านั้น โดยจะมีทั้งสายยางและสายหนัง 2,150 เหรียญสหรัฐฯ และจะเริ่มขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/