TAG Heuer นำเสนอความสมบุกสมบันของการใช้งานผ่านนาฬิกาดำน้ำตัวโหดรุ่นใหม่ในชื่อ Aquaracer Professional 1000 Superdiver พร้อมกลไกรุ่นใหม่
TAG Heuer Aquaracer Professional 1000 Superdiver
-
นาฬิกาดำน้ำตัวโหดของ TAG Heuer ที่ระลึกถึงนาฬิกาที่ลงลึกถึง 1,000 เมตรของพวกเขาที่เปิดตัวในปี 1982
-
ใช้กลไกอัตโนมัติที่มีความเที่ยงตรงซึ่งผลิตโดย Kenissi ที่ก่อตั้งโดย Tudor
-
ไม่ได้ผลิตจำนวนจำกัด มีราคาอยู่ที่ 6,650 เหรียญสหรัฐฯ
นอกจากรุ่น 200 และ 300 เมตรแล้ว ทาง TAG Heuer ยังเสริมทางเลือกให้กับคอลเล็กชั่น Aquaracer ด้วยเวอร์ชันดำน้ำลึกที่สามารถกันน้ำได้สูงสุดถึง 1,000 เมตรกับชื่อรุ่น TAG Heuer Aquaracer Professional 1000 Superdiver ซึ่งนอกจากความสามารถที่เพิ่มขึ้นแล้ว ยังมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างจาก Aquaracer รุ่นปกติอีกด้วย โดยเฉพาะ Crown Guard แบบพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อนาฬิการุ่นนี้โดยเฉพาะ
งานนี้ถือว่าเป็นการฉลองครบรอบ 40 ปีของนาฬิกาดำน้ำตัวโหดของ TAG Heuer ที่เปิดตัวในปี 1982 นั่นคือ 1000m Diver ที่มากับตัวเรือนขนาด 41.5 มิลลิเมตร จากนั้นก็มีรุ่น Super Professional ตามออกมาในปี 1984 และนับจากนั้นเป็นต้นมา เราแทบไม่ได้เห็นนาฬิกาดำน้ำของ TAG Heuer ที่มาพร้อมกับตัวเลขในการกันน้ำที่ลึกสุดใจอีกเลย ยกเว้นรุ่น Aquagraph ที่เปิดตัวในปี 2003 แต่นั่นก็ยังกันน้ำได้เพียง 500 เมตรเท่านั้น
![]() |
![]() |
![]() |
นอกจากนั้น ตรงนี้ยังถือเป็นการเปิดตัวที่ถี่และติดต่อกันชนิดที่เรียกว่าออกมารัวๆ จนแฟนๆ แทบไม่ได้พักกันเลย เพราะนับจากการเปิดตัวโฉมใหม่ของคอลเล็กชั่น Aquaracer 300m เมื่อต้นปี 2021 แล้ว ทาง TAG Heuer ยังมีทางเลือกในแบบ Outdoor ที่เป็นการปรับปรุงมาจากรุ่น Aquaracer Professional 300m
แต่มีการปรับรูปแบบและสเป็กของตัวนาฬิกาให้สามารถใช้งานกับกิจกรรมกลางแจ้งได้ พร้อมกับเปลี่ยนฝาหลังจากเดิมที่จะมีสัญลักษณ์ของหมวกดำน้ำโบราณมาเป็นสัญลักษณ์ของเข็มทิศแทน สำหรับ TAG Heuer รุ่น Aquaracer Professional 1000 Superdiver ถือเป็นทางเลือกใหม่ล่าสุดที่ถูกส่งออกมา
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
แม้ว่าจะยึดรูปทรงและดีไซน์ที่อ้างอิงมาจากรุ่นใหม่ของ Aquaracer แต่ในแง่ของขนาดและสเป็กมีการปรับปรุงใหม่ เราได้เห็นการขยายตัวเรือนจากเดิมที่อยู่ในไซส์ 41 และ 43 มิลลิเมตรมาเป็น 45 มิลลิเมตร พร้อมกับ Crown Guard ซึ่งทำหน้าที่ในการป้องกันเม็ดมะยมเช่นเดียวกับการป้องกันไม่ให้ผู้สวมใส่เผลอไปหมุนในระหว่างที่อยู่ใต้น้ำ ส่วนใครที่กังวลว่าขนาดจะทำให้เกิดความหนักบนข้อมือ คงต้องบอกว่าไม่ต้องกังวลเพราะนาฬิกาเรือนนี้มาพร้อมกับตัวเรือนและสายที่ผลิตจากไทเทเนียม เกรด 5
สิ่งหนึ่งที่ถูกถ่ายทอดมาจาก Aquaracer รุ่นใหม่ล่าสุดคือ ขอบตัวเรือนทรงแปดเหลี่ยม และเติมความสวยงามด้วยขอบสีส้มสำหรับสเกลที่สำคัญอย่าง 0-15 ในการจับเวลาดำน้ำ โดยอินเสิร์ตของสเกลจับเวลาจะผลิตจากเซรามิก และมีการเคลือบสารเรืองแสงอยู่บนตัวเลขสำคัญๆ เอาไว้ด้วย นอกจากนั้นบนหลักชั่วโมงในหน้าปัดและชุดเข็มยังมีการเคลือบสารเรืองแสง Ultra-Bright Super-Luminova แบบพิเศษ X-1 เอาไว้ด้วยเพื่อให้ประสิทธิภาพในการส่องสว่างแม้อยู่บนพื้นที่ซึ่งมีแสงน้อย
![]() |
![]() |
นอกจากนั้น TAG Heuer Aquaracer Professional 1000 Superdiver ยังถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานอย่างสมบุกสมบันตามสไตล์นาฬิกาดำน้ำ โดยนอกจาก HEV หรือ Helium Escapement Valve ที่อยู่ในตำแหน่ง 9 นาฬิกาแล้ว ตัวนาฬิกาเองยังได้รับการปรับปรุงและพัฒนาให้มีมาตรฐานที่สามารถผ่านข้อกำหนดของการเป็นนาฬิกาน้ำอย่าง 6425:2018 ของ ISO ซึ่งมีความเข้มงวดของข้อบังคับมากกว่าข้อกำหนดเดิมอย่าง ISO6425
อีกสิ่งที่ถือเป็นไฮไลท์ของตัวนาฬิกาคือ เป็นนาฬิกาเรือนแรกของ TAG Heuer ที่ได้รับการติดตั้งกลไกใหม่ ซึ่งกลไกที่ว่าคือ รหัส TH-30-00 ได้รับการผลิตจาก Kenissi SA Manufacture โดยเป็นแบบอัตโนมัติที่เดินด้วยความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง หรือ 4 Hz และมีความเที่ยงตรงในระดับ Chronometer โดยผ่านการรับรองจากสถาบัน COSC และสามารถสำรองกำลังงานได้ 72 ชั่วโมง
![]() |
![]() |
![]() |
สำหรับ Kenissi เป็นผู้ผลิตกลไกระดับไฮ-เปอร์ฟอร์แมนซ์จากสวิตเซอร์แลนด์ โดยก่อตั้งขึ้นในปี 2016 ที่เมือง Le Locle โดยโรงงานแห่งนี้ถือเป็นความหวังของทาง Tudor ในการวางเป้าหมายเป็นผู้ผลิตกลไกระดับสูงเพื่อส่งให้กับแบรนด์นาฬิกาด้วยการนำกลไกของตัวเองมาพัฒนาเพื่อต่อยอดเป็นผู้ผลิตกลไกอิสระ ซึ่ง Tudor เองวางแผนนี้เอาไว้ตั้งแต่ปี 2010 แต่เพิ่งสามารถดำเนินการได้ในอีก 5 ปีต่อมา โดยในปี 2018 บริษัทได้เป็นพาร์ทเนอร์กับทาง Chanel ในการผลิตกลไกเพื่อส่งให้กับนาฬิการุ่น J12
![]() |
![]() |
TAG Heuer Aquaracer Professional 1000 Superdiver มาพร้อมแพ็คเกจพิเศษที่เป็นกล่องเครื่องมือ ส่วนการผลิตเป็นแบบปกติไม่ได้มีการระบุว่าเป็นรุ่นผลิตจำกัด หรือ Limited Edition แต่อย่างใด โดยราคาจำหน่ายในตลาดโลกจะอยู่ที่ 6,650 เหรียญสหรัฐฯ และเริ่มส่งมอบให้ได้ในเดือนกรกฎาคมนี้
รายละเอียดทางเทคนิค :
- เส้นผ่านศูนย์กลาง : 45 มิลลิเมตร
- หนา : 15.7 มิลลิเมตร
- วัสดุตัวเรือนและสาย : ไทเทเนียม เกรด 5
- กระจก : Sapphire เคลือบสารกันการสะท้อนแสง
- กลไก : อัตโนมัติรหัส TH-03-00 ผลิตโดย Kenissi มีความเที่ยงตรงระดับ Chronometer
- ความถี่ : 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง
- กำลังสำรอง : 72 ชั่วโมง
- การกันน้ำ : 1,000 เมตร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline