สำหรับคนที่ชอบอะไรที่สื่อให้เห็นถึงความเป็นคนไทย งานนี้ไม่น่าพลาดกับ Special Edition จาก Swatch กับรุ่น Tuk Tuk ที่ถูกสร้างสรรค์โดยมีลวดลายที่สื่อถึงยานพาหนะชื่อดังของไทย และจัดจำหน่ายผ่านทางร้านของ King Power มาตั้งแต่เดือนเมษายนปีที่แล้ว
Swatch Tuk-Tuk Special Edition ผลิตพิเศษเพื่อเมืองไทย
- ผลิตจากความร่วมมือกับ Kin Power
- นำรถ 3 ล้อ หรือ ตุ๊กตุ๊กมาเป็นต้นแบบในการดีไซน์
- ใช้พื้นฐานของรุ่น New Gent ขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป
สิ่งหนึ่งที่ผมค่อนข้างชื่นชอบนาฬิกาจาก Swatch นอกจากประสบการณ์ร่วมกันตั้งแต่ยังเรียนมัธยมก็คือ ลูกเล่นของพวกเขาที่ถูกถ่ายทอดลงบนตัวนาฬิกาจนกลายเป็นเสมือน DNA ของแบรนด์ คุณสามารถสัมผัสสิ่งเหล่านี้ได้ผ่านนาฬิกาหลากหลายรุ่นของพวกเขา โดยเฉพาะในกลุ่ม Gent และ New Gent รวมถึงพวกรุ่นพิเศษที่เขามักจะชอบจับมือกับศิลปินและคนดังมากหน้าหลายตาในการสร้างสรรค์ขึ้นมา และบางรุ่นก็เป็นรุ่นพิเศษที่ผลิตขึ้นมาเพื่อตลาดเฉพาะแห่งด้วยการจับเอาเอกลักษณ์ (ไม่ว่าจะเป็นด้านอะไรก็ตาม) ของประเทศเหล่านั้นมาถ่ายทอดลงบนตัวนาฬิกา เหมือนกับคอลเล็กชั่นเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งผมเพิ่งจะมีโอกาสได้มานั่งรีวิวหลังจากที่ได้ตัวมาสักระยะหนึ่งแล้วอย่าง Tuk-Tuk Special Edition
Swatch Tuk-Tuk Special Edition ผลิตพิเศษเพื่อเมืองไทย
ถ้าจำไม่ผิด ผมได้ข่าวของนาฬิการุ่นนี้มาตั้งแต่เดือนเมษายนปีที่แล้ว แต่ดูเหมือนว่าการเข้าถึงจะค่อนข้างยากลำบากสักหน่อย เพราะว่ามีขายเฉพาะร้านของ King Power เท่านั้น ครั้นพอเห็นหน้าตาแล้วถูกใจจนต้องเดินไปถามที่เคาน์เตอร์ของ Swatch ในห้างสรรพสินค้าที่คุ้นเคย แต่สุดท้ายสินค้าก็ยังไม่มีวางขาย และต้องรอก่อน เอาละไม่เป็นไร สุดท้าย ผมก็เลยต้องมีการไหว้วานกันสักหน่อย และก็ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากแบรนด์ Swatch
หลังจากที่รอคอยไม่นาน ในที่สุดเจ้านี่ก็เดินทางมาถึงมือผมจนได้ และสารภาพเลยว่าตอนแรกที่ได้เห็นแพ็คเกจแล้ว สิ่งแรกที่คิดในใจคือ นี่มันนาฬิกาหลักพันหรือไงเนี่ย เพราะตามปกติแล้ว ถ้าคุณซื้อนาฬิกาในคอลเล็กชั่น New Gent ทั่วไป สิ่งที่ได้คือ กล่องพลาสติกใสที่เป็นทรงยาว แต่พอเป็น Special Edition ผมว่าทาง Swatch ค่อนข้างตั้งใจทำให้มันมีความพิเศษ ทั้งแจ็คเก็ตที่เป็นกระดาษสำหรับสวมกล่องพลาสติกหลัก ซึ่งมีการพิมพ์ลวดลายที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดีสำหรับสื่อให้เห็นถึงความเป็นกรุงเทพฯ ของเรา เรียกว่าไม่ผิดหวังกับความตั้งใจของพวกเขาและการนำเสนอในการเป็น Special Edition ส่วนข้างในก็ไม่มีอะไรแปลกใหม่ เมื่อเปิดกล่องพลาสติกออกมาก็จะเจอเข้ากับเจ้า New Gent ที่เป็น Tuk Tuk Special Edition นอนรออยู่
ผมเชื่อว่าคนวัยใกล้เคียงกับผมซึ่งมีอายุนำหน้าด้วยเลข 4 จะต้องมีประสบการณ์กับนาฬิกา Swatch มาไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะในช่วงที่ยังไม่มีแบรนด์ไหนเข้ามาครองใจเหล่าวัยรุ่นเมืองไทยอย่างเบ็ดเสร็จเหมือนอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพราะตอนนั้น G-Shock ก็ยังไม่ดังมาก และ Tag Heuer ทั้ง F1 และก้างปลา ก็ยังเป็นอะไรที่เกินเอื้อมสำหรับเด็กมัธยมอย่างเรา และต่อจาก Casio ที่เป็นนาฬิกาเกมที่ฮิตตอนอยู่ในมัธยมต้นแล้ว ผมว่า Swatch นี่แหละคือ นาฬิกาที่เข้ามารับช่วงต่อในการเปลี่ยนวัยจากมัธยมต้นมาสู่มัธยมปลายของคนวัยผม
ดังนั้น เมื่อเห็นเจ้านี่แล้วมันเหมือนกับการย้อนวัยนิดๆ กลับไปสู่เรื่องราวในอดีตของตัวเอง
สำหรับ Tuk Tuk Special Edition เป็นการสร้างสรรค์อยู่บนพื้นฐานของรุ่น New Gent ซึ่งเป็นนาฬิกาที่คงรูปแบบของตัวเรือนที่คลาสสิคของ Swatch แต่มีการขยายขนาดขึ้นมาเป็น 41 มิลลิเมตรสำหรับเส้นผ่านศูนย์กลาง และแม้ว่าตัวเรืทอนนาฬิกาจะเป็นทรงป้อมๆ คล้ายกับแบบ Tonneau หรือทรงถังเบียร์แบบไม่มีขา แต่ด้วย Lug to Lug ของตัวเรือนอยู่ในระดับ 47.4 มิลลิเมตร พอขึ้นข้อมือแล้ว ผมว่าโอเคและลงตัวเลยทีเดียว ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป
เหมือนกับ Swatch หลายๆ รุ่น (ถ้าไม่นับพวก Irony) ตัวเรือนของ New Gent ได้รับการผลิตจากพลาสติก และขึ้นรูปในลักษณะที่เป็นแบบชิ้นเดียว ไม่มีฝาหลังแต่อย่างใด นอกจากช่องสำหรับเปลี่ยนแบตเตอรี่ ถามว่าตรงนี้ดีไหม ผมว่ามองได้ 2 แบบ อย่างแรกเป็นการแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในกระบวนการผลิตและตัวผลิตภัณฑ์ของทาง Swatch ว่ามีความทนทานและความน่าเชื่อถือถึงขนาดที่ไม่จำเป็นต้องเผื่ออะไรเอาไว้สำหรับซ่อม แค่เปลี่ยนถ่านก็พอแล้ว
อีกอย่างคือ การทำงานตามคอนเซ็ปต์ของตัวนาฬิกาที่ Swatch เน้นในเรื่องของการใช้งาน และเมื่อเสียหรือพัง ก็เปลี่ยนใหม่ แทนที่จะซ่อม ซึ่งบางครั้งค่าซ่อมอาจจะแพงกว่าหรือใกล้เคียงกับการซื้อนาฬิกาเรือนใหม่ก็ได้ ซึ่งประเด็นนี้ผมว่า อาจจะทำให้พวกรักนาฬิกาอย่างเราๆ ท่านๆ ทำใจลำบากสักหน่อย เพราะนาฬิกาเรือนนั้นอาจจะมีคุณค่าทางจิตใจ และบางครั้งการซื้อนาฬิกามาไม่ใช่เรื่องของการใช้งานเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องการเก็บสะสมด้วย
ในเรื่องของข้อมูลไม่ได้มีการบอกว่าใครเป็นคนออกแบบนาฬิกาเรือนนี้ แต่ส่วนตัวแล้ว ผมว่ามันเลอะไปนิดนึงในแง่ของลวดลายบนสาย ดูแล้วละลานตา แถมฟอนต์และสีบนตัวรัดสายที่มีคำว่า ‘กรุงเทพ’ นั้น เห็นแวบแรก ผมว่ามันออกแนวที่สื่อถึงธนาคารแห่งหนึ่งในบ้านเราไปหน่อย ส่วนหน้าปัด ถ้าเปลี่ยนมาใช้เลขไทยของตัวเลข 10-11-12-1-2 ผมว่าน่าจะโอเคมากขึ้น ขณะที่ลายบนหน้าปัดถ้าไม่บอกว่ามันคือลวดลายของเบาะนั่ง ผมก็คงเดาไม่ออกว่ามันคืออะไร และเมื่อบอกใบ้มาตรงนี้ ทำให้พอจะเดาได้ว่ามันเป็นการออกแบบโดยอ้างอิงรูปหน้าตรงของรถตุ๊กตุ๊ก คือ สายยางเป็นช่วงไปหน้า บนหน้าปัดคือกระจกหน้า และสายสั้นคือ ด้านบนของตัวรถที่มีป้ายไฟคำว่า Tuk Tuk … ผมคิดว่าน่าจะเป็นอย่างนี้นะตามจินตนาการของผม
ในเรื่องของกลไกก็ไม่มีอะไรซับซ้อน เป็นควอตซ์จากสวิสส์ที่มีเอกลักษณ์คือ เสียงเดินของเข็มวินาทีจะดังมาก จนหลายคนอาจจะบอกว่ารำคาญ แต่ผมว่านี่คือเอกลักษณ์ของ Swatch เลยนะ และทำหน้าที่เป็น Battery Indicator ไปในตัวว่า ถ้าผมไม่ได้ยินเสียงของมัน แสดงว่าถึงคราวที่จะต้องเอาไปเปลี่ยนถ่านแล้ว ซึ่งอีกสิ่งหนึ่งที่ผมถือว่ายอดเยี่ยมเลยคือ การที่ Swatch รับประกันการเปลี่ยนแบตเตอรี่ฟรีตลอดอายุการใช้งาน เรียกว่าถ้าถ่านหมด คุณเอาใบรับประกันเดินไปที่ร้านหรือชอปตามห้างเพื่อเปลี่ยนถ่านได้เลย แต่ต้องซื้อจากตัวแทนจำหน่ายที่เป็นทางการนะ
หลังจากที่ห่างหายจากการสัมผัสกับ Swatch ไปนาน เรียกว่าการกลับมาครั้งนี้ไม่ผิดหวังกับอารมณ์ที่คุ้นเคยในอดีต การสวมใส่ที่ง่าย มีเอกลักษณ์ และเบาสบาย ไม่สร้างภาระบนข้อมือ และนั่นทำให้ผมเริ่มเข้าเว็บของ Swatch บ่อยขึ้น และเริ่มเล็งๆ Swatch ทั้งในกลุ่ม New Gent Chrono และตัว Sistem51 มากขึ้นเรื่อยๆ เรียกว่าปีนี้น่าจะต้องมีโดนกันบ้างละสัก 2-3 เรือน
ส่วนคอลเล็กชันนี้ ใครที่สนใจอาจจะต้องลองเลียบๆ เคียงๆ ถามตามชอปของ Swatch ดูครับว่ายังมีเหลืออยู่อีกหรือเปล่า ส่วนราคาก็ไม่ได้แรงมากเท่าไร 2,600 กว่าบาทเท่านั้นครับ
ข้อมูลทางเทคนิค : Swatch Tuk-Tuk Special Edition
- ขนาดตัวเรือน : 41 มิลลิเมตร
- Lug to Lug : 47.4 มิลลิเมตร
- ความสูง : 9.85 มิลลิเมตร
- วัสดุตัวเรือน : พลาสติก
- กระจก : พลาสติก
- สาย : ซิลิโคน
- กลไกการทำงาน : Quartz
- ระดับการกันน้ำ : 30 เมตร
- ประทับใจ : ขนาดไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป ความนุ่มของสาย งานออกแบบที่มีดีไซน์ แพ็คเกจ ฟรีแบตเตอรี่
- ไม่ประทับใจ : ลวดลายบนสายที่เยอะจนเกินไป รูปแบบของตัวรัดสาย
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigiwatch/