SWATCH Art Journey กับ 7 เรือนเวลาสุดพิเศษจากโลกศิลป์

0

อีกครั้งที่ SWATCH แสดงให้เห็นถึงความหลงใหลในโลกศิลป์กับการเปิดโปรเจ็กต์ใหม่ที่เรียกว่า Art Journey กับ 7 เรือนเวลาสุดพิเศษจากโลกศิลป์ ด้วยการจับมือกับพิพิธภัณฑ์ศิลป์ชื่อดังของโลกทั้ง 4 แห่ง โดยจะมีการผลิตนาฬิกาออกมาทั้งหมด 7 รุ่นจาก 2 ขนาดตัวเรือน คือ Gent และ New Gent

SWATCH Art Journey กับ 7 เรือนเวลาสุดพิเศษ
SWATCH Art Journey กับ 7 เรือนเวลาสุดพิเศษ

SWATCH Art Journey กับ 7 เรือนเวลาสุดพิเศษจากโลกศิลป์

  • ผลผลิตใหม่ของ SWATCH กับการจับมือกับพิพิธภัณฑ์ศิลป์ชื่อดังของโลกทั้ง 4 แห่ง

  • มีการผลิตนาฬิกาออกมาทั้งหมด 7 รุ่นจาก 2 ขนาดตัวเรือน คือ Gent และ New Gent

  • เริ่มทำตลาดตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา

- Advertisement -

SWATCH สานต่อแนวคิดในการนำเสนอเรือนเวลาที่ได้รับการผสมผสานจากโลกแห่งศิลปะเข้ามาอยู่บนนาฬิกา กับโปรเจ็กต์ใหม่ SWATCH Art Journey ซึ่งได้นำนาฬิการุ่นใหม่ที่สร้างสรรค์และผสมผสานความลงตัวจากงานศิลป์ของศิลปินชื่อดังจากพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรักษาผลงานเหล่านี้ทั่วโลก โดยในช่วงแรกจะมีการเปิดตัวออกมา 4 รุ่นก่อน จากนั้นในช่วงเดือนเมษายนจะมีการเปิดตัวตามออกมาอีก 3 รุ่น

นับจากปี 1985 เป็นต้นมา SWATCH ได้สร้างสรรค์ผลงานนาฬิกาที่มีความเกี่ยวพันกับโลกแห่งศิลป์ออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยในแต่ละปีจะมีนาฬิกาที่ทำการ Collaboration กับศิลปินต่างๆ และที่เด่นชัดสุดคือในปี 2018 กับคอลเล็กชั่นที่ร่วมมือกับพิพิธภัณฑ์ Rejksmuseum ที่ Amsterdam ประเทศเนเธอร์แลนด์ และ Thyssen-Bornemisza Museum ในเมือง Madrid ประเทศสเปน

ส่วนในปี 2019 เป็นความร่วมมือกับพิพิธภัณฑ์ Musee du Louvre ที่เมือง Paris ประเทศฝรั่งเศส ตามด้วย MoMA ที่เมือง New York ในปี 2021 และ Centre Pompidou ที่เมือง Paris ในปี 2022

สำหรับปี 2023 เป็นการเดินทางครั้งใหม่กับชื่อ SWATCH Art Journey ซึ่งจะมีการเปิดตัวนาฬิกาออกมาทั้งหมด 7 รุ่น โดยแบ่งเป็น 4 รุ่นแรกกับความร่วมมือกับ MoMA 2 รุ่น คือ การนำผลงานในสไตล์ Pop Art ของ Roy Lichtenstien มาเป็นต้นแบบในการสร้างสรรค์และมีผลิต 2 รุ่นบนพื้นฐานของรุ่น New Gent ที่มีขนาดตัวเรือน 41 มิลลิเมตร และรุ่น Gent ที่มีขนาด 34 มิลลิเมตร โดยผลงานของ Lichtenstien ถูกจัดแสดงอยู่ที่ MoMA

ผลงานแรก คือ Girl by Roy Lichtenstien, The Watch พลังของรอยยิ้มในผลงานศิลปะที่มีชื่อว่า Girl (เกิร์ล)(1963) โดยนาฬิกาเรือนนี้มาพร้อมกับหน้าปัดเน้นจุดเด่นของภาพ คือใบหน้าของผู้หญิงที่มาพร้อมกับรอยยิ้มสดใส นอกจากนี้ดีเทลด้านหลังของนาฬิกายังมาพร้อมกับอีกหนึ่งรายละเอียดของผลงานต้นฉบับ ซึ่งก็คือสเปรย์กระป๋อง และนาฬิกาเรือนนี้มากับไซส์ 41 มิลลิเมตร

SWATCH Art Journey กับ 7 เรือนเวลาสุดพิเศษ
SWATCH Art Journey กับ 7 เรือนเวลาสุดพิเศษจากโลกศิลป์

SWATCH Art Journey กับ 7 เรือนเวลาสุดพิเศษSWATCH Art Journey กับ 7 เรือนเวลาสุดพิเศษ

ตามด้วยรุ่น Reverie by Roy Lichtenstien, The Watch ความหลงใหลในดนตรีแจ๊สของลิกเทนสไตน์จุดประกายแรงบันดาลใจให้เกิดผลงานอันเป็นเอกลักษณ์มากมาย รวมถึง Reverie (ภวังค์) (1965)

โดยนาฬิกาเรือนนี้มาพร้อมกับลูปพิมพ์ข้อความ “The melody haunts my reverie” ที่อยู่บนผลงานศิลปะ นอกจากนี้สายนาฬิกาสีเหลืองอ่อนยังได้รับแรงบันดาลใจมากจากสีผมของหญิงสาวในภาพ ซึ่งนาฬิกาเรือนนี้จะมากับไซส์ 34 มิลลิเมตร

ส่วนอีก 2 รุ่นคือ ผลงานที่ร่วมมือกับ Magritte ซึ่งเป็นผลงานของ Rene Magritte โดยผลงานของเขาถูกเก็บรักษาเอาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ส่วนตัว เขาเป็นจิตรกรยุคเซอร์เรียลลิสต์ เป็นที่รู้จักกันดีจากผลงานศิลปะกวน ๆ ที่ยั่วยุรวมถึงอารมณ์ขันที่มีไหวพริบดี

นาฬิกาสองรุ่นของเราจะแปลงโฉมภาพเขียนที่ดังที่สุดของเขาให้กลายเป็นผลงานศิลปะที่สวมใส่ได้เพื่อฉลองครบรอบวันเกิด 125 ปี ซึ่งนาฬิกาในเวอร์ชันนี้มากับตัวเรือนของ Gent ไซส์ 41 มิลลิเมตรทั้ง 2 รุ่นโดยเป็นการนำ 2 ผลงานของ Magritte ที่คุ้นตามาสร้างสรรค์ คือ Le Fils de L’Homme และ La Trahison des Images

SWATCH Art Journey กับ 7 เรือนเวลาสุดพิเศษ

Le Fils de L’Homme ภาพเหมือนตัวเองของ Magritte ภาพนี้เป็นภาพชายผู้สวมหมวกทรงโบวเลอร์ ใบหน้าซ่อนอยู่หลังลูกแอปเปิ้ลเขียว ดื่มด่ำกับผลงานยั่วยุแสนขี้เล่นที่ทำให้ผู้พบเห็นหลงรัก ด้วยนาฬิกาสุดกวนที่มีอะไรมากกว่าที่เห็น โดยนาฬิการุ่นนี้จะมาทั้งรุ่นธรรมดา คือ Le Fils de L’Homme  มีราคา 3,750 บาท และอีกรุ่น คือ The Surreal Pay! ที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่น SwatchPAY! และมีราคาขยับขึ้นเป็น 4,100 บาท

โดยฟังก์ชั่นนี้เป็นการใช้เทคโนโลยี NFC ซึ่งถูกติดตั้งไว้ภายในตัวเรือนของนาฬิกา เพื่อสร้างการชำระเงินแบบไร้การสัมผัส รูปแบบการทำงานเหมือนกับคุณมีบัตรเครดิตขนาดจิ๋วซ่อนอยู่ในนาฬิกา สามารถชำระเงินได้อย่างปลอดภัย SwatchPAY! รับรองการใช้งานโดย Visa และ Mastercard

SWATCH Art Journey กับ 7 เรือนเวลาสุดพิเศษSWATCH Art Journey กับ 7 เรือนเวลาสุดพิเศษ

อีกรุ่นจาก Magritte คือ La Trahison des Images พร้อมความยียวนตามสไตล์ Magritte ที่ SWATCH จับมาและเล่นคำตอบโตผ่านทางสายทั้ง 2 ฝั่ง ดีไซน์ของสายนาฬิการุ่นนี้มีการเล่นคำอันเป็นเอกลักษณ์ของมากริต รวมถึงความย้อนแย้งอย่างตลกขบขัน โดดเด่นด้วยหน้าปัดที่มาพร้อมกับเข็มนาฬิกาสีเงินแวววาว แต่มีสิ่งหนึ่งที่แน่นอน คือนี่ไม่ใช่ไปป์!

SWATCH Art Journey กับ 7 เรือนเวลาสุดพิเศษSWATCH Art Journey กับ 7 เรือนเวลาสุดพิเศษSWATCH Art Journey กับ 7 เรือนเวลาสุดพิเศษ

อีก 4 รุ่นที่จะเริ่มวางขายในไทยในวันที่ 13 เมษายน คือ การจับมือกับพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ อาบูดาบีเพื่อออกแบบนาฬิกาที่ผสมผสานผลงานศิลปะสองขั้วเข้าด้วยกัน ผลงานศิลปะจากญี่ปุ่นของโฮกูไซ (Hokusai) และผลงาน The Astrolabe (แอสโตรแลบ) ของมุฮัมมัด อิบน์ อะหมัด อัลบัตตูตี (Muhammad ibn Ahmad Al-Battûtî)

SWATCH Art Journey กับ 7 เรือนเวลาสุดพิเศษSWATCH Art Journey กับ 7 เรือนเวลาสุดพิเศษSWATCH Art Journey กับ 7 เรือนเวลาสุดพิเศษ

The Great Wave off Kanagawa by Katsushika Hokusai & The Astrolabe มากับตัวเรือน 41 มิลลิเมตรในการนำเสนอผลงานสุดสวย พลังแห่งธรรมชาติปกคลุมนาฬิกาเรือนนี้ ด้วยดีไซน์โทนสีน้ำเงินปรัสเซียนบลู จากผลงานชิ้นโบแดงของโฮกูไซ ในส่วนของดีไซน์ด้านหลังคือภาพแอสโตรแลบ แผนที่ที่ใช้ค้นหาตำแหน่งของดวงดาวบนท้องฟ้ายามค่ำคืน ผสมผสานผลงานศิลปะชิ้นเอกบนนาฬิกา Swatch เรือนเดียว

SWATCH Art Journey กับ 7 เรือนเวลาสุดพิเศษSWATCH Art Journey กับ 7 เรือนเวลาสุดพิเศษSWATCH Art Journey กับ 7 เรือนเวลาสุดพิเศษ

อีก 2 เรือนเป็นการจับมือกับ ได้จับมือกับพิพิธภัณฑ์อุฟฟีซี ที่ขึ้นชื่อเรื่องคอลเล็กชั่นผลงานศิลปะจากยุคเรเนซองส์จำนวนมาก เพื่อออกแบบนาฬิกา Swatch ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากผลงานชิ้นโบแดงสองชิ้นของ Botticelli (บอตตีเชลลี) เริ่มจาก

SWATCH Art Journey กับ 7 เรือนเวลาสุดพิเศษSWATCH Art Journey กับ 7 เรือนเวลาสุดพิเศษSWATCH Art Journey กับ 7 เรือนเวลาสุดพิเศษ

Nascita Di Venere by Sandro Botticelli กับฉากจากตำนานเทพปกรณัมที่โดดเด่นล้อมรอบด้วยเฉดสีพาสเทลแสนโรแมนติกและการเน้นด้วยสีทองของนาฬิกาเรือนนี้ทำให้คู่ควรแก่เหล่าเทพและเทพีในยุคใหม่

อีกรุ่นคือ Allegoria Della Primavera by Sandro Botticelli สัมผัสแรงบันดาลใจที่สะท้อนเอกลักษณ์ของภาพบอตติเชลลีที่มีความนุ่มนวลอ่อนโยนและสวยงาม ด้วยนาฬิกาที่สื่อถึงการเฉลิมฉลองช่วงเวลาแห่งฤดูใบไม้ผลิ ความรักและความเจริญรุ่งเรืองบนตัวเรือนขนาด 41 มิลลิเมตร

สำหรับราคาของนาฬิกาทั้ง 7 รุ่น คือ

  • Girl by Roy Lichtenstien, The Watch ราคา 3,750 บาท
  • Reverie by Roy Lichtenstien, The Watch ราคา 3,350 บาท
  • Le Fils de L’Homme ราคา 3,750 บาท
  • The Surreal Pay! ราคา 4,100 บาท
  • La Trahison des Images ราคา 3,750 บาท
  • The Great Wave off Kanagawa by Katsushika Hokusai & The Astrolabe ราคา 3,750 บาท
  • Nascita Di Venere by Sandro Botticelli ราคา 3,350 บาท
  • Allegoria Della Primavera by Sandro Botticelli ราคา 3,750 บาท