แฟนๆ ของ Steinhart ที่กำลังมองหาอะไรไฮเอนด์อยู่ในตอนนี้ ไม่น่าพลาดกับ Steinhart Marine-Officer limited Edition 66 ผลิตเพียง 66 เรือนพร้อมกับกลไก Chronometer
Steinhart Marine-Officer limited Edition 66 : อัพเกรดตัวเรือนเพิ่มความเที่ยงตรง
-
รุ่นใหม่ขยายตัวเรือนเป็น 47 มิลลิเมตร
-
เปลี่ยนกลไกใหม่เป็น ETA Valjoux ทีผ่านมาตรฐานระดับ Chronometer
-
ผลิตเพียง 66 เรือนกับราคา 1,540 ยูโร
Steinhart ลุยตลาดให้กับนาฬิกาในคอลเล็กชั่น Marine Officer ครั้งใหม่ คราวนี้อัพเกรดตัวเรือนมาใช้วัสดุอย่างไทเทเนียม และมีการเปลี่ยนกลไกใหม่จากรุ่นปกติให้มีความเที่ยงตรงมากขึ้นจนกระทั่งได้รับมาตรฐาน Chronometer จาก COSC และมีการผลิตจำกัดเพียง 66 เรือนเท่านั้น
สำหรับนาฬิกาในคอลเล็กชั่น Marine Officer ถูกออกแบบมาเพื่อนักเดินเรือ และมีจำหน่ายด้วยหลากหลายทางเลือก ส่วนรุ่นนี้มาพร้อมกับกลไก Chronograph และมีรูปลักษณ์ที่ออกแบบโดยได้รับอิทธิพลมาจากนาฬิกาของ Panerai อย่าง Mare Nostrum ซึ่งรุ่นปกติที่วางขายจะใช้ตัวเรือนที่ผลิตจาก Stainless Steel หรือ Bronze และกลไกจับเวลาที่เป็นการนำเอากลไกพื้นฐานของ ETA อย่าง 2824-2 มาพ่วงกับระบบจับเวลาของ Dubois Depraz DD2030
แต่ในรุ่นใหม่ Steinhart จับเปลี่ยนมาใช้ไทเทเนียมเป็นวัสดุในการผลิต แถมยังอัพขนาดตัวเรือนขึ้นไปอีก โดยมีเส้นผ่านศูนย์กลางเพิ่มขึ้นอีก 3 มิลลิเมตรเป็น 7 มิลลิเมตร และมีความหนาเพิ่มขึ้นอีก 1 มิลลิเมตรเป็น 17 มิลลิเมตร แถมความกว้างขาสายขยับจาก 22 มิลลิเมตรเป็น 24 มิลลิเมตร โดยที่น้ำหนักของตัวเรือนเท่าเดิมคือ 127 กรัม
ในเรื่องรายละเอียดอื่นๆ ของSteinhart Marine-Officer limited Edition 66 จะมากับกระจก Sapphire ทรงโดม และเคลือบสารกันการสะท้อนแสงที่ด้านใน ขอบสเกลผลิตจากไทเทเนียมเช่นเดียวกับตัวเรือนไม่ได้มีการติดตั้งสเกล Tachymeter เหมือนกับรุ่นปกติ ส่วนฝาหลังผลิตจากสแตนเลสสตีล 316L พร้อมกระจก Sapphire เพื่อเปลือยให้เห็นชิ้นส่วนของกลไก
สำหรับหน้าปัดเป็นแบบเล่นระดับ ทำให้ดูมีมิติมากขึ้น และมากับสีน้ำตาลโดยที่พรายน้ำบนเข็มและหลักชั่วโมงเคลือบด้วยพรายน้ำ SuperLuminova สี Rodium ทำให้มีกลิ่นอายในสไตล์วินเทจอย่างชัดเจน พร้อมสายหนังขนาด 24/22 มิลลิเมตรและบัคเคิลแบบหัวเข็มขัดที่ผลิตจากไทเทเนียม
กลไกคือ สิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน เพราะถอดของเดิมทิ้งไป และแทนที่ด้วยกลไกชุดใหม่ที่มีพื้นฐานของ ETA Valjoux 7753 รุ่นท็อปเลยเพราะผ่านมาตรฐานความเที่ยงตรงตามข้อกำหนดของ COSC จนได้การรับรองในระดับ Chronometer ซึ่งทาง Steinhart ได้นำคันนี้มาแปะอยู่บนหน้าปัดอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม ทาง Steinhart ไม่ได้บอกถึงจำนวนกำลังสำรองของกลไกชุดนี้ออกมา
การผลิตมีเพียง 66 เรือน และที่น่าสนใจคือ ไม่มีการล็อกเลข คุณสามารถเลือกจองเลขผ่านทางเว็บได้เลย เลขไหมโดยจองไปแล้วก็จะขึ้น Out of Stock โดยราคารวมภาษีอยู่ที่ 1,540 ยูโร หรือแพงกว่ารุ่นธรรมดาถึง 600 กว่ายูโร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigiwatch/
