Sinn EZM 13.1 ปรับปรุงเพื่อความสดใหม่

โดย

MP4/4

15/02/2022

Sinn ปรับปรุงนาฬิการุ่น EZM 13 ครั้งใหม่ด้วยการเปลี่ยนหน้าปัดพร้อมปรับชื่อรุ่นเป็น EZM 13.1 โดยที่ยังคงรายละเอียดและการขับเคลื่อนผ่านกลไกจับเวลาวงเดี่ยว SZ02

- Advertisement -

Sinn EZM 13.1

Sinn EZM 13.1 ปรับปรุงเพื่อความสดใหม่

การปรับปรุงรายละเอียดครั้งใหม่นับจากเปิดตัวรุ่นแรกในปี 2014
เปลี่ยนรายละเอียดบนหน้าปัดใหม่แต่คงตัวเรือนขนาด 41 มิลลิเมตร
ขับเคลื่อนด้วยกลไกจับเวลาวงเดี่ยว SZ02

หลังจากเปิดตัวและทำตลาดมาตั้งแต่ปี 2014 ในตอนนี้ทาง Sinn จัดการอัพเดทให้กับนาฬิการุ่น EZM 13 ด้วยเวอร์ชันใหม่ 13.1 ที่มีความพิเศษในด้านรายละเอียดใหม่บนหน้าปัด โดยที่ยังคงเอกลักษณ์ของการเป็นนาฬิกาจับเวลาที่มีการวางเม็ดมะยมแลปุ่มกดเอาไว้ที่ด้านซ้ายของตัวเรือน พร้อมกับขนาดและกลไกที่ไม่เปลี่ยนแปลง

Sinn เปิดตัว EZM 13 ในงาน Baselworld 2014 โดยเป็นนาฬิกาในกลุ่มคอลเล็กชั่น “Einsatzzeitmesser” หรือ Mission Timer series ที่ถูกจัดอยู่ในประเภทดำน้ำ ร่วมกับรุ่น 3 เข็มปกติที่มีชื่อว่า EZM 3 โดยรุ่นใหม่ที่มากับรหัส EZM 13.1 นั้นถือเป็นการปรับโฉมมากกว่าการเปลี่ยนโฉม เพราะสิ่งที่ Sinn ทำนั้นถือว่าไม่ได้เยอะอะไร เพราะจุดหลักคือ การปรับปรุงหน้าปัดให้มีรูปแบบที่ชัดเจนในเรื่องของการมองเห็นและอ่านค่าได้ดีขึ้น โดยเฉพาะการถอดเอาตัวเลขอารบิกที่ตามปกติแล้วจะประจำอยู่ด้านในหน้าปัดตรงหลักชั่วโมงออกไป

นี่คือจุดหลักของความเปลี่ยนแปลง ส่วนที่เหลือ Sinn EZM 13.1 เหมือนกับรุ่นก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นตัวเรือนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 41 มิลลิเมตร และหนา 15 มิลลิเมตร ซึ่งตัวเรือนผลิตจากสแตนเลสสตีลพร้อมการพ่นทรายแบบ Bead-Blasted ที่ให้พื้นผิวที่ดูด้านและหยาบ เม็ดมะยมและปุ่มกดของระบบจับเวลาถูกวางเอาไว้ที่ตำแหน่งซ้ายมือ และความสามารถในการทนทานในด้านต่างๆ

เช่น การทนต่ออุณหภูมิในช่วง -45 ถึง 80 องศาเซลเซียส การทนต่อสนามแม่เหล็กในระดับ 80,000 A/m การกันน้ำระดับ 500 เมตรผ่านมาตรฐานการทดสอบโดย DVN และ ISO8306 และการใช้เทคโนโลยี Ar‑Dehumidifying ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดฝ้ากับกระจกด้านในและด้านนอกในระหว่างการใช้งานภายใต้สภาพที่โหดๆ

กลไกยังเป็นแบบเดิมคือ SZ02 ซึ่งเป็นการจับเวลาแบบวงเดี่ยว 60 นาที และมีแยก Small Second อยู่ในตำแหน่ง 3 นาฬิกา ซึ่งกลไกนี้ถูกดัดแปลงมาจากพื้นฐานของ Valjoux 7750

Sinn EZM 13.1 มาพร้อมกับรูปแบบของสายที่มีให้เลือกทั้งสายสตีล ซิลิโคน และสายหนัง โดยมีราคาอยู่ระหว่าง 2,650-2,850 ยูโร