ซินน์ เพิ่มทางเลือกใหม่ของสีสันบนหน้าปัดและขอบตัวเรือนให้กับรุ่น 103 ด้วยรุ่น SA G กับสีเขียวสุดสวย พร้อมการผลิตที่มีเพียง 500 เรือนเท่านั้น
Sinn 103 SA G เพิ่มสีสันใหม่บนหน้าปัด
-
การเพิ่มสีสันใหม่บนหน้าปัดและขอบสเกลสีเขียว
-
ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 500 เรือน พร้อมทางเลือกของสาย 3 แบบ
-
ราคาเริ่มต้นที่ 2,690 ยูโร
103 ถือเป็นนาฬิการุ่นดังอีกรุ่นของ ซินน์ ที่เมื่อก่อนอาจจะมีทางเลือกของสีสันบนหน้าปัดไม่มากนัก แต่คราวนี้ ซินน์ ขยับขยายตรงนี้เพื่อรองรับกับความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะการเปิดตัวสีสันบนหน้าปัดและขอบตัวเรือนที่สอดรับกับกระแสสีเขียวที่ยังมาแรงอย่างต่อเนื่องในปีนี้ด้วยรุ่นใหม่แกะกล่องอย่าง 103 SA G ที่มีการผลิตจำนวนจำกัด
สำหรับงานนี้ต้องบอกว่าเป็นการเพิ่มสีหน้าปัดใหม่ เพราะเมื่อเปรียบเทียบกับพี่ๆ ในคอลเล็กชั่น 103 แล้ว ในรุ่นนี้มีความแตกต่างจาก 103 Ti และ 103 St DOAPAL และ St Sa ที่มีขายอยู่ก่อนอย่างชัดเจนในส่วนของวัสดุตัวเรือน ชุดเข็ม และรายละเอียดตรง Pusher หรือปุ่มกดของระบบจับเวลา Chronograph แต่เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่น 103 St รุ่นธรรมดาแล้วเหมือนกัน
จะว่าไปแล้วงานนี้ถือว่านานเอาเรื่องเหมือนกันสำหรับการเพิ่มอะไรใหม่ๆ ให้กับรหัส St เพราะว่าเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2013 และถือเป็นเวอร์ชัน Chronograph ของนาฬิกาในกลุ่มนักบินที่อ้างอิงแรงบันดาลใจของรูปทรงมาจากนาฬิกาคลาสสิคอย่าง Brequet Type XX ที่เปิดตัวในช่วงทศวรรษที่ 1960 โดยที่ผ่านมานอกจากหน้าปัดดำแล้ว ก็จะมีรุ่นหน้าปัดสีใหม่ๆ ออกมาขายเป็นระยะๆ แต่ก็เป็นแค่ Limited Edition เช่นเดียวกับ 103 SA G
ในรุ่น 103 SA G มาพร้อมกับตัวเรือนที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 41 มิลลิเมตร หนา 16 มิลลิเมตร และ Lug to Lug 47 มิลลิเมตร พร้อมความกว้างขาสาย 20 มิลลิเมตร โดยตัวเรือนผลิตจาก Stainless Steel ขัดเงา พร้อมความสามารถในการทนทานต่อสนามแม่เหล็กที่ผ่านมาตรฐาน DIN 8309
โดยที่กระจกทั้งด้านหน้าและหลังเป็นแบบ Sapphire ซึ่งด้านหน้าเป็นแบบโดมและมีการเคลือบสารกันการสะท้อนแสงทั้ง 2 ด้าน ส่วนหน้าปัดมาและ Insert บนขอบตัวเรือนมากับสีเขียวโทนสวย โดยที่สเกลจับเวลาบนขอบตัวเรือนจะเป็นแบบ Countdown ที่แตกต่างจากขอบสเกลสำหรับนาฬิกาดำน้ำ
สำหรับกลไกนั้นมีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมที่ใช้ ETA Valjoux 7750 ในรุ่นแรกๆ มาเป็น Concepto C99001 มีทับทิมจำนวน 25 เม็ด และเดินด้วยความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง ขึ้นลานมือและแฮ็คเข็มวินาทีได้ สามารถจับเวลาสูงสุดได้ 12 ชั่วโมง ส่วนจำนวนของกำลังสำรองนั้นไม่ได้มีการระบุเอาไว้
การทำตลาดนั้นมีขายทั้งรุ่นสายผ้า สายหนัง สายยาว และสายเหล็กขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า ซึ่งจะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2,690 ยูโร ไปจนถึงรุ่นแพงสุดคือสายเหล็ก 2,890 ยูโร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/