มารู้จัก 3 Limited Edition ของ Seiko Sumo ที่จะขายช่วงปลายปี

0

ถ้าตามข่าวออนไลน์บ่อยๆ คุณจะพบว่าช่วงนี้มีภาพของนาฬิการุ่นใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่ที่น่าสนใจคือ Seiko Sumo 3 รุ่นที่ถูกส่งต่อมาเป็นทอดๆ อย่างต่อเนื่อง และวันนี้เรามาทำความรู้จักกันว่าทั้ง 3 รุ่นมีอะไรบ้าง

- Advertisement -

มารู้จัก 3 Limited Edition ของSeiko  Sumo ที่จะขายช่วงปลายปี

เรื่องของ Limited Edition จาก ไซโก ไม่ใช่มีเฉพาะแค่ในบ้านเราเท่านั้น แต่ในประเทศอื่นๆ หรือกลุ่มประเทศในละแวกอื่นทั่วเอเชียก็มีการผลิตออกมาเช่นกัน อย่างฟิลิปปินส์ก็เพิ่งมี LE รุ่นแรกเป็นของตัวเองที่พัฒนามาจาก Monster ขณะที่ช่วงเวลาไล่เลี่ยกันบรรดาแฟนๆ  ของ ไซโก ต่างก็สงสัยว่ามีภาพของ Sumo (ซูโม่) หน้าตาแปลกๆ ออกมาให้เห็นตามสื่อออนไลน์ถึง 3 รุ่นด้วยกัน โดยทั้งหมดใช้พื้นฐานของ ไซโก ซูโม่ รุ่นปัจจุบันที่มีขนาดตัวเรือน 45 มิลลิเมตร และขับเคลื่อนด้วยกลไกใหม่ 6R35 ที่มีการสำรองพลังงานถึง 70 ชั่วโมง

แน่นอนว่าเราจะมาเฉลยกันว่าแต่ละรุ่นนั้นคืออะไรบ้าง

-ไซโก SPB192J1 : เรียกว่า Sumo เต่าทะเลอย่าง Hawksbill Turtle หรือเต่ากระ เพราะตอนแรกที่เห็นหลายคนบอกว่ามันคือ Root Beer แต่ความจริงแล้วสีสันที่อยู่บน Insert Ring ของขอบตัวเรือน รวมถึงหน้าปัดนั้นได้รับการออกแบบโดยสะท้อนถึงลวดลายบนกระดองของเต่ากระ โดยจะมีโทนสีน้ำตาลอ่อน สีน้ำตาลเข้มเป็นสีหลัก

นาฬิการุ่นนี้มีการผลิตออกสู่ตลาดเพียง 1,200 เรือนเท่านั้น และแน่นอนว่าเป็น Limited Edition ที่ขายเฉพาะในกลุ่มประเทศแถบฮ่องกง มาเก๊า มาเลเซีย บรูไน และสิงคโปร์เหมือนกับหลายๆ รุ่นที่ออกมาก่อนหน้านี้ และเริ่มขายแล้วตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา

Seiko

ไซโก SPB195J1 : เป็น Limited Edition ที่ผลิตเพื่อตลาดไต้หวันเท่านั้น โดยสิ่งที่พิเศษคือ ตัวเรือนที่รมดำ และมาพร้อมกับโทนสีเขียวทั้งบนหน้าปัด และ Insert Ring บนขอบตัวเรือน พร้อมเต้มความสวยงามและเด่นอีกนิดด้วยปลายเข็มวินาทีที่เป็นสีแดง

Seiko

-ไซโก SPB194J1 : ดูเหมือนว่าคอลเล็กชั่น Zimbe จะยังเดินทางออกสู่ท้องทะเลอย่างต่อเนื่องตามคอนเซ็ปต์ของการว่ายน้ำทั่วโลกแบบไม่หยุดพักของฉลามวาฬ และนี่คือรุ่นที่ 15 ของคอลเล็กชั่นนี้ ซึ่งมีภาพเผยออกมาให้เห็นในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน โดยจะถือเป็นครั้งที่ 2 ที่ Sumo เข้ามามีส่วนใน Zimbe หลังจากที่ก่อนหน้านั้นเคยเปิดตัวไปในรุ่นที่ 4 เมื่อ 2 ปีที่แล้ว

สำหรับรุ่นใหม่จะมากับรหัส SPB194J1 และอ้างอิงการเดินทางไปที่เกาะโอกินาว่าของประเทศญี่ปุ่น ที่มีความสมบูรณ์ทางท้องทะเลและเป็นเป้าหมายในการเดินทางของฉลามวาฬในครั้งนี้ และแน่นอนว่าสีทองและดำที่ถูกนำมาใช้บนตัวเรือนจะสะท้อนถึงช่วงเวลายามเย็นอันสวยงามของท้องฟ้าที่เกิดจากการที่พระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า

ตามภาพที่หลุดออกมานั้น นาฬิกาเรือนนี้จะเริ่มขายในวันที่ 27 พฤศจิกายนและมีราคาป้ายอยู่ที่ 39,800 บาท โดยที่ยังไม่มีการระบุจำนวนการผลิตออกมาว่าอยู่ที่เท่าไร

Seiko