ตอนที่มีการเปิดรับจองผมไม่ได้สนใจ Seiko SMY199P Number 9 ก็เลยปล่อยผ่านไป แต่ด้วยความฮ็อตของตัวนาฬิกาก็พลาดไม่ได้ที่จะต้องเอามารีวิวสักหน่อยหลังจากที่มีมิตรสหายท่านหนึ่งส่งต่อมาให้ผมได้ลองสัมผัสในช่วงสั้นๆ
Seiko SMY199P Number 9 ความพอเพียงตามรอยคำสอนของพ่อ
- Seiko SMY199P Number 9 ได้รับอิทธิพลจากรุ่น SKJ045P1 ที่อยู่ข้อพระหัตถ์ของในหลวงรัชกาลที่ 9
- ผลิตออกมาเพียง 2,999 เรือนและถูกจองไปหมดแล้ว\
- ราคาตอนรับจอง 9,900 บาท แต่ตอนนี้ราคาขายในตลาดขยับไปไกลจากเดิม 4 เท่าตัวแล้ว
หลังจากที่เปิดให้รับจองกันเมื่อเดือนมีนาคม ผ่านมา 8 เดือนนิดๆ ในที่สุดนาฬิกาที่ทุกคนเฝ้ารออย่าง Seiko SMY199P Kinetic หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า Number 9 ก็ถึงเวลาที่ผู้โชคดีจำนวน 2,999 คนจะเดินทางมารับนาฬิกาตัวจริง และสารภาพว่าในตอนที่มีการเปิดจองผ่านทางเว็บไซต์ ผมไม่ได้สนใจนาฬิกาเรือนนี้สักเท่าไร แต่ก็โชคดีพอที่จะมีเพื่อนฝูงที่โชคดีซึ่งสามารถจองได้ และส่งผ่านนาฬิกาเรือนนี้มาให้สัมผัสและรีวิวสั้นๆ …แค่สัมผัสนะครับ ไม่ได้ให้ยืมใส่
ผมคงไม่เขียนถึงเรื่องดราม่าที่เกิดขึ้นในโลกออนไลน์หลังจากที่ทุกคนได้รับนาฬิกา และราคาของนาฬิกาเรือนนี้ที่เคยพุ่งสูงแบบโอเวอร์ในระดับ 150,000 บาท (ส่วนจะขายได้หรือเปล่าอันนี้ไม่ทราบ) ซึ่ง SMY199P Number 9 เป็นนาฬิกาที่ถูกสร้างขึ้นใหม่โดยอ้างอิงหน้าตาและสเปกที่ใกล้เคียงกับรุ่น SKJ045P1 ที่ผลิตออกสู่ตลาดในช่วงปี 1995 และกลับมาเป็นจุดสนใจอีกครั้งก็เพราะภาพๆ หนึ่งที่ถูกเผยแพร่ในอินเตอร์เนต ซึ่งเป็นภาพที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงสวมใส่นาฬิกาเรือนนี้ และนั่นจึงทำให้ SKJ045P1 กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้ง และทำให้นักสะสมชาวไทยตามนาฬิการุ่นนี้กันเป็นเรื่องเป็นราว
แน่นอนว่า SMY199P Number 9 ที่ถูกผลิตตามหลังนั้นเป็นคนละเรือนกับ SKJ045P1 (ดูแค่รหัสก็น่าจะทราบกันแล้ว) แต่ก็ถูกสร้างขึ้นมาภายใต้แรงบันดาลใจที่เกี่ยวพันกับนาฬิกา Kinetic รุ่นนี้ เช่นเดียวกับการนำเสนอคอนเซ็ปต์ของความพอเพียงตามรอยคำสอนของพ่อ โดยโปรเจ็กต์นี้จัดทำขึ้นโดยไม่หวังผลกำไร และรายได้ทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่ายแล้วจะนำไปมอบสมทบมูลนิธิชัยพัฒนา ซึ่งเป็นมูลนิธิในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ซึ่งทาง Seiko ก็มีการส่งมอบรายได้จากโครงการนี้หลังหักค่าใช้จ่ายไปแล้วเมื่อไม่นานนี้ ด้วยตัวเลข 9,208,555 บาท
อย่างที่บอกตั้งแต่ต้นว่า SMY199P Number 9 เป็นโปรเจ็กต์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก SKJ045P1 ดังนั้นเราจึงได้เห็นรายละเอียดหลักๆ ที่ถอดแบบมาจากนาฬิการุ่นนี้ แต่ก็มีการปรับรายละเอียดหลายจุด
สิ่งที่ชัดเจนคือ วัสดุตัวเรือนที่ถูกเปลี่ยนจากไทเทเนียมในรุ่นดั้งเดิมมาเป็นสแตนเลสสตีล และตรงนี้ส่งผลต่อหน้าปัดด้วยเช่นกัน ซึ่งถ้าเป็นรุ่น SKJ045P1 รุ่นดั้งเดิมนั้นจะมีคำว่า Titanium ที่ด้านล่างของหน้าปัด ส่วนในรุ่น SMY199P Number 9 คำนี้แล้ว ส่วนตัวเลขบน Bezel ก็มีการเปลี่ยนฟอนต์ใหม่
สำหรับตัวเรือนมีขนาด 42 มิลลิเมตรแบบรวมเม็ดมะยม และความหนา 12 มิลลิเมตรเท่ากัน แต่ตัวเลขของ Lug-to-Lug ในรุ่น SMY199P Number 9 จะอยู่ที่ 48 มิลลิเมตร ส่วนของ SKJ045P1 ไม่มีสเปกในตัวนี้บอกไว้ แต่ก็คิดว่าน่าจะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน
ถ้ามองในแง่ตัวเลขเพียงอย่างเดียว กับคนข้อมือระดับ 7 นิ้วอย่างผม อาจจะไม่ใช่สิ่งที่เป็นปัญหาในการสวมใส่ แต่พอเอาขึ้นทาบข้อมือจริงๆ กลับรู้สึกไม่ค่อยโอเคสักเท่าไรกับขนาด เพราะเล็กไปหน่อย ตรงนี้อาจเพราะเป็นตัวเลขของเส้นผ่านศูนย์กลางที่บอกมานั้นเป็นตัวเลขแบบรวมเม็ดมะยม แต่ถ้าไม่รวมจะอยู่ที่ 40 มิลลิเมตรเท่านั้น
ส่วนตัวผมในแง่ของการสวมใส่กับสรีระของตัวเอง อันนี้ต้องบอกว่ายังไม่ถูกใจ แต่ในเรื่องของการสะสมหรือคุณค่าทางจิตใจ ตรงนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่ง และดูแล้วถ้าผมได้มา ก็คงเก็บแบบไม่ได้ใส่อย่างแน่นอน นอกจากจะเอาออกมาเขย่าเพื่อให้ระบบ Kinetic สะสมพลังงานเข้าไป สำหรับคนอื่นที่ข้อมือเล็กกว่านี้ หรือใส่นาฬิกาแบบไม่ยึดติดกับขนาด ก็คงไม่ใช่ปัญหาอะไร
สำหรับการเปลี่ยนวัสดุจากไทเทเนียมในรุ่นดั้งเดิม SKJ045P1 มาเป็นสแตนเลสตีลนั้น ทำให้ตัวนาฬิกามีน้ำหนักมากขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งหลายคนที่ชอบไทเทเนียมเพราะน้ำหนักที่เบากว่า หรือใส่แล้วไม่แพ้เหมือนกับสแตนเลสสตีล อาจจะไม่ค่อยถูกใจเท่าไร ส่วนผมไม่ได้ยึดติดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ คิดว่าน้ำหนักที่กดลงบนข้อมือนั้นถือว่าอยู่ในระดับที่ระดับได้ และไม่ได้สร้างภาระอะไรให้กับข้อมืออย่างแน่นอนเวลาคุณใส่ไปนานๆ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผมไม่ชอบเพียงอย่างเดียวสำหรับนาฬิกาเรือนนี้คงเป็นเรื่องของสายแบบ Jubilee เพราะความย้วยของมันบวกกับรูปแบบของลวดลายที่ดูแล้วย้อนยุคมากไปหน่อยจนผมรู้สึกว่ามันเชยไปหน่อย ซึ่งตรงนี้ก็ไม่ยากอะไร แค่หาสายหนังสวยๆ สักเส้นมาเปลี่ยนก็ถือว่าจบและได้นาฬิกาที่สวยเรือนหนึ่งเลยทีเดียว
อีกความต่างที่เกิดขึ้นสำหรับรุ่น SMY199P Number 9 คือ ฝาหลัง ซึ่งในรุ่นนี้จะมีการสลักเลข ๙ ตัวไหญ่อยู่บนฝาหลัง และมีการรันตัวเลขเรือนที่ผลิตจากจำนวนที่ผลิตทั้งหมด 2,999 เรือน ซึ่งในรุ่น SKJ045P1 ไม่ได้มีและเป็นฝาหลังแบบปกติ
สำหรับรุ่น SMY199P Number 9 ยังใช้กลไก Kinetic แต่เปลี่ยนมาเป็นรหัสที่ใหม่ขึ้นอย่าง 5M83 แทนที่รุ่นเดิมซึ่งเป็นรหัส 5M43 กลไกแบบนี้ก็ไม่มีอะไรให้วุ่นวายในการใช้งานเพียงแต่อาจจะต้องหมั่นสังเกตหน่อยในกรณีที่คุณมีนาฬิกาในกรุมาสลับใส่หลายเรือน
เพราะว่าระบบ Kinetic ของ Seiko จะใช้การขยับเขยื้อนของร่างกายในทำให้โรเตอร์ในระบบหมุนและเปลี่ยนพลังงานจลน์ให้เป็นกระแสไฟฟ้าก่อนส่งเข้ามาเก็บในตัวเก็บประจุ ซึ่งถ้ามีการชาร์จกระแสไฟฟ้าจนเต็มแล้ว ก็อยู่ได้ 6 เดือนอย่างสบายๆ ถ้าคุณใส่บ่อยก็ไม่ต้องกังวลอะไร แต่ถ้าเน้นนอนกล่องก็หมั่นเอาออกมาเช็คระดับกระแสไฟฟ้าในตัวเก็บประจุหน่อย ด้วยการกดปุ่มในตำแหน่ง 2 นาฬิกาดู เพราะถ้าปล่อยให้นอนตายเพราะกระแสไฟฟ้าหมดเกลี้ยงบ่อยๆ ตัวเก็บประจุอาจจะมีอายุการใช้งานที่สั้น
ส่วนตัวกับนาฬิกาเรือนนี้ ถ้ามองในแง่ของความสวยและความน่าสนใจ ผมคงให้ความเห็นว่าเป็นนาฬิกาที่สวยรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว เพียงแต่ถ้าคุณอยากที่เริ่มจะมาสนใจในตอนนี้ งานนี้บอกได้เลยว่าไม่ง่าย นอกจากจะกำเงินมาเยอะหน่อยๆ เพราะ SMY199P Number 9 ก็ยังอยู่ในวังวนของหลักอุปสงค์อุปทาน และจากราคาจองหน้าเว็บเมื่อวันที่ 1 มีนาคม ซึ่งมีตัวเลขอยู่ที่ 9,900 บาท ในตอนนี้ราคาที่ขายตามหน้าเว็บส่วนใหญ่จะอยู่ราวๆ 37,000-39,000 บาท และคิดว่านานวันเข้าราคาก็น่าจะขยับขึ้นไปอีกอย่างแน่นอนเหมือนกับรุ่นอื่นๆ ของ Seiko ที่ถูกผลิตออกมาในช่วงวาระพิเศษที่เกี่ยวข้องกับพระองค์ท่าน
แต่ถามว่าถ้าเป็นผม จะซื้อไหม ? คำตอบคือ คงไม่ เพราะคอนเซ็ปต์ผมคือ จะซื้อเฉพาะนาฬิกาที่ตัวเองถูกใจและจะต้องใส่ใช้งานเท่านั้น ไม่ได้ซื้อมาแล้วจับนอนอวดโฉมอยู่ในกล่อง ดังนั้น การซื้อมาขายต่อหรือเก็งกำไรในอนาคตจึงไม่ได้อยู่ในหัว
รายละเอียดทางเทคนิค : Seiko SMY199P Number 9
ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง : 42 มิลลิเมตรแบบรวมเม็ดมะยม
ความหนา : 12 มิลลิเมตร
Lug-to-Lug : 48 มิลลิเมตร
กระจก : Hardlex
วัสดุผลิตตัวเรือน : สแตนเลส สตีล
กลไก : Kinetic 5M83
สำรองพลังงาน : 6 เดือน
ระดับการกันน้ำ : 200 เมตร
- ประทับใจ : หน้าตาและรูปลักษณ์ที่ดูสปอร์ต ชุดเข็มทั้งชั่วโมง นาที และวินาทีซึ่งดูลงตัว
- ไม่ประทับใจ : สายแบบ Jubilee ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเล็กไปหน่อย
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigiwatch/