Seiko Save the ocean SBDX049 / SLA055 ความพิเศษบนตัวเรือนนาฬิกาดำน้ำย้อนยุค 1968

0

คอลเล็กชั่น Save the ocean มีรุ่นใหม่ออกมาอีกแล้ว และคราวนี้ยังอ้างอิงความสวยงามของแผ่นน้ำแข็งในทวีปแอนตาร์กติกาเหมือนเดิม แต่มาพร้อมกับนาฬิการุ่นใหม่ที่ได้รับการออกแบบโดยอ้างอิงจากนาฬิกาดำน้ำ 300 เมตรรุ่นที่เปิดตัวในปี 1968

- Advertisement -

Seiko Save the ocean SBDX049

Seiko Save the ocean SBDX049 / SLA055 ความพิเศษบนตัวเรือนนาฬิกาดำน้ำย้อนยุค 1968

  • เวอร์ชันพิเศษจากคอลเล็กชั่น Save the ocean ด้วยนาฬิการุ่นใหม่

  • ตัวเรือนได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากนาฬิกาดำน้ำรุ่นแรกที่กันน้ำได้ 300 เมตร

  • ผลิตเพียง 1,300 เรือน โดยราคาในญี่ปุ่นอยู่ที่ 506,000 เยน

นี่คือความพิเศษเท่าที่เคยมีมาสำหรับ Save the ocean ของ Seiko เพราะถือเป็นรุ่นแรกที่ถูกผลิตบนตัวเรือนนาฬิกาดำน้ำระดับ Hi-End ที่มาพร้อมกับกลไกอัตโนมัติตัวเจ๋งอย่าง 8L35 โดยจะจำหน่ายในรหัส Seiko Save the ocean SBDX049 ในตลาดญี่ปุ่น หรือ SLA055 สำหรับตลาดโลก ซึ่งจะมีจำหน่ายด้วยกัน 1,300 เรือน

Seiko Save the ocean SBDX049

Seiko Save the ocean SBDX049

สำหรับคอนเซ็ปต์ของนาฬิกาเรือนนี้คือ การสะท้อนความงาม (อีกครั้ง) ของทวีปแอนตาร์กติกา หลังจากที่มีผลิตออกมาก่อนหน้านี้กับรุ่นรอยเท้าเพนกวิน โดยสิ่งที่พิเศษและไม่เคยมีมาก่อนคือ เป็นการนำนาฬิการุ่นเด่นที่ถือเป็นงาน Re-Interpretation นาฬิกาดำน้ำที่เปิดตัวในปี 1968

ซึ่งนาฬิกาเรือนนี้มีสตอรี่ที่เชื่อมโยงจากจุดเริ่มต้นของ Seiko ในตลาดนาฬิกาดำน้ำที่เกิดขึ้นในปี 1965 ซึ่งในตอนนั้น Seiko ผลิตนาฬิกาดำน้ำเรือนแรกที่มีความสามารถในการกันน้ำ 150 เมตร และถูกสวมใส่โดยสมาชิกในทีมงานสำรวจทวีปแอนตาร์กติกาครั้งที่ 8 ในชื่อโปรเจ็กต์ Japanese Antarctic Research Expedition เมื่อปี 1966

Seiko Save the ocean SBDX049

หลังจากเสร็จสิ้นการทำงาน บรรดาสมาชิกต่างให้ข้อมูลที่สำคัญกับ Seiko ในการนำมาใช้เพื่อต่อยอดและพัฒนานาฬิกาดำน้ำของตัวเองและได้นำไปสู่การได้รับเลือกอีกครั้งในการสวมใส่ของสมาชิกในทีมที่ออกสำรวจในปี 1968 และ 1969 แต่ในช่วงปี 1968 Seiko ได้เปิดตัวนาฬาดำน้ำตัวเทพออกมานั่นคือรุ่นที่ใช้ตัวเรือนโมโนเคส พร้อมกลไกความถี่สูงระดับ 10 ครั้งต่อวินาที และมีความสามารถในการกันน้ำ 300 เมตร

นั่นคือเรื่องราวที่อยู่เบื้องหลังของการเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ที่เป็น Re-Intrepretation ของนาฬิการุ่นดังที่ก่อกำเนิดในปี 1968 และถูกโยงเข้ากับความเชื่อมั่นที่ Seiko ได้รับจากทีมสำรวจทวีปแอนตาร์กติกาผ่านทางคอลเล็กชั่น Save the ocean รุ่นใหม่ล่าสุด และแน่นอนว่านาฬิกาเรือนนี้ได้ถูกเปิดตัวออกมาและถูกสวมใส่โดยสมาชิกของทีมสำรวจในโปรเจ็กต์ Japanese Antarctic Research Expedition ซึ่งในปัจจุบันเป็นครั้งที่ 63 แล้ว

Seiko Save the ocean SBDX049 Seiko Save the ocean SBDX049

ตัวนาฬิดกาถูกถอดแบบรูปทรงมาจากนาฬิกาดำน้ำ Hi-Beat 300 เมตรรุ่นดั้งเดิมในปี 1968 เม็ดมะยมวางในตำแหน่ง 4 นาฬิกา แต่ฝาหลังเป็นแบบขันเกลียวไม่ได้เป็นตัวเรือนโมโนเคส ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 42.6 มิลลิเมตร พร้อมหน้าปัดที่ออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากแผ่นน้ำแข็งของทวีปแอนตาร์กติกา วัสดุในการผลิตตัวเรือนและขอบตัวเรือนแม้ว่าจะเป็นสแตนเลสสตีล

แต่ก็เป็นเกรดที่สำหรับใช้งานในทะเลซึ่งมีความทนทานต่อการกัดกร่อนมากกว่า โดยมีค่า PERN หรือ Pitting Resistance Equivalent Number ซึ่งเป็นดัชนีในการวัดความทนทานมากกว่าสแตนเลสที่ใช้ในนาฬิการะดับหรูถึง 1.7 เท่า

Seiko Save the ocean SBDX049

กลไกเป็นรหัส 8L35 ที่คุ้นเคยกันดีกับการวางอยู่ในนาฬิการะดับหรูของ Seiko ทั้ง MM300 และตัว Tuna Can อย่าง Emperor Tuna เดินด้วยความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง และมีกำลังสำรอง 50 ชั่วโมง

Seiko Save the ocean SBDX049

การผลิตมีเพียง 1,300 เรือนทั่วโลก ซึ่ง 300 เรือนจะเป็นรหัส SBDX094 สำหรับตลาดญี่ปุ่น และในเซ็ตจะมาพร้อมกับสายไนลอนแบบ NATO สีเดียวกับหน้าปัด โดยจะเริ่มวางขายในเดือนมกราคม 2022 กับราคา 506,000 เยน

Seiko Save the ocean SBDX049

รายละเอียดทางเทคนิค : Save the ocean SBDX049 / SLA055

  • เส้นผ่านศูนย์กลาง : 42.6 มิลลิเมตร
  • หนา : 13.1 มิลลิเมตร
  • Lug to Lug : 49.3 มิลลิเมตร
  • วัสดุตัวเรือน : สแตนเลสสตีล
  • กระจก : แซฟไฟร์ แบบโดม
  • กลไก : อัตโนมัติ รหัส 8L35
  • ความถี่ : 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง หรือ 8 ครั้งต่อวินาที
  • ความคลาดเคลื่อน : +15 ถึง -10 วินาทีต่อวัน
  • กำลังสำรอง : 50 ชั่วโมง
  • การกันน้ำ : 200 เมตร
  • ผลิต : 1,300 เรือน