ตกเป็นข่าวอยู่ได้สักพักสำหรับคอลเล็กชั่นพิเศษของ Sumo ที่จะมากับชื่อ Ice Diver ซึ่งผลิตออกมาเพื่อขายสำหรับตลาดในสหรัฐอเมริกามีด้วยกัน 3 รุ่น คือ SPB175 SPB177 และ SPB179
Seiko Prospex Sumo Ice Diver Collection 3 สีพิเศษเพื่อตลาดอเมริกา
-
เป็นรุ่นพิเศษที่ผลิตขึ้นมาเพื่อตลาดอเมริกา
-
ใช้พื้นฐานเดียวกับรุ่น Sumo และมีการเปลี่ยนหน้าปัด ขอบตัวเรือน และกระจก Sapphire แบบมีเลนส์ขยาย
-
ราคาป้ายในสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ 900 เหรียญสหรัฐฯ
นอกจากฝั่งญี่ปุ่นแล้ว ทางฝั่งอเมริกาก็มีการผลิตรุ่นพิเศษเพื่อขายในตลาดกลุ่มนี้ โดยจับเอานาฬิการุ่น Prospex Diver 200m หรือที่รู้จักกันในชื่อ Sumo มาผลิตเป็นคอลเล็กชั่น Ice Diver โดยมีจำหน่ายด้วยกัน 3 รุ่นคือ SPB175 SPB177 และ SPB179 พร้อมกับแพ็คเกจพิเศษที่ในเซ็ตมีแถมไฟฉายขนาดเล็กอย่าง Mini Mag-Lite มาให้ด้วย
Series : SPB179
Series : SPB175
Series : SPB177
จากข้อมูลที่ได้รับมา ดูเหมือนว่านาฬิการุ่นนี้ไม่ใช่อยู่ดีๆ ก็ถูกผลิตขึ้นมาแต่มีที่มาที่ไป โดยอ้างอิงถึงการผจญภัยของ Naomi Uemura ที่กลายเป็นมนุษย์คนแรกที่เดินทางไปถึงขั้วโลกเหนือเมื่อปี 1978 และบนข้อมือได้คาดนาฬิกา Seiko รุ่น 6105-811X หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า Captain Willard แต่ก่อนหน้านั้นเขาถือว่าเป็นนักผจญภัยตัวจริง เพราะผ่านทั้งการพิชิตยอดเขา Mount McKinley หรือ Denali ในปี 1970 เช่นเดียวกับการพิชิตทั้งยอดเขาเอเวอเรสต์ คิลิมันจาโร มองต์บลัง และแม็ตเตอร์ฮอร์นมาแล้วตั้งแต่ก่อนอายุ 30 ปีเสียอีก
แล้วตรงนี้เกี่ยวพันกับ Seiko อย่างไร ก็อย่างที่บอกว่านาฬิการุ่น 6105-811X กลายเป็นนาฬิกาคู่กายของเขา แม้ว่าจะเกิดมาเพื่อดำน้ำก็ตาม แต่ทว่า Uemura กลับพาขึ้นสวนทางไปบนท้องฟ้าอยู่เสมอ นอกจากนั้น ตัวเขาเองก็ยังไม่หยุดผจญภัย และในปลายปีนี้ Uemura วางแผนในการตะลุยพื้นที่หนาวเย็นสุดขั้วในแถบอลาสก้า และแอนตาร์กติกา ซึ่งตรงนี้ได้กลายมาเป็นจุดเริ่มต้นในการวางแผนผลิตคอลเล็กชั่นที่ชื่อว่า Ice Diver ขึ้นมา
อย่างที่บอกนาฬิการุ่นนี้ใช้พื้นฐานของ Sumo รุ่นปัจจุบัน แต่พิเศษตรงที่การใช้สีหน้าปัดและขอบตัวเรือนใหม่ โดยในรุ่น SPB175 จะมากับสีเทาที่ถูกเรียกว่า Monochrome ตามด้วย SPB177 สีเขียวหรือ Pine Green และที่เด่นสุดคือSPB179 ในสีฟ้าอ่อนหรือ Ice Blue
ในแง่ของสเป็กนั้น ถือว่านาฬิการุ่นนี้ไม่ได้มีอะไรที่แปลกและแตกต่างจาก Sumo รุ่นใหม่สักเท่าไร ไม่ว่าจะเป็นขนาดตัวเรือนที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 44 มิลลิเมตร กระจก Sapphire แต่เพิ่มเติมขึ้นมาคือเลนส์ Cyclop ตรงช่องวันที่ หรือ Date กลไก 6R35 ที่สามารถสำรองพลังงานได้นานถึง 70 ชั่วโมง โดยทุกเรือนมากับสายโลหะ
แพ็คเกจรุ่นนี้ถือว่าน่าสนใจไม่แพ้กันเพราะเป็นไม่กี่ครั้งที่เราจะได้เห็นความอลังการของกล่องจาก Seiko ซึ่งในครั้งนี้มีการแถมไฟฉาย Mini Mag-Lite มาให้ด้วย พร้อมกับตั้งราคาขายเอาไว้ที่ 900 เหรียญสหรัฐฯ โดยมีจำหน่ายใน AD ของ Seiko ที่สหรัฐอเมริกาแล้ว
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/