ตามปกติแล้วหนังภาคต่อมักจะค่อนข้างมีปัญหาในการทำให้สนุกหรือดีกว่าภาคแรก แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกเรื่องจะแป๊กเมื่อเปรียบเทียบกับภาคแรก บางเรื่องก็ทำได้ลงตัวหรือดีกว่าด้วยซ้ำ ซึ่งเรากำลังจะบอกว่าโฉมใหม่ของ Seiko Prospex Arnie 2022 เข้าข่ายประการหลัง และถือเป็น Tool Watch ที่ถูกปรับปรุงเพื่อการใช้งานใต้น้ำอย่างแท้จริง
Seiko Prospex SNJ033 Arnie 2022 หนังภาคต่อที่ลงตัวกว่าภาคแรก
-
รุ่นใหม่ของ Seiko Prospex Arnie ที่มีการปรับปรุงหลายจุดทั้งในเชิงวัสดุ การออกแบบ และกลไก
-
ตัวเรือนเล็กลงเล็กน้อย แต่หนา และ Lug to Lug ยาวขึ้น ทำให้สวมใส่ได้ลงตัวขึ้น
-
กลไกใหม่ H855 เพิ่มฟังก์ชั่นเพื่อช่วยนักดำน้ำมากขึ้น
สารภาพตามตรงเลยว่าตอนแรกผมคิดว่าการเดินทางของนาฬิกาที่เป็นการรีเทิร์นของ Seiko Arnie จะสิ้นสุดอยู่ตรงแค่ Street Series ที่เป็นการนำของเดิมมาออกแบบหน้าตาใหม่ เปลี่ยนเข็มและเพิ่มสีใหม่จากรุ่นดั้งเดิมที่เปิดตัวในปี 2019 แต่ที่ไหนได้ มาถึงตอนนี้ Arnie ยังไม่ตาย แถมยังมีเวอร์ชันใหม่ออกมาขายด้วย บอกเลยว่าดีใจสุดๆ ซึ่งแน่นอนว่า ผมไม่พลาดอยู่แล้วที่จะสอย Seiko Prospex SNJ033 Arnie 2022 เข้ากรุและเอามาทำ Review ให้อ่านกัน
ข่าวคราวการเปิดตัวเวอร์ชันใหม่ของ Seiko Prospex Arnie มีให้ติดตามกันมาตั้งแต่ประมาณช่วงต้นไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ แต่สุดท้ายทุกสิ่งอย่างก็ยังเป็นแค่ข่าวลือที่ไม่มีการยืนยันให้รับทราบชัดเจนจนกระทั่งเราได้เห็นนาฬิกาเรือนนี้ถูกอัพโหลดขึ้นไปอยู่บนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Seiko พร้อมกับมีเอกสารข่าวออกมาเพื่อเป็นการยืนยันว่า Arnie is back
อย่างไรก็ตาม ที่เสียใจสุดๆ คือ ถึงแม้ว่านาฬิกาเรือนนี้จะมีทั้งหมด 3 เวอร์ชัน แต่บ้านเรากลับนำเข้ามาแค่รุ่นเดียวคือ SNJ033 ที่เป็นรุ่นธรรมดา ตัวเรือนและเกราะ รวมถึงสายเป็นสแตนเลสสตีล ส่วนรุ่นพิเศษ 4,000 เรือนที่ผลิตออกมาเพื่อฉลองครบรอบ 40 ปีของ Arnie และตัว PADI ยังไม่มีแม้แต่เงา (ณ ตอนนี้)
‘มีดีกว่าไม่มี’ คงไม่มีอะไรเกินเลยไปจากคำกล่าวนี้ ซึ่งผมคงต้องบอกว่า ถ้าให้เขียนลิสต์ตัวเลือกของ 3 รุ่นโดยไล่เรียงลำดับความอยากได้จากมากไปน้อย อย่างน้อยเจ้า SNJ033 แม้จะยังไม่ใช่ตัวเลือกแรก แต่ก็ไม่ใช่ลำดับสุดท้าย นั่นก็เลยทำให้ผมยอมทำใจได้ในระดับหนึ่งในการปิดดีลครั้งนี้ในที่สุด
ก่อนที่จะไปถึงเรื่องราวของรุ่นใหม่ เรามาทำความรู้จักกับ Seiko Arnie กันสักนิดนึงก่อนดีกว่า
นาฬิกาดำน้ำเรือนนี้จริงๆ ไม่ได้มีชื่อเรียกว่า Arnie แต่มีรหัสในการทำตลาดตอนช่วงเปิดตัวใหม่ๆ เมื่อปี 1982 ว่า H558-5009 และมีการจำหน่ายในช่วงสั้นๆ จนถึงปี 1990 ส่วนชื่อที่ได้มานั้นก็เป็นเพราะนี่คือนาฬิกาที่พระเอกนักบู๊แห่งทศวรรษที่ 1980 อย่าง Arnold Schwarzenegger สวม H558-5009 ฉากภาพยนตร์ที่ตัวเองรับบทเป็นทหารอย่าง Predator Commando หรือ Raw Deal นั่นก็เลยทำให้มันถูกเรียกว่า Seiko Arnie นับจากนั้นเป็นต้นมา โดยเป็นนาฬิกาเรือนแรกของ Seiko ที่ใช้กลไกแบบแสดงผล 2 แบบคือ เข็มและหน้าจอดิจิตอล รวมถึงยังมีความสามารถในการกันน้ำ 150 เมตร
หลังจากหายหน้าไปจากตลาดร่วม 30 ปี ทาง Seiko ก็ปัดฝุ่นนำเจ้า Arnie กลับมาอีกครั้ง และได้รับการตอบรับจากลูกค้าค่อนข้างอุ่นหนาฝาคั่ง เพราะเป็นนาฬิกามีสตอรี่ แต่สำหรับบ้านเรา ด้วยความที่เป็นนาฬิกาควอตซ์แถมยังมีค่าตัวค่อนข้างสูง ความนิยมก็เลยจำกัดวงอยู่พอสมควร จนทำให้เกิดความรู้สึก (ส่วนตัว) ว่า ไม่น่าจะมีหนังภาคต่ออย่างแน่นอน แม้ว่าในช่วงนั้นจะมีรุ่น Street Series ซึ่งเป็นเวอร์ชัน 1.5 ออกมาคั่นเวลาก็ตาม
แต่สุดท้าย Seiko Arnie ก็หนังเหนียวระดับหนึ่งเลย ยังไม่ตาย แถมมีภาคใหม่ออกมาด้วย
ทันทีที่ได้เห็นหน้าตาของ Seiko Prospex Armie 2022 ตามเว็บออนไลน์ ผมบอกเลยว่า ไม่พลาดแน่นอน และแม้ว่าจะไม่ได้ครอบครองเรือนที่เล็งเอาไว้ แต่ SNJ033 ก็ยังมีอะไรที่ดีและน่าสนใจอย่างมาก เรียกว่าไม่ผิดหวังและสมกับการรอคอย แน่นอนว่านี่คือนาฬิกาเรือนใหม่และไม่ได้เป็นการปรับโฉมเหมือนกับ Street Series และสิ่งที่ได้กลับมานั้นไม่ได้มีแค่เรื่องทางกายภาพของตัวนาฬิกาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสัมผัสและอารมณ์ที่แตกต่างจากรุ่นเดิมอย่างชัดเจนเมื่อนาฬิกาถูกวางอยู่บนข้อมือ
ส่วนหนึ่งต้องยกความดีความชอบให้กับการเปลี่ยนมาใช้สแตนเลสสตีลทั้งในส่วนตัวเรือนและเกราะหรือ Shroud (รวมถึงสาย) ของตัวนาฬิกา ถือว่ามีผลอยู่ในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะการเปลี่ยนมาใช้เกราะเหล็กแทนที่รุ่นเดิมที่เป็นพลาสติกนั้น ทำให้ตัวนาฬิกาเองดูดีและมีความคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปมากขึ้น
แต่นั่นไม่มาเท่ากับการปรับมิติตัวเรือนให้แตกต่างจากรุ่นเดิม ซึ่ง Seiko Prospex Armie 2022 มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือนเล็กลงจากรุ่นเดิม แต่ก็แค่เล็กน้อยเท่านั้นจนแทบไม่รู้สึกอะไร แต่ในส่วนของความหนา และ Lug to Lug ที่เพิ่มขึ้นมาแม้ว่าจะเล็กน้อย แต่ทำให้ตัวนาฬิกาดูหนาและเต็มข้อขึ้น นอกจากนั้นการย้ายปุ่มจากเดิมที่เทอยู่ทางฝั่งซ้ายของนาฬิกามาอยู่ทางฝั่งขวานั้น ส่วนตัวผมมองว่าช่วยทำให้ดูดีและมีสมดุลขึ้นจากรุ่นเดิม
ในแง่ของรายละเอียดที่อยู่บนตัวนาฬิกา ส่วนตัวผมมองว่า Seiko ทำได้ดีขึ้นในหลายจุด โดยเฉพาะความรู้สึกว่านาฬิกาเรือนนี้ไม่ใช่นาฬิกาที่ก๊อกๆ แก๊กๆ การเปลี่ยนเกราะตัวเรือนและการใช้สายที่ผลิตจากสแตนเลสสตีลก็คือปัจจัยหนึ่ง ส่วนอีกปัจจัย คือ การปรับรายละเอียดที่อยู่บนตัวนาฬิกา เช่น อินเสิร์ตที่อยู่บนขอบตัวเรือนซึ่งแม้ว่าจะเป็นอะลูมิเนียม แต่ก็มีพื้นผิวด้าน และมีการเซาะร่องเล็กบนสเกลทำให้ดูลงตัวขึ้น ชุดเข็มแม้ว่าจะดูคล้ายเดิม แต่เข็มนาทีก็ปรับนิดนึงตรงที่มีติ่งยิ่นออกมาจากหัวลูกศร ซึ่งจุดเล็กๆ ในแง่ของดีเทลเหล่านี้เมื่อรวมเป็นภาพใหญ่แล้ว ทำให้ตัวนาฬิกาดูสวย ลงตัว และมีความคุ้มค่ามากขึ้น
นอกจากนั้น สิ่งที่ Seiko จัดการกับ Arnie 2022 นั้นถือว่ามีการปรับอีกเยอะ โดยเฉพาะในเรื่องของกลไกที่ส่งผลต่ออะไรบางอย่าง ในรุ่นที่แล้วเป็นกลไกควอตซ์ 2 ระบบ คือ อนาล็อคและดิจิตอลในรหัส H851 ที่อ้างอิงในเรื่องของการจัดวางรายละเอียดบนหน้าปัดให้ยึดตามแบบรุ่นดั้งเดิมในปี 1982 โดยมีจอดิจิตอลวางอยู่ด้านบน ซึ่งตรงนี้ผมมองว่าเป็นเอกลักษณ์และจุดเด่นอย่างแรกที่ผมนึกถึง Arnie
อย่างไรก็ตาม ในรุ่นใหม่ Seiko จัดการเปลี่ยนการจัดวางใหม่เพราะใช้กลไกใหม่ ซึ่งยังเป็นแบบ 2 ระบบอยู่ ส่วนตัวผมยังไม่แน่ใจว่านี่คือกลไกใหม่ทั้งชุด หรือเป็นการอัพเกรดเพิ่มจาก H851 เพราะในจุดของความเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ผมเชื่อว่าสามารถทำได้บนพื้นฐานเดิมแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพภายนอก เช่น การย้ายตำแหน่งหน้าจอดิจิตอลมาอยู่ที่ 6 นาฬิกาแทน หรือปุ่มควบคุมต่างๆ แต่การยืนยันถึงความคิดนี้ว่าเป็นจริงหรือไม่นั้นคงต้องผ่านทาง Seiko เป็นหลัก
สำหรับการย้ายตำแหน่งหน้าจอดิจิตอลมาอยู่ที่ 6 นาฬิกาแทน บ้างก็ว่าเป็นการย้ายเพื่อทำให้หน้าปัดดูไม่แน่นและมีการจัดวางที่ลงตัวและดูดีกว่าการมีหน้าจออยู่ในตำแหน่ง 12 นาฬิกา แต่ส่วนตัวผมก็ยังไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้สักเท่าไร ครั้นจะคิดว่าเป็นเพราะการเปลี่ยนกลไกใหม่จาก H851 มาเป็น H855 ที่มีฟังก์ชั่นเพิ่มขึ้นจากเดิมอีกเยอะ ก็คงไม่กล้าที่จะฟันธง เพราะงานนี้คงต้องให้ทีมพัฒนาของ Seiko Arnie 2022 มาให้คำตอบ จึงจะชัดเจนที่สุด
H855 เป็นกลไกที่ถูกเพิ่มเติมฟังก์ชั่นที่เกี่ยวข้องกับการดำน้ำเข้าไป ซึ่งก็คือ การบันทึก Log ในการดำน้ำที่จะระบุทั้งความลึกในการดำและระยะเวลาในการดำของ Log นั้นๆ โดยมีการบันทึกได้สูงสุด 100 Log ส่วนอีกฟังก์ชั่นหนึ่งคือ Depth Meter สำหรับใช้ในการวัดความลึกซึ่งวัดตัวเลขสูงสุดได้ 80 เมตร เรียกว่างานนี้เป็นการอัพเกรดความสามารถของ Seiko Arnie ที่ตรงใจนักดำน้ำจริงๆ
ในรุ่นที่แล้ว ปุ่มควบคุมการทำงานของระบบจะอยู่ทางฝั่งซ้ายในตำแหน่ง 8 และ 10 นาฬิกา โดยที่เม็ดมะยมจะอยู่ในตำแหน่ง 3 นาฬิกา ส่วนรุ่นนี้ ฝั่งซ้ายจะมีแค่ปุ่ม 8 นาฬิกา ส่วนฝั่งขวาจะมีปุ่มในตำแหน่ง 2 และ 4 นาฬิกาเพิ่มเข้ามา โดยทุกปุ่มจะต้องผ่านการขันเกลียวเพื่อล็อกและคลายเกลียวออกเพื่อใช้งานเหมือนกับรุ่นที่แล้ว
แต่ที่ผมดีใจคือ ในรุ่นใหม่ ทาง Seiko ใช้วิธีง่ายๆ ในการแจ้งเตือนว่าคุณลืมล็อกปุ่มเหล่านี้ โดยคุณจะสังเกตเห็นได้จากภาพโปรโมทว่า ปุ่มของนาฬิการุ่นนี้จะมีสีสันคือ สีแดงและสีฟ้าปรากฏอยู่ที่ด้านล่างของปุ่ม นั่นแหละครับ เป็นการบอกว่าถ้าเห็นสีเหล่านี้ในปุ่มไหน แสดงว่าปุ่มนั้นลืมขันเกลียว เพราะในสภาพปกติที่ควรจะเป็นนั้น ไม่ควรมีสีเหล่านี้ปรากฏอยู่ที่ขอบล่างของปุ่ม ตรงนี้ช่วยได้เยอะเลยครับ เพราะในรุ่นที่แล้วผมลืมหมุนเพื่อล็อกเกลียวประจำเลย
กลับมาที่ฟังก์ชั่นการวัดความลึก ถ้าต้องการใช้งานก็เป็นปุ่มในตำแหน่ง 4 นาฬิกาค้างเอาไว้ 2 วินาที ระบบก็จะตัดเข้าฟังก์ชั่นการวัดความลึกสำหรับการดำน้ำในเวลากลางวัน แต่ถ้ากดย้ำอีกครั้งก็จะเข้าสู่โหมด Night Diving ซึ่งตรงนี้สังเกตจากคำว่า dIVE บนหน้าจอและมีรูปไฟฉายอยู่ทางขวามือ พร้อมมีไฟเลี้ยงหน้าจอเพื่อให้มองเห็นตัวเลข และทุกครั้งก่อนใช้งาน อย่าลืมหมุนเกลียวกลับเพื่อล็อกกันน้ำเข้าด้วย
การมีฟังก์ชั่น Night Diving เข้ามาด้วย ตรงนี้ทำให้ความคิดของผมเตลิดไปไกลว่าในเวอร์ชัน Black Series ที่อ้างอิงความสวยจากการดำน้ำในเวลากลางคืน ถ้ายังมีขายและมีการเปิดตัวรุ่นใหม่ออกมาในช่วงต้นปีหน้า อาจจะมี Arnie 2022 เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งด้วยก็ได้ เพราะตามปกติแล้วในรุ่นปกติพวกเขาจะต้องมีรุ่นที่ใช้กลไกควอตซ์แบบ SOLAR วางขายด้วย ซึ่งเป็นอย่างนี้จริงๆ งานนี้ได้มีโอกาสเสียเงินกันอีกรอบอย่างแน่นอน
สิ่งหนึ่งที่ผมสงสัยและยังไม่มีคำตอบในตอนนี้คือ Seiko ใช้วิธีไหนในการติดตั้งเซ็นเซอร์สำหรับรับแรงดัน เพราะตามปกติแล้ว นาฬิกาที่มี Depth Meter เหล่านี้ไม่ว่าจะเป็น Citizen Promaster หรือ Casio G-Shock Frogman ในตระกูล GWF-D1000 เรามักจะเห็นช่องที่เป็นรูรับแรงดัน รวมถึง Water Sensor ในการตรวจจับการลงน้ำ
เพราะเมื่อดูในคู่มือ ดูเหมือนว่านาฬิกาจะฉลาดเอาเรื่องในการรับรู้ว่าระบบที่เกี่ยวข้องกับการดำน้ำจะเริ่มเมื่อไร เมื่อตัวนาฬิกาลงไปที่ระดับความลึก 1.6 เมตร และจะหยุดการทำงานเมื่อขึ้นสู่ระดับความลึก 1.5 เมตรที่น่าสนใจคือมีฟังก์ชั่นร้องเตือนในกรณีที่คุณกำลังลอยตัวจากใต้น้ำเร็วเกินกว่าที่ควรจะเป็น
อย่างไรก็ตาม เมื่อพลิกหน้าพลิกหลังตัวนาฬิกา ผมกลับไม่เจอสิ่ที่ว่านี้ นอกจากช่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดเล็กๆ ที่ในรุ่นที่แล้วไม่มี และส่วนตัวคิดว่าไม่ควรจะอยู่บนเกราะของตัวเรือน ซึ่งช่องนี้อยู่ในตำแหน่ง 10-11 นาฬิกา และปิดด้วยชิ้นส่วนที่เป็นฝาและมีน็อต หรือ Setscrew ยึดทั้ง 2 ฝั่ง จะว่าไปแล้วถ้ามันเป็นเซ็นเซอร์รับแรงดัน ก็น่าจะมีรูและไม่ควรปิดทึบอย่างนี้ ก็เลยคิดว่ามันไม่น่าจะใช่ แต่ก็ไม่รู้ว่า Seiko วางเซ็นเซอร์ตัวนี้เอาไว้ตรงไหนกันแน่
แต่เอาเถอะ เดี๋ยวผมคิดว่าน่าจะมีคำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาให้ทราบอย่างแน่นอน
นาฬิการุ่นนี้มีจำหน่ายทั้งหมด 3 รุ่นย่อยแต่น่าเสียดายที่บ้านเราเข้ามาแค่รุ่นเดียวสำหรับตอนนี้ (ส่วนอนาคตไม่อาจทราบได้) บอกเลยว่าเสียดายและเสียใจมากสำหรับแฟน Arnie
ส่วนราคาอยู่ที่ 28,500 บาท ถามว่าแพงไหม ถ้าชอบ…ไม่มีคำว่าแพง แต่ถ้าอยากได้เหตุผลประกอบว่าทำไมถึงราคาขยับจากรุ่นเดิมค่อนข้างมาก ส่วนหนึ่งผมคิดว่ามาจากการที่นาฬิกาเรือนนี้ไม่ได้ใช้กลไก หรือชิ้นส่วนหลักๆ ร่วมกับนาฬิกาเรือนอื่นเลย เป็นกลไกที่ถูกพัฒนาเพื่อ Arnie 2022 เพียงรุ่นเดียว (ณ ตอนนี้) ดังนั้นการแชร์ต้นทุนตามหลักของการผลิตนั้นก็เลยไม่มี แถมยังมีการเพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ๆ อย่าง Depth Meter เข้าไป
เรียกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในระหว่างการทำ R&D ก็ต้องแบกเอาไว้หมด อีกทั้งการอัพเกรดสเป็ก รวมถึงการใช้เกราะตัวเรือนและสายที่ผลิตจากสแตนเลสคือ สิ่งที่เปลี่ยนไปจากรุ่นก่อนหน้า ทำให้มีเหตุและผลที่ทำไมนาฬิกาเรือนนี้ถึงมีราคาใกล้เคียงกับพวก Prospex Diving ตัวท็อปๆ ที่ใช้กลไก 4R35 หรือ 4R36
เอาเป็นว่าลืมวิธีคิดที่ฝังหัวเอาไว้ว่านาฬิกาควอตซ์จะต้องถูกกว่านาฬิกาจักรกลกันไปได้เลย เพราะนาฬิกาควอตซ์ ฟังก์ชั่นเพียบ ก็มีต้นทุนในการผลิตและพัฒนาที่เริ่มต้นจากศูนย์เลย เพราะกลไกรุ่นนี้ดูแล้วไม่น่าจะใช้ร่วมกับนาฬิการุ่นอื่นๆ ได้เหมือนกับกลไกอัตโนมัติส่วนใหญ่ของ Seiko
น่าซื้อไหม…ผมบอกว่าไม่รู้ เพราะแต่ละคนมีแนวทางในการซื้อนาฬิกาที่แตกต่างกันไปด้วยเหตุผลหลากหลาย ส่วนตัวผมซื้อเพราะชอบ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นนาฬิกาควอตซ์หรือจักรกล ถ้าชอบ แค่นี้ก็มีเหตุผลเพียงพอแล้ว…เอาเป็นว่าใช้ใจนำแล้วทุกอย่างจะดีเอง
ข้อมูลทางเทคนิค : Seiko Prospex SNJ033 Arnie 2022
- เส้นผ่านศูนย์กลาง : 46.9 มิลลิเมตร
- ความหนา : 14.2 มิลลิเมตร
- Lug to Lug : 50.9 มิลลิเมตร
- ความกว้างขาสาย : 22 มิลลิเมตร
- วัสดุตัวเรือน เกราะ และสาย : สแตนเลสสตีล
- กระจก : Hardlex
- กลไก : ควอตซ์แบบ SOLAR รหัส 855
- ฟังก์ชั่น : Depth Meter / Diving Log
- การกันน้ำ : 200 เมตร
- ประทับใจ : สตอรี่ ขนาดตัวเรือนที่ปรับปรุงใหม่ และการเปลี่ยนวัสดุในการผลิตเกราะ
- ไม่ประทับใจ : การย้ายหน้าจอดิจิตอล
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline