ในที่สุด Seiko Prpospex MM2001 ก็มีเวอร์ชัน PADI ตามออกมาขายจนได้ โดยจะมากับรหัส SBDC071 และเปิดตัวในญี่ปุ่นแล้วกับราคา 100,000 เยน
Seiko Prospex SBDC071 เวอร์ชัน PADI ก็มาด้วย
-
รุ่นที่ 4 ของ Seiko MM200 นับจากเปิดตัวครั้งแรกเมื่อกลางปี 2018
-
มากับหน้าปัดดำเข้ม และขอบ Bezel แบบ Pepsi
-
มีขายในญี่ปุ่นแล้วกับรหัส SBDC071 ราคา 100,000 เยน
ในช่วงส่งท้ายปี 2018 ขณะที่ทุกคนกำลังเฉลิมฉลอง Seiko ปล่อยทีเด็ดใหม่จากนาฬิกาดำน้ำในกลุ่ม Prospex ด้วยเวอร์ชัน PADI ของ MM200 โดยจำหน่ายในญี่ปุ่นด้วยรหัส SBDC071 พร้อมความแตกต่างจาก PADI รุ่นอื่นๆ คือ ไม่ใช่หน้าปัดแบบมีลายคลื่นสีน้ำเงินเข้ม แต่มากับหน้าปัดดำเข้มที่ดูแล้วสวยไปอีกแบบ
Seiko Prospex SBDC071 เวอร์ชัน PADI
เชื่อเลยว่างานนี้ไม่มีใครมานั่งนับแล้วว่า Seiko กับ PADI เปิดตัวออกมาแล้วกี่รุ่น เพราะเรียกว่าแทบจะครบทุกแบบที่เป็นนาฬิกาดำน้ำที่อยู่ในกลุ่ม Prospex และสำหรับรุ่น MM200 ที่เป็น Re-Interpretation ของนาฬิกาดำน้ำแบบ Monocase รุ่นแรกที่เปิดตัวเมื่อปี 1968 ก็หนีไม่พ้นกับเวอร์ชัน PADI ที่ในตอนแรกทำท่าว่าจะไม่มีขาย
งานนี้เป็นการปรับปรุงที่มีความน่าสนใจ เพราะอย่างที่เกริ่นตั้งแต่แรก Seiko เปลี่ยนแปลงสีบนหน้าปัดของนาฬิการุ่น PADI จากเดิมที่จะต้องเป็นลายคลื่น และส่วนใหญ่จะมากับสีน้ำเงินเข้มให้มาเป็นแบบสีดำเรียบๆ และมีคำว่า PADI อยู่ในตำแหน่ง 6 นาฬิกา พร้อมขอบ Bezel แบบ Pepsi สีน้ำเงิน-แดงที่บนพื้นที่ของสีแดงยาวมาจนถึงตำแหน่ง 15 นาที ส่วนเข็มวินาทีก็มีการเปลี่ยนเป็นสีแดงดูกันกับหน้าปัดอย่างลงตัว และเมื่ออยู่ในที่มืด เข็มนาทีของรุ่นนี้จะเป็นพรายน้ำสีฟ้า แตกต่างจากเข็มชั่วโมงที่เป็นพรายน้ำสีเขียว
ส่วนที่เหลือของสเป็กก็ไม่แตกต่างจาก MM200 รุ่นทั่วไป โดยจะมากับตัวเรือนที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 44 มิลลิเมตร หนา 13.1 มิลลิเมตร และ Lug-to-Lug ขนาด 51 มิลลิเมตร ตัวเรือนผลิตจาก Stainless Steel และกระจก Sapphire แบบเคลือนสารกันแสงสะท้อนที่ด้านใน พร้อมกลไก 6R15 ที่สามารถสำรองพลังงานได้ 50 ชั่วโมง ส่วนสายจะเป็นสายยาง และบนฝาหลังจะมีการสลักคำว่า Special Edition เอาไว้ กันน้ำได้ 200 เมตร และสามารถทนทานต่อสนามแม่เหล็ก
ในญี่ปุ่นมีขายแล้วกับราคา 100,000 เยน แพงกว่ารุ่นสายยางมาตรฐานอย่าง SBDC063 อยู่ 10,000 เยน ส่วนเวอร์ชันตลาดโลกน่าจะมีขายเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้ระบุว่าจะมากับรหัสอะไร ต้องติดตามดูกันต่อไป
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigiwatch/