การกลับมาของคอลเล็กชั่น Save the ocean และเวอร์ชันปี 2022 ทาง Seiko ยังคงนำเสนอเรื่องราวของทวีปแอนตาร์กติกา และเพนกวินอย่างต่อเนื่อง
Seiko Prospex Save the ocean 2022 การกลับมาของแอนตาร์กติกาและเพนกวิน
-
เวอร์ชันปี 2022 ของ Save the ocean ที่มีให้เลือก 2 รุ่นเหมือนกับเวอร์ชันที่แล้ว
-
มากับรุ่น SRPH75K1 และ SRPH77K1 ที่อยู่บนพื้นฐานของรุ่น Monster และ Tuna Can ไซส์เล็ก
-
เป็นนาฬิการุ่นพิเศษไม่ได้มีการผลิตจำนวนจำกัด
ทวีปแอนตาร์กติกาและนกเพนกวิ้นยังเป็นไฮไลท์หลักของคอลเล็กชั่น Save the ocean ต่อไป โดยนอกจากจะเป็นคอนเซ็ปต์สำหรับตัวเทพอย่าง SLA055J1 ที่เพิ่งเปิดตัวไปแล้ว ในรุ่นรองๆ ลงมาของเวอร์ชัน 2022 ทาง Seiko ก็ยังนำแนวคิดนี้มาต่อยอดในการนำเสนอผ่านเรือนเวลา 2 รุ่น คือ SRPH75K1 และ SRPH77K1 ที่อยู่บนพื้นฐานของรุ่น Monster และ Tuna Can ไซส์เล็ก
นาฬิการุ่นนี้ถูกเปิดตัวออกมาเมื่อกลางเดือนมกราคม และภายใต้คอนเซ็ปต์ที่เกี่ยวข้องกับท้องทะเล Save the ocean ยังคงนำเสนอเรื่องราวของทวีปแอนตาร์กติกาอย่างต่อเนื่อง โดยสิ่งที่เกิดขึ้นกับนาฬิกาทั้ง 2 รุ่นซึ่งอยู่ในคอลเล็กชั่น Seiko Prospex Save the ocean 2022 คือ การใช้หน้าปัดลาย Iced Frost ที่มากับสีเขียวเข้มที่มีการไล่เฉดสีจากตรงกลางออกไปขอบนอกของหน้าปัด ซึ่งสะท้อนถึงความสวยงามของใต้ท้องทะเลที่อยู่ใต้แผ่นน้ำแข็ง ยามเมื่อแสดงแดดส่องลงมา นอกจากนั้นบนพื้นหน้าปัดยังมีลวดลายที่เป็นกิมมิกของคอลเล็กชั่นคือ ลายที่เกี่ยวข้องกับนกเพนกวิ้น ซึ่งในรุ่นที่แล้วเป็นภาพรอยเท้า ส่วนรุ่นใหม่เป็นภาพ Top View ของตัวนกเพนกวิ้นขณะว่ายอยู่ใต้น้ำ
สำหรับรุ่น SRPH75K1 จะใช้พื้นฐานของนาฬิกาดำน้ำรุ่น Monster ซึ่งจะมาพร้อมกับกระจก Hardlex ที่มีเลนส์ขยายในตำแหน่ง 3 นาฬิกาตรงช่อง Day/Date ขณะที่ตัวเรือนมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 42.4 มิลลิเมตรพร้อมสายสแตนเลส ขอบตัวเรือนแบบปัดด้านไม่ได้มีการเคลือบสีดำหรือสีอื่นๆ เหมือนกับรุ่นปกติ และขับเคลื่อนด้วยกลไก 4R36 ที่มีกำลังสำรอง 41 ชั่วโมง และความสามารถในการกันน้ำ 200 เมตรตามสไตล์นาฬิกาดำน้ำที่ผ่านมาฐาน ISO6425
ขณะที่อีกรุ่นเป็น Tuna Can ไซส์เล็กมากับรหัส SRPH77K1 มาพร้อมเส้นผ่านศูนย์กลาง 43.2 มิลลิเมตร และใช้สายยางสีดำ ส่วนกลไกเป็นรหัส 4R35 ที่มีกำลังสำรอง 41 ชั่วโมง และมีความสามารถในการกันน้ำ 200 เมตร
คอลเล็กชั่น Seiko Prospex Save the ocean 2022 จะเริ่มทำตลาดตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมเป็นต้นไป โดยในตอนนี้ที่ยุโรปมีการเปิดเผยราคาออกมาแล้ว โดย SPRH75K1 มีราคา 550 ยูโร ส่วน SRPH77K1 มีราคา 570 ยูโร ส่วนบ้านเราน่าจะมีเข้ามาจำหน่ายในเร็วๆ นี้
Monster : SRPH75K1 |
Tuna Can : SRPH77K1 |
|
|
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/