Seiko Prospex Sumo 2022 อัพเกรดขอบเซรามิก พร้อมสีหน้าปัดใหม่

โดย

MP4/4

20/07/2022

Seiko เปิดตัวเวอร์ชันอัพเกรดของ Sumo ออกมาแล้ว ด้วยขอบหน้าปัดแบบเซรามิก พร้อมกับหน้าปัดสีใหม่ โดยจะใช้ชื่อว่า Seiko Prospex Sumo 2022 และจะมีขายด้วยกัน 2 รุ่นปกติ คือ SBDC175 และ SBDC17 กับราคา 143,000 เยนเท่ากัน และจะมีรุ่นพิเศษ PADI สำหรับตลาดนอกญี่ปุ่น

Seiko Prospex Sumo 2022 อัพเกรดขอบเซรามิก พร้อมสีหน้าปัดใหม่

อัพเกรดสเป็กด้วยขอบตัวเรือนเซรามิกพร้อมหน้าปัดสีใหม่
มีจำหน่ายช่วงแรก 2 รุ่น คือ SBDC175 และ SBDC17 ส่วนรุ่น PADI ขายนอกญี่ปุ่น
ราคา 143,000 เยน หรือแพงขึ้นจากรุ่นธรรมดา 49,500 เยน

- Advertisement -

หลังจากที่มีการเปิดตัวรุ่นใหม่ล่าสุดออกมาเมื่อปี 2019 พร้อมกับการแต่งหน้าแต่งหน้าใหม่ หันมาใช้กระจก Sapphire และใช้กลไกใหม่รหัส 6R35 ในตอนนี้ Sumo มีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งด้วยเวอร์ชัน Seiko Prospex Sumo 2022 มีการอัพเกรดขอบตัวเรือนเป็นเซรามิก และมีการเปลี่ยนหน้าปัดใหม่ โดยในช่วงแรกจะมีจำหน่ายด้วยกัน 2 รุ่น ส่วน PADI มีขายเช่นกัน แต่ยังไม่เปิดเผยภาพและรายละเอียดในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

จะว่าไปแล้ว สิ่งนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิด แต่เป็นแนวทางที่ Seiko ทำมาก่อนแล้ว โดยในปีเดียวกับที่มีการเปิดตัวรุ่นใหม่ของ Sumo พวกเขาเปิดตัวการอัพเกรดเวอร์ชันของนาฬิการุ่นรองๆ อย่าง Turtle และ Samurai ด้วยการใช้สีหน้าปัดใหม่ ขอบตัวเรือนเซรามิก และกระจก Sapphire พร้อมกับตั้งชื่อว่า King Turtle และ King Samurai และกับ Sumo ก็เช่นเดียวกัน เพียงแต่ว่าในรุ่นปัจจุบันของ Sumo ใช้กระจก Sapphire อยู่แล้ว งานนี้ก็เลยอัพเกรด 2 ส่วนหลักแทน ส่วนชื่อรุ่นก็ไม่มีการเปิดเผยว่าจะถูกเรียกว่า King Sumo เหมือนกับ King Turtle และ King Samurai หรือไม่

รุ่นที่ทำตลาดจะมีด้วยกัน 2 รุ่นปกติคือ

SBDC175 สำหรับตลาดญี่ปุ่น หรือ SPB321J1 มากับหน้าปัดสีน้ำเงินแบบ Gradient ที่มีการไล่เฉดสีจากเข้มไปอ่อนจากขอบนอกสู่ด้านใน และมีลายคลื่นอยู่บนหน้าปัด
SBDC177 สำหรับตลาดญี่ปุ่น หรือ SPB323J1 มากับหน้าปัดสีน้ำเทาแบบ Gradient ที่มีการไล่เฉดสีจากเข้มไปอ่อนจากขอบนอกสู่ด้านใน และมีลายคลื่นอยู่บนหน้าปัด

สำหรับรุ่น PADI นั้น ในเว็บไซต์ของญี่ปุ่นและตลาดแห่งอื่นๆ ยังไม่มีให้เห็น นอกจากภาพถ่ายของเว็บไซต์สื่อนาฬิกาที่ได้มีโอกาส Hand-on ก่อน โดยจะมีจำหน่ายโดยใช้รหัสว่า SPB325J1และเป็นรุ่นเดียวที่มาพร้อมกับสายยาง

ตัวเรือนยังคงสไตล์เดิมมีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 45 มิลลิเมตร แต่สิ่งที่น่าสนใจคือความหนาที่เพิ่มขึ้น โดยในรุ่นปัจจุบันที่มีขายอยู่ในตลาดจะมีตัวเลขอยู่ที่ 12.85 มิลลิเมตร ส่วนรุ่นใหม่จะอยู่ที่ 13.4 มิลลิเมตร ซึ่งเท่ากับว่า Sumo 2022จะหน้าขึ้นราวๆ 0.55 มิลลิเมตร ส่วนความกว้างขาสายยังเท่าเดิม คือ 20 มิลลิเมตร

อีกสิ่งที่แตกต่างคือ การใช้สายสแตนเลสแบบใหม่ โดยแม้ว่ายังมี 3 แถวแบบเดิม แต่บริเวณข้อกลางนั้น ในรุ่น Sumo 2022 ไม่ได้มีการขัดเงาทั้ง 2 ฝั่ง เช่นเดียวกับลายของสายที่แตกต่างกันไป โดยเฉพาะในส่วนของแถวกลางที่มีการจัดเรียงใหม่ที่ดูลงตัวขึ้น โดยทั้งตัวเรือนและสายผ่านการเคลือบแข็งแบบ Super-Hard Coating ทำให้ทนทานต่อการขูดขีดมากขึ้น

สำหรับกลไกยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงเป็นรุ่นล่าสุดคือ อัตโนมัติ 6R35 ที่มีกำลังสำรอง 70 ชั่วโมง พร้อมความสามารถในการกันน้ำ 200 เมตรเหมือนเดิม

ความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ทำให้ Sumo 2022 แพงขึ้นจากรุ่นธรรมดาค่อนข้างเยอะเหมือนกัน โดยทั้ง 2 รุ่นมีราคาจำหน่ายในญี่ปุ่นเท่ากันที่ 143,000 เยน หรือแพงขึ้นจากรุ่นธรรมดา 49,500 เยนเลยทีเดียว เรียกว่าราคาของ Sumo 2022ขยับขึ้นไปใกล้เคียงกับ Shogun ที่มีขายอยู่ในปัจจุบันเลยก็ว่าได้