Seiko Prospex Alpinist การคัมแบ็คของนาฬิกา Field Watch

โดย

MP4/4

15/12/2019

หลังจากมีข่าวตามหน้าอินเตอร์เนตอยู่นาน ในที่สุดข้อมูลและรายละเอียดของ Alpinist ใหม่ได้รับการเปิดเผยออกมาแล้ว โดย Seiko จะจัดให้อยู่ในกลุ่ม Prospex และมีขายด้วยกัน 4 รุ่นเป็นรุ่นธรรมดา 3 รุ่น และอีก 1 ผลิตแบบจำกัดเพียง 1,959 เรือน

- Advertisement -

Seiko Prospex Alpinist

Seiko Prospex Alpinist การคัมแบ็คของนาฬิกา Field Watch

การกลับมาของนาฬิกา Sport สุดคลาสสิคอย่าง Alpinist ที่รู้จักกันครั้งแรกของโลกในปี 1959
รุ่นใหม่เพิ่มขนาดตัวเรือนจาก 38 มิลลิเมตรมาเป็น 39.5 มิลลิเมตร และใช้กลไก 6R35 รุ่นใหม่แบบเดียวกับ Sumo
มีขายในญี่ปุ่นเดือนมกราคม 2020 และรุ่น Limited Edition ผลิตออกสู่ตลาด 1,959 เรือน

เมื่อพูดถึงนาฬิกาในสไตล์ Outdoor Watch ของ Seiko เชื่อว่า Seiko Prospex Alpinist คือ ชื่อแรกๆ ที่ถูกนึกถึง และหลังจากที่หายหน้าไปจากตลาดอยู่ระยะหนึ่ง ในตอนนี้ ผลผลิตใหม่เตรียมคัมแบ็คในตลาดโดยคาดว่าจะมีขายด้วยกัน 4 สี แบ่งเป็น 3 สีสำหรับรุ่นธรรมดาและอีก 1 สำหรับรุ่น Limited Edition นั่นคือ SPB121 หน้าปัดเขียว SPB117 สำหรับสีดำ SPB119 สำหรับสีเทา และอีก 1 เป็นรุ่นผลิตจำกัดคือ SPB123 หน้าปัดสีแชมเปญ

Alpinist ถือเป็นนาฬิกาที่เน้นความสปอร์ตและเป็นนาฬิกากลไกสำหรับการใช้งานกลางแจ้งรุ่นแรกๆ ของ Seiko ที่เปิดตัวออกสู่ตลาดในปี 1959 ส่วนรุ่นล่าสุดที่เพิ่งเลิกทำตลาดไปมีรุ่นเด่นคือ SARB017 หน้าปัดเขียว และเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2006

และแน่นอนว่าปีนี้ถือว่ามีความสำคัญเพราะจะเป็นการฉลอง 60 ปีของชื่อนี้ เพียงแต่การเปิดตัวขายในตลาดญี่ปุ่นจะมีขึ้นในเดือนมกราคม 2020 แต่ตอนนี้ก็มีภาพพร้อมรายละเอียดออกมาให้สัมผัสแล้ว

ตัวเรือนจะมีขนาด 39.5 มิลลิเมตร เพิ่มขึ้นจากเดิม 1.5 มิลลิเมตร (ของเดิม 38 มิลลิเมตร) และผลิตจาก Stainless Steel พร้อมกระจก Sapphire เม็ดมะยมแบบขันเกลียวและสามารถกันน้ำได้ 200 เมตร พร้อมสายที่มีทั้งสายหนังและสาย Stainless Steel ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย โดยความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นบนหน้าปัดคือ การมีโลโก้ PX อยู่บนหน้าปัด และเปลี่ยนมาใช้กลไก 6R35 จากรุ่นเดิมใช้กลไก 6R15 แบบเดียวกับ Sumo ซึ่งกลไกใหม่นี้สามารถสำรองพลังงานสูงสุด 70 ชั่วโมง และเดินด้วยความถี่ระดับ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง

สำหรับราคาขายคาดว่าจะอยู่ที่ 725-750 เหรียญสหรัฐฯ หรือ คิดเป็นเงินไทยราวๆ 22,000-23,000 บาท และในญี่ปุ่นจะเริ่มขายเดือนมกราคม 2020 ก่อนที่ตลาดกลุ่มอื่นๆ จะเปิดตัวตามออกมา โดยรุ่น Limited Edition อย่าง SPB123 จะมีการผลิตจำนวน 1,959 เรือนตามปีที่ถือกำเนิด และมีขายเฉพาะออนไลน์เท่านั้น