ในช่วงปลายเดือนนี้นอกจาก Zimbe รุ่นที่ 7 แล้ว Seiko ยังมีของใหม่เอาไว้ลุยตลาดนาฬิกาดำน้ำอย่างต่อเนื่อง กับ 3 ทางเลือกใหม่ของ Seiko Prospex
Seiko Prospex กับของใหม่ลุยไทยปลายปี 2018
- Seiko เปิดตัวนาฬิกา Prospex ในปีนี้ถึง 4 รุ่น
- รุ่นเด่นคือ SLA019 หรือ SBDX021 ที่เป็ร Limited Edition
- สำหรับโปรเจ็กต์ Zimbe ก็ยังมีอย่างต่อเนื่องเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 7 แล้ว
นอกจาก Zimbe ตัวที่ 7 อย่าง SLA017 แล้ว ในงานนาฬิกาที่สยามพารากอน ทาง Seiko เตรียมเปิดตัวนาฬิกาใหม่ในกลุ่ม Prospex ที่เราเฝ้ารอออกสู่ตลาดอีก 3 รุ่น พร้อมเผยราคาออกมาเรียบร้อยแล้ว ภายใต้แนวคิด Modern Re-interpretation
1.Seiko Prospex SPB077/SPB079 หรือ SBDC061/063 :
สำหรับเหล่าสาวกที่ชื่นชอบนาฬิกาที่มีประสิทธิภาพในการดำน้ำสูง คงต้องรู้จักกับนาฬิกา Seiko ระดับตำนานที่มีหน้าตาสุดคลาสสิคอย่าง Autometic Diver’s ในปี 1968 กันอย่างแน่นอน โดยในปีนี้ Seiko ได้ตอกย้ำการเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องการผลิตนาฬิกาดำน้ำลำดับต้นๆของโลก ด้วยการเปิดตัวนาฬิกา Seiko Prospex สายพันธุ์แกร่งในรูปลักษณ์คลาสสิคระดับตำนานอีกครั้งกับหลากหลายซีรีย์ด้วยกัน
ส่วนรหัสรุ่นก็มีการเปลี่ยนจาก SBDC061 ในรุ่นสายเหล็กมาเป็น SPB077 และ SBDC063 ในรุ่นสายยางมาเป็น SPB079 ไม่มีอะไรแตกต่างในแง่ของสเป็กเพราะเป็นนาฬิกาเรือนเดียวกัน อาจจะต่างกันตรงแพ็คเกจ
SPB077 ราคา 37,600 บาท
SPB079 ราคา 29,400 บาท
ข้อมูลทางเทคนิค :
- กลไก 6R15
- กลไกระบบออโตเมติก
- ความถี่ 21,600 ครั้ง / ชั่วโมง (6 beats per second)
- สำรองพลังงาน 50 ชั่วโมง
- ทับทิมลดแรงเสียดทาน 23 เม็ด
- ตัวเรือน และสายสแตนเลสสตีล
- กระจกแซฟไฟร์คริสตัล พร้อมเคลือบสารตัดแสงสะท้อน
- ฝาหลัง และเม็ดมะยมแบบขันเกลียว
- ขนาด 44.0 มม.
- หนา 13.1 มม.
- ประสิทธิภาพการกันน้ำ 300 เมตร
- การป้องกันสนามแม่เหล็ก 4,800 A/m
2.Seiko Prospex SNE498 :
แม้จะเป็นเรื่องยากที่จะย่อเอาความสมบูรณ์แบบ ของ Professional Diver’s 1000 m มาอยู่ในนาฬิกาสมบุกสมสักเรือน แต่ก็ได้พบว่าไซโกนั้นได้พัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลาจนประสบผลสำเร็จเมื่อสามารถย่อเอาความสมบูรณ์แบบนั้น มาจุในตัวเรือนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของต้นแบบ ในปี 1978 เรือนนี้
ด้วย คาลิเบอร์ V157 เปลี่ยนแสงเป็นพลังงานขับเคลื่อนได้ไม่รู้จบ ตัวเรือน Stainless Steel และสายยางซิลิโคนคุณภาพสูง กระจกหน้าปัด Hardlex Crystal ช่องแสดงวันที่ ณ ตำแหน่งที่ 4 นาฬิกา ตำแหน่งเวลาเคลือบ Lumibrite ชัดเจนแม้ในสภาวะแสงน้อย ฝาหลัง และเม็ดมะยมแบบขันเกลียว สำรองพลังงานสูงสุด 10 เดือน ประสิทธิภาพการกันน้ำ 200 เมตร ขนาดตัวเรือน 47.0 มม.
SNE498 ราคา 15,900 บาท
ข้อมูลทางเทคนิค
- กลไก V157 เปลี่ยนแสงเป็นพลังงานขับเคลื่อน
- ตัวเรือน Stainless Steel และสายยางซิลิโคนคุณภาพสูง
- กระจกหน้าปัด Hardlex Crystal
- ช่องแสดงวันที่ในตำแหน่ง 4 นาฬิกา
- ฝาหลัง และเม็ดมะยมแบบขันเกลียว
- Lumibrite ชัดเจนแม้ในสภาวะแสงน้อย
- สำรองพลังงานสูงสุด 10 เดือน
- ประสิทธิภาพการกันน้ำ 200 เมตร
- ขนาดตัวเรือน 47.0 มม.
3.Seiko Prospex SLA019/SBDX021 :
จากการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เช่นเดิมกับการที่นำจุดแข็งของตัวเรือนต้นแบบยอดนิยม หรือซิกเนเจอร์ของปี ค.ศ. 1968 นำมาสู่การดีไซน์ ที่นำเอาแรงบันดาลใจจากเฉดสีที่อุดมไปด้วยโทนสีเขียวชอุ่มของต้น ซีดาร์โบราณ (Cedar trees) ที่ตั้งอยู่หมู่เกาะทางใต้ ของประเทศญี่ปุ่นอย่างเกาะ “Yakushima” หนึ่งในมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญ และแหล่งธรรมชาติของโลก เส้นทางที่เหล่าบรรดานักดำน้ำต่าง รักและหลงใหลในสถานที่แห่งนี้ เพราะด้วยความใสสะอาดบวกกับแนวปะการังและสิ่งมีชีวิตทางทะเลที่ยังอุดมสมบูรณ์ จึงเป็นที่มาแห่งแรงบันดาลใจของเรือนนี้
สำหรับรหัสรุ่นมีการเปลี่ยนแปลงจากรหัส SBDX021 ในเวอร์ชันที่เป็น JDM มาเป็น SLA019 ดังนั้นไม่ต้องตกใจกับรหัสที่เปลี่ยนไป เพราะมันคือเรือนเดียวกัน และว่ากันว่าบ้านเราเข้ามาเพียงไม่กี่เรือนเท่านั้น และมาทีไรขายหมดเกลี้ยง ดังนั้นใครที่อยากสัมผัสแบบนำเข้าอย่างเป็นทางการของ Seiko Thailand ก็ต้องสอบถามกับทางตัวแทนจำหน่ายให้ดีๆ
SLA019/SBDX021 : 118,000 บาท
ข้อมูลางเทคนิค :
- ประกอบความแข็งแกร่งด้วยเคสตัวเรือนชิ้นเดียวแบบไม่มีฝาหลังหรือ
- ที่เรียกว่า one piece construction
- ภายในบรรจุกลไกจักรกลอัตโนมัติคาลิเบอร์8L35
- กระจกหน้าปัด Sapphire
- เก็บสำรองพลังงานได้ยาวนานถึง 50 ชั่วโมง
- คลาดเคลื่อนเพียง +15 , -10 วินาทีต่อวันเท่านั้น
- ขึ้นลานผ่านเม็ดมะยม พร้อมแฮ็คเข็มวินาทีเทียบตั้งเวลาได้ละเอียด
- ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือน 44.3 มม.
- ระดับการกันน้ำ 300 เมตร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigiwatch/