เรื่องราวของ Seiko กับการผลิตนาฬิกายังมีความน่าสนใจออกมาอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดได้เปิดตัวนาฬิกาดำน้ำที่ใช้กลไกอัตโนมัติแบบ GMT โดยเป็นรุ่นใหม่ในรหัส 6R54 และติดตั้งอยู่บนตัวนาฬิกาที่ใช้พื้นฐานของรุ่น 1968 Diver’s Modern Re-Interpretation มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 42 มิลลิเมตร มีจำหน่าย 3 รุ่น โดยมีรุ่นหนึ่งเป็น Limited Edition ผลิต 4,000 เรือน
Seiko Prospex 1968 Diver’s Modern Re-Interpretation GMT
-
เพิ่มอีกทางเลือกสำหรับนาฬิกาดำน้ำด้วยกลไกอัตโนมัติที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่น GMT ในการแสดงเวลาที่ 2
-
ตัวเรือนใช้พื้นฐานของรุ่น 1968 Diver’s Modern Re-Interpretation มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 42 มิลลิเมตร
-
ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ 6R54 แบบ GMT มีจำหน่าย 3 รุ่น โดยมีรุ่นหนึ่งเป็น Limited Edition ผลิต 4,000 เรือน
Seiko ประเดิมปี 2023 ด้วยความน่าตื่นตาตื่นใจด้วยผลผลิตใหม่ และถือว่าเทรนด์ของนาฬิกาดำน้ำที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่น GMT กำลังได้รับความนิยมเมื่อมีการเปิดตัว Seiko Prospex 1968 Diver’s Modern Re-Interpretation GMT นาฬิการุ่นใหม่ล่าสุดที่อ้างอิงการออกแบบพื้นฐานจากรุ่นดั้งเดิมที่เปิดตัวในปี 1968 โดยจะมีการผลิตออกขายทั้งหมด 3 รุ่น โดย 2 รุ่นจะเป็นเวอร์ชันปกติ และอีกรุ่นผลิตจำกัด 4,000 เรือนและอยู่ในคอลเล็กชั่นย่อย Save the ocean
สำหรับรุ่นปกติที่มีจำหน่ายจะประกอบด้วย 2 สีหน้าปัด คือ เขียวและดำ
- SPB381 ในตลาดโลก หรือ SBEJ009 ในตลาดญี่ปุ่นมาพร้อมกับหน้าปัดสีเขียว และเข็ม GMT สีเหลือง
- SPB383 ในตลาดโลก หรือ SBEJ011 ในตลาดญี่ปุ่นมาพร้อมกับหน้าปัดสีดำ และเข็ม GMT สีเหลือง
- SPB385 ในตลาดโลก หรือ SBEJ013 ในตลาดญี่ปุ่นมาพร้อมกับหน้าปัดขาวแบบ Ice-Blue และเข็ม GMT สีฟ้า เป็นรุ่นที่มีการผลิตจำกัดจำนวน 4,000 เรือนทั่วโลกและมาพร้อมกับสายพิเศษอีก 1 เส้นที่ผลิตจากวัสดุที่ใช้ในการผลิตสายจะมาจากการนำขวดพลาสติกเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล และนำวัสดุนี้มาถักทอจนเป็นสายที่มีลวดลายอ้างอิงจากเทคนิคการผลิตยุคโบราณของญี่ปุ่นที่เรียกว่า Seichu
ตัวนาฬิกามีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 42 มิลลิเมตร โดยทั้งตัวเรือนและสายผลิตจากสแตนเลสสตีลพร้อมการเคลือบ super-hard coating เพื่อความทนทาน และกระจกแบบ Sapphire พร้อมเคลือบสารกันการสะท้อนแสง อินเสิร์ตบนขอบตัวเรือนผลิตจากเซรามิก โดยสเกลที่อยู่บนอินเสิร์ตจะเป็นแบบใช้ในการจับเวลาเหมือนกับนาฬิกาดำน้ำทั่วไป ดังนั้น สเกลสำหรับบอกเวลาที่ 2 ซึ่งจะต้องทำงานร่วมกับเข็ม GMT นั้นจะเป็นอินเนอร์ริงที่อยู่ขอบนอกของหน้าปัด
สำหรับรุ่น SPB385 ในตลาดโลก หรือ SBEJ013 ในตลาดญี่ปุ่น จะมีหน้าปัดสี Ice-Blue จะอยู่ในคอลเล็กชั่น Save the ocean เป็นการสร้างสรรค์และออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากธารน้ำแข็งขั้วโลกที่ทอดตัวเป็นทิวทัศน์สวยงามไม่ว่าจะมองจากพื้นดินหรือเมื่อเป็นฉากหลังของทะเลในอาร์คติกหรือแอนตาร์กติก
ซึ่งทั้ง 2 แห่งถือเป็นสถานที่ซึ่งมีความสำคัญในการทดสอบความทนทานและทรหดของนาฬิกา Seiko เมื่อนักสำรวจสวมใส่นาฬิกาของ Seiko เพื่อใช้ในการสำรวจขั้วโลกเหนือและใต้ในช่วงระหว่างทศวรรษที่ 1960 และ 1970 จนได้รับการยอมรับและทำให้นาฬิกาของ Seiko มีชื่อเสียงในด้านนี้
กลไกถือเป็นไฮไลท์ของนาฬิกาเรือนนี้เพราะเป็นกลไกใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวออกมาโดยเป็นการต่อยอดพัฒนามาจากพื้นฐานของตระกูล 6R โดยมากับรหัส 6R54 ที่นอกจากจะมีฟังก์ชั่น GMT เพิ่มเข้ามาแล้ว ยังมีการเพิ่มกำลังสำรองของตัวนาฬิกาเป็น 72 ชั่วโมง หรือ 3 วันเต็มจากเดิมที่รุ่น 6R35 แบบ 3 เข็มจะมีกำลังอยู่ที่ 70 ชั่วโมง
ราคาของรุ่นธรรมดา Seiko Prospex 1968 Diver’s Modern Re-Interpretation GMT คือ SPB381 และ SPB383 อยู่ที่ 1,700 เหรียญสหรัฐฯ และรุ่น SPB385 อยู่ที่ 1,900 เหรียญสหรัฐฯ
รายละเอียดทางเทคนิค : Seiko Prospex 1968 Diver’s Modern Re-Interpretation GMT
- เส้นผ่านศูนย์กลาง : 42.0 มิลลิเมตร
- Lug to Lug : 48.6 มิลลิเมตร
- ความหนา : 12.9 มิลลิเมตร
- ตัวเรือนและสาย : ผลิตจากสแตนเลสสตีลพร้อมการเคลือบ super-hard coating เพื่อความทนทาน
- กระจก : แบบ Sapphire พร้อมเคลือบสารกันการสะท้อนแสง
- กลไก : รหัส 6R54 แบบอัตโนมัติ พร้อม ฟังก์ชั่น GMT แสดงเวลาที่ 2
ระบบการทำงาน : อัตโนมัติ - ความถี่ : 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง
- กำลังสำรอง : 72 ชั่วโมง
- การกันน้ำ : 200 เมตร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline