Seiko เปิดตัวนาฬิกาดำน้ำรุ่นใหม่ที่มีดีไซน์ซึ่งอ้างอิงจาก 62MAS หรือ Ref.6217-8000 แต่มีการปรับสเป็กและขนาดตัวเรือนให้มีความกะทัดรัดลง แต่ความสามารถในการกันน้ำเทียบเท่านาฬิการุ่นสูงอย่าง MM300 พร้อมกับกลไกใหม่ 6R55 ที่มีกำลังสำรอง 72 ชั่วโมง หรือ 3 วัน
Seiko Prospex 1965 Heritage Diver’s ความคลาสสิคบนสเป็กที่เหนือชั้น
-
นาฬิกาดำน้ำรุ่นใหม่ที่อ้างอิงดีไซน์ของ 62MAS แต่มีการออกแบบใหม่ให้มีความทันสมัย
-
ตัวเรือนเล็กลงจากรุ่นปกติ แต่มีความสามารถในการกันน้ำถึง 300 เมตร
-
ขับเคลื่อนด้วยกลไกใหม่ 6R55 แบบ 3 วัน และมีจำหน่ายช่วงแรก 3 รุ่นย่อย
Seiko เสริมทัพด้วยทางเลือกใหม่ที่เหนือระดับของนาฬิกาดำน้ำกับรุ่น Seiko Prospex 1965 Heritage Diver’s ซึ่งมีทั้งรหัส SPB451, SPB453 และ SPB455 โดยอ้างอิงงานดีไซน์จองตัวนาฬิกาจากเรือนเวลาดำน้ำรุ่นแรกอย่าง 62MAS พร้อมกับปรับปรุงรูปลักษณ์ใหม่ มีความเพรียวลง และเพิ่มความสามารถในการกันน้ำระดับ 300 เมตร เช่นเดียวกับการเปลี่ยนกลไกใหม่ ที่มีกำลังสำรองสูงสุด 3 วัน
![]() |
![]() |
![]() |
งานนี้ถือเป็นการเพิ่มไลน์อัพของนาฬิกาดำน้ำของกลุ่ม Sea จาก Prospex ซึ่งตัวนาฬิกาเองได้รับการสร้างสรรค์ด้วยการอ้างอิงจากนาฬิกาดำน้ำเรือนเรือนแรกของแบรนด์อย่าง 62MAS หรือ Ref.6217-8000 ที่เปิดตัวในปี 1965 และมาพร้อมกลไกอัตโนมัติ 62 Calibre ซึ่งชื่อรุ่นเป็นตัวย่อมาจาก 62 ซึ่งก็คือ กลไก และ AutoMAtic Selfdater โดยตัวนาฬิการุ่น Re-Issue ถูกนำกลับมสู่ตลาดอีกครั้งในปี 2017 ในรหัส SLA017 ที่มีการผลิตออกมาจำนวน 2,000 เรือนทั่วโลก
สำหรับ Seiko Prospex 1965 Heritage Diver’s นี้จะมีจำหน่าย 3 รุ่นย่อย โดยมี 2 รุ่นที่เป็นรุ่นปกติ
- SPB451 (ในตลาดโลก) หรือ SBDC195 ในตลาดญี่ปุ่น มากับหน้าปัดน้ำเงิน
- SPB453 (ในตลาดโลก) หรือ SBDC197 ในตลาดญี่ปุ่น มากับหน้าปัดดำ
- SPB455 (ในตลาดโลก) หรือ SBDC199 ในตลาดญี่ปุ่น มากับหน้าปัดเทาและหลักชั่วโมงสีทอง เป็น Special Edition ที่ฉลองครบรอบ 100 ปีในการก่อกำเนิดนาฬิกาเรือนแรกที่มาพร้อมกับชื่อ Seiko ซึ่งรุ่นนี้จะมีสายผ้า NATO แถมมาอีกเส้น
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
สิ่งที่น่าสนใจสำหรับนาฬิกาเรือนนี้ คือ การผลิตนาฬิกาดำน้ำที่มีขนาดตัวเรือนโดยรวมเล็กลง แต่ทว่าคงความสามารถในการกันน้ำเอาไว้ในระดับ 300 เมตร
โดยทุกรุ่นมากับขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40 มิลลิเมตร และหนาเพียง 13 มิลลิเมตร เรียกว่าถ้าใช้ MM300 ที่มีการกันน้ำในระดับเดียวกัน นาฬิกาเรือนนี้ถือว่ามีแพ็คเกจโดยรวมของตัวเรือนเล็กกว่าอย่างชัดเจน และเล็กลงจากตัว 62MAS Interpretation รุ่นปี 2020 เช่น SPB145
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการออกแบบฝาหลังแบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพในการกันน้ำมากขึ้น แต่ทว่าสามารถลดช่องว่างของพื้นผิวฝาหลังกับชั้นบนสุดของกลไกลงได้ โดยที่ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบอันมาจากแรงกดของน้ำเวลาใช้งานอยู่ใต้น้ำ
ตัวหน้าปัดคือ อีกสิ่งที่เปลี่ยนแปลง โดยแม้ว่าจะมีภาพรวมโดยรวมคล้ายกัน แต่มีการย้ายตำแหน่งของช่องวันที่ จากเดิมอยู่ที่ 3 นาฬิกามาอยู่ที่ 4.30 น. หรือระหว่างหลักเลข 4 และ 5 แถมยังเปลี่ยนจากทรงเหลี่ยมมาเป็นวงกลม ส่วนชุดเข็มมีลักษณะคล้ายของเดิม
อีกสิ่งที่เปลี่ยนไปคือ Seiko นำกลไกอัตโนมัติแบบสำรองกำลังงาน 3 วัน หรือ 3-Day มาใช้ โดยถ้าเป็นรุ่นก่อนจะเป็นรหัส 6R35 ที่มีกำลังสำรอง 70 ชั่วโมง แต่ในรุ่นใหม่นี้มากับรหัส 6R55 เดินด้วยความถี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง พร้อมกำลังสำรองที่ขยับเป็น 3 วันหรือ 72 ชั่วโมง ซึ่งคุ้นเคยกันมาก่อนหน้านี้กับรุ่น Presage Sharp Edged Series Open Heart ที่เปิดตัวเมื่อกลางปีที่แล้ว
การทำตลาดของ Seiko Prospex 1965 Heritage Diver’s จะมีขึ้นในเดือนมิถุนายนนี้ โดยมีราคาอยู่ที่ 176,000 เยนสำหรับรุ่นธรรมดา และ 203,500 เยนสำหรับรุ่นพิเศษ
รายละเอียดทางเทคนิค : Seiko Prospex 1965 Heritage Diver’s
- เส้นผ่านศูนย์กลาง: 40 มิลลิเมตร
- ความหนา: 13.0 มิลลิเมตร
- Lug to Lug: 46.4 มิลลิเมตร
- ความกว้างขาสาย: 20 มิลลิเมตร
- กระจก: แซฟไฟร์แบบโค้ง
- การเคลือบกระจก: เคลือบสารป้องกันการสะท้อนของแสงที่ด้านในของกระจก
- กลไก: 6R55 อัตโนมัติพร้อมระบบขึ้นลานมือ
- ความเที่ยงตรง: +25 ถึง -15 วินาทีต่อวัน
- กำลังสำรอง: ประมาณ 72 ชั่วโมง (3 วัน)
- ระดับการกันน้ำ: 30 บาร์ หรือ 300 เมตร
- ความต้านทานสนามแม่เหล็ก: 4,800 A/m
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline