หลายคนอาจจะสงสัยว่า Prospex ของ Seiko คืออะไร ? เพราะเห็นมีแต่คนพูดถึง และนาฬิกาที่วางขายอยู่ตามเคาน์เตอร์ก็มีนาฬิการุ่นนี้เพียบมากมายหลายรุ่น เอาละวันนี้เรามาทำความรู้จักกับคำว่า Prospex ของ Seiko กัน
Seiko Prospex คืออะไร ?
คำถามหนึ่งที่คิดว่าน่าจะคาใจบรรดาแฟนๆ Seiko และอาจจะรวมถึงคนรักนาฬิกาคือ คำว่า Prospex ที่ถือเป็นอีกหนึ่งไลน์อัพของ Seiko นั้นคืออะไร มีที่มาจากไหน และมีความต่างจากรุ่นย่อยอื่นๆ ที่มีวางขายอยู่ในตลาดอย่างไร เอาละ ในวันนี้เราจะไปทำความรู้จักกันว่า Seiko Prospex คืออะไร ?
จากข้อมูลที่สืบสาวมาได้นั้น Prospex เป็นการผสมคำระหว่างคำว่า Professional กับ Specifications จนได้คำว่า ProSpecs แต่เปลี่ยนตัว C มาเป็นตัว X (ซึ่ง X ถูกนำมาใช้เป็นโลโก้ของนาฬิการุ่นนี้นับจากปี 2014 เป็นต้นมา) โดยนิยามของ Prospex คือ นาฬิกาที่ถูกพัฒนาสเป็กมาเพื่อการใช้งานเฉพาะทาง และตอบสนองการใช้งานของผู้ใช้งานตัวจริงในกิจกรรมด้านต่างๆ ด้วยสเป็กที่สูงกว่านาฬิการุ่นปกติ เช่น การดำน้ำ ปีนเขา กิจกรรมกลางแจ้ง การออกกำลังกาย หรือแม้แต่โครโนกราฟ โดยในกลุ่มดำน้ำที่ Seiko ถือว่ามีผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่นและได้รับความนิยมเป็นวงกว้าง และถือเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนานาฬิกาเพื่อการใช้งานเฉพาะทางสำหรับมืออาชีพภายใต้คอนเซ็ปต์ของ Prospex
และถ้าจะให้ยึดตามนั้นก็ต้องถือว่า Prospex เกิดเป็นแนวคิดขึ้นมาตั้งแต่ Seiko ผลิตนาฬิกาดำน้ำเรือนแรกออกสู่ตลาดในปี 1965 และมีการผลิตอย่างต่อเนื่องและเรื่อยมา เพียงแต่ในช่วงเวลานั้นยังไม่มีการใช้คำว่า Prospex อย่างเป็นทางการเหมือนกับในปัจจุบัน และนาฬิกาในกลุ่มนี้จะถูกเรียกว่า Professional Diver’s แทน
อย่างไรก็ตาม คำว่า Prospex ถูกนำมาใช้และเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นในปี 2007 โดยจะเป็นซับแบรนด์ หรือแบรนด์ย่อยที่เน้นการทำตลาดด้วยโมเดลที่ผลิตเพื่อขายในญี่ปุ่นโดยเฉพาะ หรือ JDM-Japanese Domestic Model โดยชื่อของ Prospex เป็นที่พูดถึงมากขึ้น เมื่อพวกเขาเปิดตัวนาฬิกายอดนิยมตลอดกาลอย่าง Sumo หรือ SBDC001 สำหรับหน้าดำ SBDC003 หน้าน้ำเงิน และ SBDC005 หน้าส้ม ออกสู่ตลาด ภายใต้แนวคิด The Seiko Prospex Scuba Dive Watch ซึ่งนั่นถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ชื่อของ Prospex ถูกพูดถึงในฐานะของนาฬิกาที่เกิดมาเพื่อรองรับกับการใช้งานอย่างจริงจังด้วยสเป็กที่พัฒนาเพื่อรูปแบบเฉพาะ คุณภาพในการผลิต พร้อมกลไกที่เหนือระดับจาก Seiko รุ่นปกติ
ในช่วงแรกของการทำตลาดมีการแบ่งคร่าวๆ ออกเป็นกลุ่ม Sea ซึ่งมีการรวมนาฬิกาในกลุ่มดำน้ำอย่างพวก MarineMaster ทั้ง Tuna และ MM300 เข้ามาด้วย และ Land รวมถึงนาฬิกาออกกำลังกายที่เป็นดิจิตอล ส่วนในรุ่น Land ก็มีการเปิดตัว Land Monster รุ่นใหม่ SARB047-048-049 ออกมาด้วยตัวเรือนที่อ้างอิงรุ่น Monster แต่ใช้กลไก 6R15 เหมือนกับ Sumo พร้อม Bezel ที่เป็นสเกลสำหรับบ่งบอกทิศและองศา อีกรุ่นคือ SBDY001-003 ซึ่งแม้ว่าจะใช้ชื่อ Prospex เหมือนกัน แต่ก็ใช้กลไกระดับรองกว่าอย่าง 4R35A ซึ่งทั้ง 2 รุ่นเป็นโมเดลที่เข้ามาเจาะตลาดในบ้านเราช่วงแรกๆ ขณะที่ญี่ปุ่นจะมีทางเลือกมากกว่านี้กับโมเดลที่เป็น JDM
อย่างไรก็ตาม ความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของ Prospex เกิดขึ้นในปี 2014 เมื่อพวกเขารีแบรนด์พร้อมกับออกแบบโลโก้นี้ใหม่ ด้วยการผสมผสานตัวอักษร P กับ S ให้เข้ากันอย่างลงตัวในรูปแบบของโลโก้ X พร้อมกับจัดทัพใหม่ด้วยการแบ่งเป็นกลุ่มย่อยสำหรับนาฬิกาในไลน์อัพนี้เป็น Sea Land และ Sky พร้อมกับเริ่มเจาะตลาดนอกประเทศมากขึ้น
นาฬิการุ่นแรกที่ถูกส่งออกสู่ตลาดภายใต้ซับแบรนด์ที่ถูกปรับโฉมอย่าง Prospex คือนาฬิกา Kinetic GMT Diver ในรหัส SUN023 และหลังจากนั้นเหมือนกับทำนบแตก นาฬิกาในกลุ่มนี้ถูกส่งออกมาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง และไม่ได้จำกัดกลไกว่าจะต้องเป็นอัตโนมัติเท่านั้น แต่จะมีทั้ง Kinetic Quartz และ Solar เพิ่มเข้ามาอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ด้วยการที่เพิ่มรุ่นเยอะมาก รวมถึงการปรับนาฬิกาในกลุ่มดำน้ำที่เป็น Diver ให้เข้ามาอยู่ใน Prospex และไม่ได้มีแค่รุ่นที่ใช้กลไก 6R15 เท่านั้น แต่ยังรวมถึงพวกที่ใช้กลไกตระกูล 4R35/36 ด้วย และนั่นทำให้ทางเลือกของนาฬิกาในกลุ่ม Prospex มีจำนวนรุ่นย่อยเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย และถ้าให้นับรวมๆ กันแล้วน่าจะมีมากกว่า 100 รุ่นย่อยจากนาฬิกาในตระกูลต่างๆ ที่ถูกจัดกลุ่มให้อยู่ในซับแบรนด์นี้ และไม่จำเป็นจะต้องเป็น JDM เหมือนกับเป้าหมายดั้งเดิม แต่จะเป็นโมเดลที่มีขายอยู่ในตลาดทั่วโลก
ในกลุ่มนาฬิกาที่อยู่ในคลาสของการใช้กลไก 4R35/4R36 และ 6R15 จะมีรูปแบบร่วมกันคือ การใช้โลโก้ X วางอยู่บนหน้าปัด ซึ่งในตอนแรกๆ ที่เปิดตัวออกมานั้น แฟนๆ Seiko หลายคนบ่นกันอุบ เพราะเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมโผล่ขึ้นมาบนหน้าปัด และนั่นทำให้ในกลุ่มของนาฬิกาไฮเอนด์อย่าง MarineMaster และ Landmaster พวกเขายังไม่จับเอาโลโก้ X เข้าไปวางอยู่บนหน้าปัด แต่เลือกวางอยู่บนหน้าตัดของเม็ดมะยมแทน
แต่ก็ไม่แน่นะเมื่อโมเดลเหล่านี้เปลี่ยนโฉม หรือมีรุ่นใหม่เข้ามาแทนที่ก็อาจจะต้องปฏิบัติตามระเบียบปฏิบัตินี้ เหมือนกับที่ทำในรุ่น MM1000 SBEX005 ไปแล้วก็ได้
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigiwatch/