มาทำความรู้จักกับผลงาน Re-Creation ชิ้นที่ 4 ของ Seiko ในกลุ่มนาฬิกาดำน้ำ ซึ่งเจ้า SLA033/SBDX031 ถือเป็นการผลิตใหม่ที่สวยและน่าสนใจมาก
5 เรื่องน่ารู้ของ Seiko Propsex SLA033 / SBDX031
-
Seiko Prospex SLA033 เป็นนาฬิกาแบบ Re-Creation เรือนที่ 4 ในรอบ 4 ปี
-
ปรับปรุงหน้าตาและขยายขนาด
-
ใช้กลไก 8L35 และผลิตเพียง 2,500 เรือน
ถ้าจะให้นับงาน Re-Creation ของ Seiko ตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมานั้น พวกเขามีการเปิดตัวออกมาอย่างต่อเนื่องนับจากปี 2017 และในปีนี้ถึงคิวของรุ่น 6105-8110 ที่เปิดตัวในปี 1970 โดยจะมีการจำหน่ายในรหัส SBDX031 สำหรับตลาดญี่ปุ่น และ SLA033 สำหรับตลาดโลก โดยจะมีการผลิตออกมาเพียง 2,500 เรือนเท่านั้น
1.เป็นนาฬิกาเรือนที่ 4 กับการ Re-Creation : นับจากปี 2017 เป็นต้นมา ดูเหมือนว่า Seiko จะเดินตามรอยในการนำนาฬิกาดำน้ำรุ่นเก่าๆ ของพวกเขามาทำใหม่และเปิดตัวออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ SLA017 ที่เป็นงาน Re-Creation จาก 62MAS หรือ 6217/8000 ซึ่งเปิดตัวในปี 1965 ตามด้วย SLA025 ที่ชูความเด่นของตัวเรือนแบบ Monocase และเป็นนาฬิกาดำน้ำเรือนแรกของแบรนด์ที่ทนทานต่อแรงดันในระดับ 300 เมตรที่เปิดตัวในปี 1968 รวมถึงการ Re-Creation เจ้า Golden Tuna ที่เปิดตัวในปีเดียวกัน โดยรุ่นใหม่มากับรหัส SBBN040 และปีนี้เป็นคิวของ 1970 Seiko Diver ทรงแบนที่หลายคนตั้งชื่อว่าตะพาบน้ำ หรือ 6105-8110
2.จริงๆ ดังเพราะผู้ชายคนหนึ่ง : 6105 อาจจะเป็นที่รู้จักของของแฟนๆ Seiko ทั่วโลกจากการถูกสวมใส่อยู่บนข้อมือของ Martin Sheen ในภาพยนตร์เรื่อง Apocalypse Now ที่เกี่ยวข้องกับสงครามเวียตนาม แต่เอาเข้าจริงๆ แล้ว เกียรติประวัติของ 6105 คือ การถูกสวมใส่บนข้อมือของนักเดินทางชาวญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Naomi Uemura ในการเดินทางด้วยสนัขลากเลื่อนบนทวีปแอนตาร์กติกตามลำพังเมื่อปี 1974-1976 ซึ่งนาฬิกาเรือนนี้ถูกใช้ท่ามกลางอากาศสุดเย็นยะเยือกของขั้วโลกนานถึง 18 เดือน ตลอดการเดินทาง 12,500 กิโลเมตรและเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงความทนทาน
3.ใหญ่ขึ้นจากรุ่นดั้งเดิม : เอาเข้าจริงๆ ตอนที่ 6105 เปิดตัวออกมาเมื่อปี 1970 กับไซส์ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 44 มิลลิเมตรถือว่าเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างใหญ่ในยุคที่คนส่วนใหญ่สวมนาฬิกาเรือนเล็ก แต่สำหรับรุ่นใหม่ SLA033/SBDX031 มีการขยายขนาดตัวเรือนขึ้นไปอีกเป็น 45 มิลลิเมตรเพื่อให้สอดคล้องกับความนิยมของคนยุคนี้ และมีความหนา 13 มิลลิเมตร โดยที่พยายามคงเอกลักษณ์ของรุ่น 6105 เกือบครบถ้วนทั้งหลักชั่วโมงทรงเหลี่ยม เข็มชั่วโมงและนาทีทรงแท่งยาวหรือ Baton Hand รวมถึงการวางเม็ดมะยมเอาไว้ที่ตำแหน่ง 4 นาฬิกา
4.กลไกไม่ผิดคาด : ด้วยการที่วางตำแหน่งให้เป็นตัว Re-Creation ไม่น่าแปลกใจเลยว่ากลไกที่อยู่ในรุ่นนี้จะเป็นรหัส 8L35 ที่วางอยู่ใน MM300 ซึ่งมีความเที่ยงตรงและความเนียนในการเดินของเข็มวินาทีกับความถี่ในระดับ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง หรือ 8 ครั้งต่อวินาที โดยมีกำลังสำรอง 50 ชั่วโมง และมีจำนวนทับทิม 26 เม็ด
5.ผลิตจำกัดกับราคาที่พอจับต้องได้ : ถือว่าค่อนข้างผิดคาดเหมือนกันที่ SLA033/SBDX031 เปิดตัวออกมากับราคาที่จับต้องได้ เมื่อเปรียบเทียบกับ LX Line ที่ราคาพุ่งทะลุไปไกลเลย โดยราคาของ SLA033 ในญี่ปุ่นตั้งเอาไว้ที่ 450,000 เยน และมีการผลิตจำกัดเพียง 2,500 เรือนเท่านั้น
SLA033/SBDX031 |
6105-8110 1970 Watches |
|
เส้นผ่านศูนย์กลาง (มม.) |
45 |
44 |
ความหนา (มม.) |
13 |
– |
Lug to Lug (มม.) |
49.2 |
47 |
กระจก |
Sapphire ทรงโดมคู่เคลือบ AR ด้านใน |
Hardlex |
กลไก |
8L35 |
6105B |
สาย |
ซิลิโคนทนแรงดึงสูง |
PVC แบบนุ่ม |
ระดับการกันน้ำ |
200 เมตร |
150 เมตร |
ราคาเปิดตัว |
4,500 $ |
95$ |
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/