หลังจากส่งรุ่นธรรมดาออกมาลุยตลาดอยู่พักใหญ่ ในที่สุด Presage ใหม่ในตระกูล Cocktail Time ก็มี Limited Edition สำหรับเมืองไทยโดยเฉพาะออกมาทำตลาดกับรหัส SRPC45J1 และ SRPC46J1 แต่ที่โดนใจและน่าสนใจมากที่สุดคือ ตัวแรกที่มากับหน้าปัดสีฟ้าแบบ Sunburst Pattern และมีชื่อเล่นว่า The Blue Planet
Seiko Presage SRPC45J1 The Blue Planet มีดีที่หน้าปัด
-
ผลิตจำกัด 350 เรือนเฉพาะในไทย
-
หน้าปัดสีฟ้าแบบ Sunburst Pattern สวยและลงตัว
-
ราคาป้าย 20,000 บาท พร้อมสายหนังเข้าคู่อีก 1 เส้น
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานี้ ถือเป็นช่วงเวลาที่ Seiko ย้ายวิกในการส่งผลผลิตใหม่ๆ ลงกระหน่ำตลาดจากแนวSport มาสู่แนว Dress และแน่นอนว่า Presage ใหม่คือ คอลเล็กชั่นหลักที่พวกเขาหมายมั่นปั้นมือว่าจะสามารถสยบกลุ่มลูกค้าเอาไว้ได้ และเราก็เชื่อเช่นนั้น เพราะยอมรับว่าหลายต่อหลายครั้งที่ได้เห็นตัวจริงแล้วเงินเกือบจะหลุดจากกระเป๋า
เพราะหลงเสน่ห์ของ Cocktail Time ตัวใหม่ที่ใช้กลไก 4R35 และ 4R57 แต่สุดท้ายก็ยังไม่โดนจังๆ สักที จนกระทั่งการมาถึงของ Limited Edition ตัวใหม่ที่ผลิตขึ้นมาสำหรับเมืองไทยโดยเฉพาะ ซึ่งกับเจ้าของฉายา The Blue Planet หรือ Seiko Presage SRPC45J1 นั้นถือว่างานนี้โดนใจอย่างมาก
จริงๆ แล้วข่าวการเปิดตัวของคู่หู Presage ที่เป็น Limited Edition สำหรับเมืองไทยนั้นหลุดออกมาอย่างต่อเนื่องบนหน้า Feed ของแอดมินของเว็บซึ่งเป็น Friend กับตัวแทนจำหน่ายของ Seiko หลายร้าน และในช่วงที่พวกเขาออกไปเดินสายประชุมตัวแทนจำหน่ายกันที่พัทยา ก็มีภาพพร้อมรายละเอียดของคอลเล็กชั่นใหม่นี้หลุดออกมา
เพราะ Seiko นำออกเปิดตัวครั้งแรกที่นั่น ซึ่ง SRPC45J1 หน้าปัดสีฟ้าที่มีการเล่นมุมสะท้อนแบบ Sunburst Pattern บวกกับเข็มวินาทีสีเหลืองช่างสะกดสายตาได้ดีอย่างมาก เพราะการตัดกันอย่างลงตัวของโทนสี
ในคอลเล็กชั่นนี้มีการผลิตออกมา 2 รุ่นด้วยกัน โดยนอกจาก SRPC45J1 แล้วก็มีหน้าเงินอมชมพูในรหัส SRPC46J1 ซึ่งทั้ง 2 รุ่นนี้มีการผลิตออกมาเพียงรุ่นละ 350 เรือนเท่านั้น เป็น Limited Edition ที่มีการระบุเลข และมากับสายเหล็ก แต่มีสายหนังพร้อมบัคเคิลปีกผีเสื้อแถมมาให้ด้วยสำหรับคนที่อยากเปลี่ยนอารมณ์ และค่าตัวตามป้ายของ SRPC ทั้ง 45 และ 46 อยู่ที่ 20,000 บาท แต่ในยุคที่เราสามารถซื้อ Seiko ผ่านตัวแทนจำหน่ายที่ขายออนไลน์ได้นั้น แน่นอนว่าส่วนลดย่อมเร้าใจ และทำให้การตัดสินใจเกิดขึ้นได้ไม่ยากเมื่อเห็นตัวเลขสุดท้ายหลังหักส่วนลด
สำหรับชื่อของ Cocktail Time นั้นถือเป็นฉายาที่ถูกตั้งขึ้นมาหลังจากที่ Seiko เปิดตัวนาฬิกา Dress กลไก 6R15 ออกมา โดยที่มาของมันจากข้อมูลของเว็บไซต์ Yaomanseiko.com คือ นาฬิการุ่นนี้เป็นการทำงานร่วมกับบาร์เทนเดอร์ชื่อดังของญี่ปุ่น คือ มิสเตอร์ Ishigaki Shinobu ที่มีบาร์แถวชิบูย่าซึ่งชือว่า Ishigaki Bar และเปิดตัวออกมา 3 รุ่นซึ่งออกแบบโดยยึดตามคอกเทลที่มิสเตอร์ Shinobu ชงขึ้นมา คือ SARB065 ในคอนเซ็ปต์ Cool ตามด้วย SARB066 ในคอนเซ็ปต์ Dry และ SARB068 ในคอนเซ็ปต์ Sweet แต่รุ่นที่ถูกพูดถึงและกลายเป็นมาตรฐานของนาฬิกาในคอลเล็กชั่นนี้คือ SARB065
นั่นคือเรื่องที่ย้อนไปในปี 2010 และเมื่อถึงปลายปี 2017 Seiko ปัดฝุ่นนำคอลเล็กชั่นนี้กลับมาอีกครั้งพร้อมกับความเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะการผนวกเข้ามาอยู่ในคอลเล็กชั่น Presage และเรื่องของกลไกที่ไม่ได้ใช้รหัส 6R15 อีกต่อไป แต่เป็นรหัส 4R35 และ 4R57 ที่มี Power Reserve และหลังจากเปิดตัวรุ่นมาตรฐานออกมาแล้ว ทาง Seiko ผลิต 2 รุ่นพิเศษที่อ้างอิงคอกเทลที่เข้าไปประกวดงานที่ Mexico ออกมา ก่อนที่จะถึงคิวของ Limited Edition รุ่นนี้
สำหรับ SRPC45J1 มากับตัวเรือนที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 40.5 มิลลิเมตร และหนา 11 มิลลิเมตรนิดๆ ซึ่งถ้าถามว่าใหญ่ไปไหมสำหรับนาฬิกาทำนองนี้ที่จะต้องมีความสามารถในการหลบซ่อนแขนเสื้อที่ถูกกลัดกระดุมเอาไว้ บอกเลยว่าใหญ่ไปนิด แต่ก็ไม่ถึงกับใหญ่มากเหมือนกับ Dress ราคาไม่แพงบางรุ่นของ Seiko ที่มีไซส์ถึง 42 มิลลิเมตร
ในเรื่องของการออกแบบต้องบอกว่า SRPC45J1 เก็บทุกเม็ดที่เป็นเอกลักษณ์ของ Cocktail Time รุ่น SARB065 เอาไว้เกือบทุกประการ โดยเฉพาะหน้าปัดแบบ Sunburst Pattern ที่มีดีเทลสวยและมีเหลี่ยมมุมที่เล่นกับแสงได้อย่างงดงาม ซึ่งพอเป็นหน้าปัดสีฟ้าด้วยแล้ว การเล่นแสงถือว่าชวนให้หลงและเคลิ้มเอาได้ง่ายๆ ขณะที่ในระหว่างหลักชั่วโมง จะมีสเกลเล็กๆ
ซึ่งมีการให้สีที่ตัดกันอย่างลงตัวโดยใช้สีเหลืองทอง เช่นเดียวกับชุดเข็มวินาที ซึ่งปลายอีกฝั่งของเข็มวินาทีซึ่งมีรูปทรงสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด หรือ Diamond แบบเจาะโปร่งติดมาด้วยเหมือนกับ Cocktail Time รุ่นแรก ส่วนเข็มนาทีและชั่วโมงเป็นแบบปลายแหลมดูสวยและลงตัวมาก
นอกจากนั้นอีกสิ่งที่ติดมาด้วยคือ เม็ดมะยมที่คล้ายๆ กับแนว Diamond-Shape หรือทรงเพชรคล้ายกับพวกนาฬิกา B-hur ช่วยทำให้การปรับตั้งเวลาสะดวกและง่ายขึ้น แม้ว่าหลายคนอาจจะบ่นว่าทำให้ตัวเรือนดูมีขนาดใหญ่ และส่วนของเม็ดมะยมยาวยื่นออกมาจากตัวเรือนมากไปหน่อยก็ตาม ส่วนหน้าตัดของเม็ดมะยมก็ยังมีโลโก้ตัว S เหมือนกับ Cocktail Time รุ่นแรก
เมื่อพลิกด้านท้ายจะพบกับฝาหลังแบบใสที่แสดงให้เห็นถึงชิ้นส่วนและกลไก 4R35 ที่ขับเคลื่อนนาฬิการุ่นนี้ ซึ่งถ้าถามว่าฝาหลังใสนี่ถือเป็นจุดเด่นของนาฬิการุ่นนี้หรือไม่นั้น ผมคงต้องตอบว่า ไม่น่าจะใช่นะเมื่อเปรียบเทียบกับดีเทลบนหน้าปัด เพราะเอาเข้าจริงๆ การขัดแต่งกลไกและชิ้นส่วนที่ประกอบอยู่ในกลไก 4R35 ก็ไม่ได้งดงามถึงขนาดที่จะทำให้ตะลึงแต่อย่างใด แม้จะมีการใช้โรเตอร์เป็นสีทองก็ตาม
สำหรับกระจกหน้าปัดแม้ว่าจะยังเป็น Hardlex ซึ่งชวนผิดหวังนิดหน่อยสำหรับนาฬิการะดับนี้ แต่จากการออกแบบให้มีทรงโค้งเป็น Dome เล็กๆ ช่วยทำให้ตัวกระจกมีมิติและทำให้ภาพรวมของตัวนาฬิกาดูดีขึ้น และช่วยลดอาการเคืองใจนิดๆ ลงได้ ขณะที่ตัวสายเหล็กติดนาฬิกานั้นเป็นสายแบบเดียวกับ Cocktail Time ตัวธรรมดา ซึ่งสารภาพเลยว่ามันไม่ค่อยเข้ากันสักเท่าไรในแง่ของลวดลาย และในมุมมองส่วนตัว ถ้าเป็นนาฬิกา Dress แล้ว ผมว่าควรจะจับคู่กับสายหนังดีกว่า ซึ่งในคอลเล็กชั่นนี้ก็มีติดมาให้ด้วยอีก 1 เส้นพร้อมกับบัคเคิ้ลแบบปีกผีเสื้อ
ราคาหลังหักส่วนลดแล้วน่าจะอยู่ในระดับหมื่นกลางๆ และกับวงเงินขนาดนี้ถ้าคุณกำลังมองหานาฬิกา Dress สักเรือนที่สวยสะดุดตา มีกลไกที่ไว้ใจได้ แบรนด์ที่แข็งแรง มีประวัติอีกนิดหน่อยพอเล่าให้ใครฟังได้ เราคิดว่า Seiko Presage SRPC45J1 The Blue Planet คือ อีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่น่ามองข้าม
และเชื่อสิว่าถ้าได้เห็นตัวจริง และลองมองเพ่งไปที่หน้าปัดสักพัก หรือหยิบมาพิจารณารายละเอียดที่อยู่ในนั้น คุณจะพบว่ามันสามารถสะกดจิต และทำให้บัตรเครดิตลอยออกจากกระเป๋าแบบไม่รู้ตัวได้เลย
ข้อมูลทางเทคนิค : Seiko Presage SRPC45J1 The Blue Planet
- เส้นผ่านศูนย์กลาง : 40.5 มิลลิเมตร
- ความหนา : 12 มิลลิเมตร
- ระดับการกันน้ำ : 50 เมตร
- กระจก : Hardlex
- กลไก : 4R35 แบบ Date
- สำรองพลังงาน : 41 ชั่วโมง
- จำนวนทับทิม : 23 เม็ด
- ประทับใจ : ลวดลายและการเล่นแสงบนหน้าปัด
- ไม่ประทับใจ : ลวดลายของสายเหล็ก
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigonline/