Seiko Presage SRPB069 Presage Blue Enamel ผลิตจำกัดเพื่อคนรักพระจันทร์

0

คอเดรสส์ทั่วโลกเตรียมเงินเอาไว้ให้ดีกับคอลเล็กชั่นใหม่อย่าง Seiko Presage SRPB069 Presage Blue Enamel ผลิตจำกัดเพื่อคนรักพระจันทร์ โดยมีเพียง 1,500 เรือนเท่านั้น

- Advertisement -

Seiko Presage SRPB069 Presage Blue Enamel ผลิตจำกัดเพื่อคนรักพระจันทร์

  • Seiko Presage SRPB069 Presage Blue Enamel ได้รับการออกแบบโดยมีแรงบันดาลใจมาจากพระจันทร์เสี้ยว

  • ใช้กลไกรหัส 6R15

  • ผลิตเพียง 1,500 เรือนเท่านั้น

ช่วงนี้ Seiko มีผลผลิตใหม่ๆ จากนาฬิกาแนวเดรสส์ในคอลเล็กชั่น Presage ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดก็เพิ่งเปิดตัว Limited Edition รหัส SRP069 ออกสู่ตลาดโดยมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า Seiko Presage Blue Enamel ซึ่งเป็นการผสมผสานการเล่นสีสันที่ดำขรึมกับแนวคิดของการมองขึ้นไปท้องฟ้าเพื่อชมความงามของพระจันทร์เสี้ยว

แน่นอนว่าทาง Seiko บอกว่า Seiko Presage SRPB069 นั้นได้รับอิทธิพลมาจากพระจันทร์เสี้ยว ซึ่งคุณจะสามารถเห็นได้จากปลายอีกด้านของเข็มวินาที ซึ่งตามปกติแล้วก็จะเป็นพระจันทร์เสี้ยว แต่สำหรับรุ่นนี้เพนต์สีเหลืองตามสีจริง และเมื่อพลิกฝาหลังก็จะพบกับการออกแบบรูปพระจันทร์เสี้ยวโค้งไปกับขอบของกระจกบนฝาหลัง ซึ่งทีมออกแบบของ Seiko บอกว่าคนญี่ปุ่นนั้นหลงใหลกับพระจันทร์มาโดยตลอดตั้งแต่ยุคสมัยค.ศ. 794  และมีเทศกาลที่เรียกว่า Tsukimi หรือเทศกาลชมจันทร์ ซึ่งจะตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 8

ความพิเศษของคอลเล็กชั้นนี้นอกจากจะอยู่ที่คอนเซ็ปต์ต้นทางในการนำเสนอแนวคิดของความสัมพันธ์ระหว่างคนญี่ปุ่นกับพระจันทร์แล้ว ยังอยู่ที่การผลิตหน้าปัดแบบ Enamel ในแบบสีน้ำเงินเข้มโดยช่างฝีมือที่มีชื่อว่า Mitsuru  Yokozawa และทีมงานของเขาเพื่อช่วยทำให้ตัวนาฬิกามีความโดดเด่นและลงตัวมากขึ้น

สำหรับ Presage SRPB069 นี้มากับตัวเรือนที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 40.5 มิลลิเมตร และหนาเพียง 12.4 มิลลิเมตร กระจกทรงโค้งแบบ Dual-Curved ผลิตจาก Sapphire และมีการเคลือบสารกันการสะท้อนแสง ส่วนฝาหลังไม่ได้ระบุว่าใช้กระจกแบบไหนแต่เป็นแบบใส ซึ่งทำให้สามารถมองเห็นกลไก 6R15 เต็มๆ ซึ่งกลไกนี้เดินด้วยความถี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง และสำรองพลังงานได้ 50 ชั่วโมง

ตัวนาฬิกาจะมากับสายหนังจระเข้พร้อมกับบานพับแบบพิเศษ โดยการผลิตมีเพียง 1,500 เรือน และมีราคาอยู่ที่ 1,150 ยูโร หรือ 46,000 บาท ส่วนจะเข้าไทยหรือไม่นั้น ต้องรอดูกันต่อไป