ภาพมีให้เห็นแล้ว แต่หลายคนอาจจะสงสัยว่านาฬิกาที่มาพร้อมกับกลไก Spring Drive และบางเรือนก็มีฟังก์ชั่น GMT มาให้ด้วยนั้นมันคืออะไรกันแน่ วันนี้เรามีคำตอบมาให้ ซึ่งนั่นคือคอลเล็กชั่นใหม่ที่เรียกว่า LX Line ของ Seiko
Seiko LX Line เติมความหรูและเบาให้ Prospex
-
เพิ่มความหรูให้กลุ่ม Prospex
-
ตัวเรือนผลิตจากไทเทเนียมใช้กลไก Spring Drive
-
เริ่มขายกรกฎาคม 2019
หลายคนได้เห็นภพ แต่อาจจะยังไม่มีข้อมูลให้อ่านสำหรับนาฬิการุ่นใหม่จาก Seiko
ที่เปิดตัวใน Basel World 2019 ซึ่งในตอนนี้ทาง Seiko เองมีการปรับปรุงทางเลือกในกลุ่ม Prospex
ด้วยการเปิดตัวทางเลือกใหม่ที่เรียกว่า LX Line ขึ้นมา
โดยจะมีการจำหน่ายด้วยกันทั้งหมด 6 รุ่นย่อยด้วยกันจาก 3 กลุ่มนาฬิกา
คือ Sea Sky และ Land ตามแบบที่แบ่งอยู่ในกลุ่ม Prospex
ว่าแต่ว่า LX Line คืออะไร ?
LX เป็นการนำคำว่า Lux ที่แปลว่าเบาในภาษาละตินมาใช้ ที่มีความหมายว่า แสง เพื่อนำมาสื่อถึงนาฬิกา Hi-End ของกลุ่ม Sport อย่าง Prospex เพื่อผสมผสานระหว่างคุณภาพ ความเชื่อถือได้ในการใช้งาน และความประณีตเข้าด้วยกัน โดยโปรเจ็กต์นี้ได้รับการดูแลจาก Kiyoyuki Okuyama หรือที่บางคนรู้จักกันในชื่อ Ken Okuyama ซึงเป็นนักออกแบบชื่อดังชาวญี่ปุ่นที่เคยทำงานอยู่กับสำนักออกแบบชื่อดังอย่าง Pininfarina และเคยฝากฝีมือมาแล้วกับการออกแบบ Ferrari Enzo และ Ferrari P 4/5 ซึ่งคันหลังเป็น One Off ที่ผลิตเพื่อความต้องการของลูกค้าที่ Pininfarina สร้างขึ้นมา
แน่นอนว่างานนี้ทาง Seiko อัพเกรดสเป็กของนาฬิกาตัวเองขึ้นมา และมีการแบ่งออกเป็นกลุ่มต่างๆ
Sky มีขายด้วยกัน 2 รุ่นคือ SBDB025 และ SBDB031 ซึ่งแบบแรกมากับตัวเรือนรมดำ และแบบหลังเป็นตัวเรือนสตีล ตัวเรือนมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 44.8 มิลลิเมตร Lug-to-Lug 50.9 มิลลิเมตร และหนา 14.7 มิลลิเมตร ตัวเรือนผลิตจากไทเทเนียม พร้อมกระจก Sapphire กันน้ำได้ 100 เมตร ขอบ Bezel เป็นสเกล 24H สำหรับใช้ในการดูเวลาที่ 3 ได้
Sea มีขาย 2 รุ่น คือ SBDB021 ตัวเรือนรมดำ และ SBDB027 ตัวเรือนสตีล ซึ่งดูแวบแรกหลายคนอาจจะคิดว่าเป็นการอัพเกรดมาจาก MM300 เพราะดูหน้าตาแล้วคล้ายคลึงมาก ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่ ตัวเรือนผลิตจากไทเทเนียมและมีฝาหลังแบบขันเกลียว โดยขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ที่ 44.8 มิลลิเมตร Lug to Lug 50.9 มิลลิเมตร และหนา 15.7 มิลลิเมตร กันน้ำได้ 300 เมตร พร้อมขอบสเกลบน Bezel สำหรับใช้ในการดำน้ำ
Land มีขาย 2 รุ่น คือ SBDB023 ตัวเรือนรมดำ และ SBDB029 ตัวเรือนสตีล ซึ่งดูจากหน้าตาและมิติตัวเรือนแล้ว รุ่น Land น่าจะใช้ตัวเรือนเดียวกับรุ่น Sky เพราะมีขนาดเท่ากันในทุกสัดส่วน จะแตกต่างออกไปตรงขอบ Bezel เป็นการแสดงทิศ และชุดเข็มที่ถอดแบบมาจากรุ่น Landmaster
ในรุ่น Sky และ Land ที่มีฟังก์ชั่น GMT จะใช้กลไก 5R66 ชุดเดียวกับที่ใช้ใน Landmaster เป็นแบบ Spring Drive GMT สามารถสำรองพลังงานได้ 72 ชั่วโมง โดยจะมี Power Reserve Indicator แสดงอยู่บนหน้าปัด มีความเที่ยงตรงในระดับ +/- 15 วินาทีต่อเดือน ส่วนรุ่น Sea ไม่มีเข็ม GMT จะใช้กลไกรหัส 5R65 ซึ่งสเป็กเดียวกับ 5R66 แต่ตัดฟังก์ชั่น GMT ออกไป
Seiko เปิดตัวออกมาแล้วใน Basel World 2019 แต่ทว่ายังไม่ระบุวันขายที่แน่นอนของ LX Line แต่เชื่อว่าคงจะอยู่ในช่วงเดือนกรกฎาคมปีนี้ ใครที่สนใจเก็บเงินรอกันได้แล้ว
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigiwatch/