Seiko ย้ำความล้ำหน้าของการออกแบบในยุคทศวรรษที่ 1970 กลับมาอีกครั้งโดยนำเสนอผ่านชื่อ King Seiko กับตัวเรือนคอลเล็กชั่นย่อยใหม่ Vanac ที่มีไซส์ 41 มิลลิเมตรมีจำหน่าย 5 รุ่นย่อย 3 รุ่นสำหรับเวอร์ชันปกติ อีกอย่างละรุ่นเป็น Limited Edition และ Boutique Edition ขยับกำลังขุมพลังเป็น 72 ชั่วโมงโดยใช้พื้นฐานของ 8L35 เปลี่ยนตลับลานและใช้รหัสใหม่ 8L45 และจะเริ่มจำหน่ายในเดือนกรกฎาคมนี้
Seiko King Seiko Vanac กำเนิดใหม่สไตล์สุดล้ำแห่งยุค 1970
-
การปัดฝุ่นนำตัวเรือนที่มีดีไซน์สุดล้ำในยุคทศวรรษ 1970 อย่าง Vanac กลับมาผลิตใหม่ในชื่อ King Seiko
-
ตัวเรือน 41 มิลลิเมตรมีจำหน่าย 5 รุ่นย่อย 3 รุ่นสำหรับเวอร์ชันปกติ อีกอย่างละรุ่นเป็น Limited Edition และ Boutique Edition
-
ขยับกำลังขุมพลังเป็น 72 ชั่วโมงโดยใช้พื้นฐานของ 8L35 เปลี่ยนตลับลานและใช้รหัสใหม่ 8L45
King Seiko กลับมาสู่ตลาดอีกครั้ง แต่ครั้งนี้แปลกกว่าที่เคย เพราะ Seiko นำงานดีไซน์แห่งปี 1972 ที่ชื่อว่า Vanac กลับมาอีกครั้ง โดยนำเสนอผ่านตัวเรือน Seiko King Seiko Vanac ซึ่งมีทั้งหมด 5 รุ่นย่อยบนตัวเรือนและสายสเตนเลสสตีลซึ่งมีขนาดอยู่ที่ 41 มิลลิเมตร พร้อมกับกลไกอัตโนมัติ 8L45 ซึ่งเป็นกลไกใหม่ที่มีกำลังสำรอง 72 ชั่วโมง
King Seiko Vanac เป็นนาฬิกาที่ถูกทำตลาดในช่วงปี 1972-1974 พร้อมงานดีไซน์ที่แตกต่างจากรูปทรงของนาฬิกาที่เป็นอยู่ในช่วงนั้น โดยเป็นผลผลิตที่มาจากทั้งโรงงาน Daini Seikosha และ Suwa Seikosha ซึ่งมีจุดร่วมกันหลายอย่าง โดยเฉพาะทุกรุ่นย่อยซึ่งตัวนาฬิกาจะมาพร้อมคริสตัลเหลี่ยมบนตัวเรือนเหลี่ยมมุมขนาด 36–38 มิลลิเมตร พร้อมกับหน้าปัดที่มากับโทนสีแบบสดใส
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
สำหรับรุ่นใหม่ ซึ่งถูกแยกออกมาเป็นคอลเล็กชั่นย่อยๆ ยังคงยึดรูปแบบของการสร้างสรรค์ในแง่ดีไซน์ที่คล้ายเดิมอาจจะมีการปรับเปลี่บยนบ้าง เช่นกระจกที่จากเดิมที่เป็นแบบมีเหลี่ยมมุม ก็เป็นแบบเรียบและขอบยกสูงหรือ Boxed-Shape และสายสเตนเลสสตีลแบบ 3 Link ข้อกลางมีขนาดใหญ่ ซึ่งถูกออกแบบมาให้สวมใส่ได้อย่างสบาย โดยตัวเรือนมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 41 มิลลิเมตร
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
แต่ละรุ่นมาพร้อมกับคอนเซ็ปต์คือ Tokyo Horizon ซึ่งเมืองโตเกียวถือเป็นจุดกำเนิดของ King Seiko และทางแบรนด์เองได้เลือกนำเสนอช่วงเวลาต่างๆ ของนครแห่งนี้เพื่อนำเสนอผ่านทางหน้าปัด Index Ring หรือ “วงแหวนบอกเวลา” ได้รับแรงบันดาลใจจากขอบหน้าปัดอันโดดเด่นของ “VANAC” ในยุค 1970 วงแหวนบอกเวลาที่มีขอบเป็นประกายระยิบระยับนี้มาพร้อมกับมาตราส่วนนาทีแบบสามมิติ และมาตราส่วนชั่วโมงได้รับการตกแต่งด้วยลูมิไบรต์ หลักชั่วโมงที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกาและน้ำหนักถ่วงของเข็มวินาทีถูกแกะสลักเป็นรูปเงาของตัวอักษร “V” ซึ่งเป็นอักษรย่อของ “VANAC” นอกจากนั้น ยังถือเป็นครั้งแรกของ King Seiko ที่มากับฝาหลังแบบใส ทำให้สามารถมองเห็นกลไกอัตโนมัติที่อยู่ข้างใน
รุ่นย่อยที่ทำตลาดในช่วงแรกจะมีด้วยกัน 5 รุ่น คือ
-
SDKV001 สำหรับตลาดญี่ปุ่น และ SLA083 สำหรับตลาดโลก มากับหน้าปัดสีม่วง-เหลือง
-
SDKV003 สำหรับตลาดญี่ปุ่น และ SLA085 สำหรับตลาดโลก มากับหน้าปัดสีน้ำเงิน-เทา
-
SDKV005 สำหรับตลาดญี่ปุ่น และ SLA087 สำหรับตลาดโลก มากับหน้าปัดสีขาว-ทอง
-
SDKV007 สำหรับตลาดญี่ปุ่น และ SLA089 สำหรับตลาดโลก มากับหน้าปัดสีน้ำตาล-ทอง เป็น Limited Edition ผลิต 1,000 เรือน ขายในญี่ปุ่น 300 เรือนและ 700 เรือนสำหรับตลาดโลก
-
SDKV009 สำหรับตลาดญี่ปุ่น และ SLA091 สำหรับตลาดโลก มากับหน้าปัดสีฟ้า มีจำหน่ายเฉพาะ Seiko Boutique เท่านั้น
สิ่งที่น่าสนใจของนาฬิกาเรือนนี้คือ การอัพเกรดกลไก 8L35 ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่ไม่ได้ขัดแต่งของรุ่น 9S55 มาเป็นรุ่นใหม่นั่นคือ 8L45 ด้วยการเพิ่มกำลังสำรองจาก 50 ชั่วโมงมาเป็น 72 ชั่วโมง หรือ 3 วัน ด้วยการเปลี่ยนตลับลานใหม่ที่สามารถตอบสนองในเรื่องขอระยะเวลาของ Power Reserve ได้นานขึ้น โดยความเที่ยงตรงของกลไกอยู่ในระดับ +10 ถึง -5 วินาทีต่อวัน
Seiko King Seiko Vanac จะเริ่มทำตลาดในเดือนกรกฏาคม โดยราคาจำหน่ายในญี่ปุ่นอยู่ที่ 396,000 เยน
รายละเอียดทางเทคนิค : Seiko King Seiko Vanac
- เส้นผ่านศูนย์กลาง : 41 มิลลิเมตร
- Lug to Lug : 45.1 มิลลิเมตร
- ความหนา : 14.3 มิลลิเมตร
- วัสดุตัวเรือนและสาย : สเตนเลสสตีล
- กระจก : Sapphire ทรง Boxed-Shape
- กลไก : อัตโนมัติ รหัส 8L45
- ความถี่ : 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง
- กำลังสำรอง : 72 ชั่วโมง
- การกันน้ำ : 100 เมตร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline