หลังจากเปิดตัวรุ่นธรรมดาออกมาในปี 2022 พร้อมตัวเรือนขนาด 37 มิลลิเมตร ทำให้ลูกค้าหลายคนที่ข้อมือใหญ่ต่างผิดหวังไปตามๆ กัน และนั่นทำให้ King Seiko เวอร์ชันปี 2023 ถูกขยายร่างจากเดิมมาเป็น 39 มิลลิเมตร พร้อมกับความเปลี่ยนแปลงหลายจุด ทั้งหน้าปัดแบบมีช่องวันที่ และกลไกใหม่ในรหัส 6R55 ที่มีกำลังสำรองเพิ่มขึ้นอีก 2 ชั่วโมง
Seiko King Seiko 39 mm ขยายร่างพร้อมกลไก 6R55
-
ขยายขนาดตัวเรือนจากเดิม 37 มาเป็น 39 มิลลิเมตร พร้อมหน้าปัดแบบมีวันที่
-
เปลี่ยนกลไกใหม่มาเป็นรหัส 6R55 ที่มีกำลังสำรองเพิ่มขึ้นเป็น 72 ชั่วโมง
-
มีจำหน่ายในช่วงแรก 3 รุ่นย่อย กับราคา 231,000 เยน
หลังจากทำตลาดมาได้สักระยะและมีการเปิดตัวรุ่นย่อยหน้าปัดหลากสีสันออกมาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ในตอนนี้ทาง Seiko ขยับแนวรุกให้กับ King Seiko เพื่อเอาใจคนข้อมือใหญ่ อัพมิติตัวเรือนจากเดิม 37 มิลลิเมตร ให้ขยับขึ้นมาเป็น 39 มิลลิเมตร พร้อมกับเปลี่ยนกลไกใหม่จากเดิมเป็นรหัส 6R31 มาเป็น 6R55 ซึ่งเป็นรหัสเดียวกับรุ่นฉลองครบรอบ 110 ปีในการผลิตนาฬิกาข้อมือของ Seiko ที่เปิดตัวออกมาในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน
Seiko นำชื่อ King Seiko กลับมาสู่ตลาดครั้งแรกในปี 2021 โดยในตอนนั้นเป็นรุ่นผลิตจำกัด 1,200 เรือนในรหัส SDKA001 พร้อมกลไกไขลาน โดยเป็นการฉลองครบรอบ 140 ปีของ Kintaro Hattori ผู้ก่อตั้ง Seiko จากนั้นในปี 2022 จึงมีการเปิดตัวรุ่นที่อยู่ในคอลเล็กชั่นปกติ โดยมีจำหน่ายในช่วงแรก 5 รุ่นย่อย และมีตัวเรือนขนาด 37 มิลลิเมตรพร้อมกลไก 6R31
สำหรับรุ่นใหม่นี้ถือเป็นรุ่นที่เพิ่มเข้ามา โดย Seiko ขยายขนาดตัวเรือนมาสู่ระดับ 39 มิลลิเมตร และเปลี่ยนกลไกใหม่ โดยที่ยังคงความหรูหรา และความสวยตามแบบฉบับ King Seiko เอาไว้ ซึ่งในช่วงแรกจะมีจำหน่ายด้วยกัน 3 รุ่นย่อย คือ
- SPB369 ในตลาดโลก หรือ SDKS015 ในตลาดญี่ปุ่น มากับหน้าปัดสีแชมเปญ
- SPB371 ในตลาดโลก หรือ SDKS017 ในตลาดญี่ปุ่น มากับหน้าปัดสีน้ำเงิน
- SPB373 ในตลาดโลก หรือ SDKS019 ในตลาดญี่ปุ่น มากับหน้าปัดสีเขียว
 |
 |
 |
เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นปี 2022 จะพบว่า ตัวเรือนของ King Seiko ในเวอร์ชันปี 2023 นั้นใหญ่ขึ้นในทุกมิติ ยกเว้นตัวเรือนที่บางลง 0.2 มิลลิเมตร แต่คงรายละเอียดของการออกแบบตัวนาฬิกาและการสร้างสรรค์ความสวยงามตามแบบฉบับเดียวกัน เช่นเดียวกับการใช้กระจกแบบ Sapphire ทรงยกสูง หรือ Boxed Shape
เช่นเดียวกับสายโลหะแบบ 7-Linked นอกจากนั้นอีกจุดที่เปลี่ยนไปแบบสังเกตได้คือ รุ่นปี 2023 จะมากับหน้าปัดแบบมีช่องวันที่ หรือ Date ต่างจากรุ่นก่อนที่เป็นแบบ No Date
สำหรับกลไกในเวอร์ชันปี 2023 ที่มีตัวเรือนใหญ่กว่านั้นจะเป็นการอัพเกรดตามจากกลไกพื้นฐานในรหัส 6R Series โดยขยายระดับกำลังสำรองของกลไก 6R31 จาก ซึ่งมีตัวเลขอยู่ที่ 70 ชั่วโมงมาเป็นท 72 ชั่วโมง โดยที่ความถี่เท่าเดิมที่ 21,600 ครั้ง/ชั่วโมง และมีความสามารถในการกันน้ำเท่าเดิมที่ 100 เมตร
การทำตลาดจะมีขึ้นในเดือนมีนาคมนี้ ใครที่เคยเล็งๆ King Seiko รุ่นก่อนหน้านี้เอาไว้ แต่ติดตรงประเด็นในแง่ที่เล็กไปหน่อย เชื่อว่าเวอร์ชันปี 2023 น่าจะสมหวังกันถ้วนหน้า โดยราคาของรุ่นนี้จะอยู่ที่ 231,000 เยน
รายละเอียดทางเทคนิค : Seiko King Seiko 2023
- เส้นผ่านศูนย์กลาง: 39 มิลลิเมตร
- ความหนา: 11.9 มิลลิเมตร
- Lug to Lug: 46.1 มิลลิเมตร
- ตัวเรือน: ผลิตจากสแตนเลสสตีลเคลือบด้วยกรรมวิธี Super-Hard Coating
- กระจก: แซฟไฟร์พร้อมเคลือบสารกันการสะท้อนแสง
- กลไก: อัตโนมัติ 6R55
- ความเที่ยงตรง: +25 ถึง -15 วินาทีต่อวัน
- พลังงานสำรอง: 72 ชั่วโมง
- จำนวนทับทิม: 24 เม็ด
- การกันน้ำ: 100 เมตร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline
