Seiko Diver Watch With Orange Dial รุ่นไหนที่น่าสนใจเก็บเข้ากรุ

0

หน้าส้มกำลังจะมา และต้องบอกเลยว่าการเตรียมเปิดตัว Samurai ใหม่ที่มากับหน้าส้มนั้นเป็นอะไรที่ทำให้เริ่มหันมามองนาฬิกาที่ใช้หน้าปัดสีนี้กันมากขึ้น ถึงต้องตั้งคำถามว่า Seiko Diver Watch With Orange Dial รุ่นไหนที่น่าสนใจเก็บเข้ากรุ และในวันนี้เรามีคำตอบให้

Seiko Diver Watch With Orange Dial รุ่นไหนที่น่าสนใจเก็บเข้ากรุ
Seiko Diver Watch With Orange Dial รุ่นไหนที่น่าสนใจเก็บเข้ากรุ

Seiko Diver Watch With Orange Dial รุ่นไหนที่น่าสนใจเก็บเข้ากรุ

- Advertisement -

สำหรับนาฬิกาดำน้ำ หน้าปัดสีส้มเป็นอะไรที่นอกจากจะสวยโดดเด่นและลงตัวเมื่อตัดกับสีดำของหลักชั่วโมง และสายยางแล้ว มันยังมีประโยชน์ในเรื่องของสีสันและความสว่างในขณะใช้งานอีกด้วย และแน่นอนว่า Seiko เป็นขาประจำของการผลิตนาฬิกาดำน้ำหน้าส้มออกสู่ตลาดอย่างสม่ำเสมอ และเพื่อต้อนรับการหลับมาของ Orange Samurai เรามาดูกันว่า Seiko Diver Watch With Orange Dial รุ่นไหนที่น่าสนใจในการตามเข้ามาเก็บในกรุบ้าง

แต่ก่อนจะไปถึงเรื่องนั้น เรามาไขข้อข้องใจกับคำถามที่ว่า ทำไมต้องเป็นสีส้มสำหรับนาฬิกาดำน้ำกันก่อน และคำตอบที่เราหามาได้นั้นเป็นเพราะสีส้มเป็นสีที่มีความยาวคลื่นมากกว่าสีอื่นๆ และจะมีการเปลี่ยนสีออกในโทนสีฟ้าเมื่อดำดิ่งลงสู่ใต้ท้องทะเลลึกได้ช้าที่สุด อีกทั้งยังเป็นสีสุดท้ายที่คุณจะมองเห็นได้เมื่อดำลงไปยังความลึกที่แสงส่องลงมาได้เพียงเล็กน้อย

นาฬิกาดำน้ำสีส้มเริ่มเป็นที่สนใจและถูกนำมาใช้อย่างต่อเนื่องในช่วงทศวรรษที่ 1960 และ Doxa คือ ผู้นำในการพลิกโฉมหน้าวงการ ด้วยรุ่น SUB  Diver โดยมุ่งหวังเจาะกลุ่มเป้าหมายนักดำน้ำทั้งมืออาชีพ และมือสมัครเล่น โดยเหตุผลที่ทาง Doxa เลือกสีสัมนั้นก็เพราะว่าพวกเขานำสีสดๆ ทั้งหลายมาทดสอบภายใต้ความลึกที่จะต้องใช้งาน เพื่อดูว่าสีไหนจะสามารถให้ความเหมาะในด้านการ Contrast กันระหว่างพื้นหน้าปัด และสาร Tritium ที่ใช้แต้มบนเข็มฬิกา เพื่อช่วยในการเรืองแสง ผลคือ สีส้มดีที่สุด

กลับมาที่ Seiko แน่นอนว่าพวกเขาคือผู้ผลิตนาฬิกาดำน้ำชื่อดังที่สุดรายหนึ่งของโลก และมีประสบการณ์ รวมถึงองค์ความรู้ในเรื่องนี้มาตลอด 50 กว่าปีที่ผ่านมา อีกทั้งพวกเขายังเป็นขาประจำในการผลิตนาฬิกาดำน้ำหน้าสีส้มออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง และนี่คือ Seiko Diver Watch With Orange Dial ที่เรามองแล้วว่าคุณน่าจะเก็บเข้ามาอยู่ในกรุ

-Seiko Prospex SBDC005 ‘Orange Sumo’ : 1 ใน 3 สีที่เปิดตัวออกมาพร้อมกับ Sumo และในช่วงก่อนที่จะมีเฟซบุ๊คกลุ่ม SMT ขึ้นมา บอกเลยว่าเป็นสีที่อาภัพที่สุด ขายราคาถูกที่สุด และขายต่อยากที่สุด เอาเป็นว่าผมเคยซื้อมามือ 1 ในราคา 12,000 บาทนิดๆ (ในขณะที่รุ่นหน้าดำกับน้ำเงินอยู่ที่ 15,000 บาท) พอตอนอยากขายต่อ ตั้ง 10,000 บาทอยู่ตั้งนาน สุดท้ายต้องลดเหลือ 9,000 บาทถึงจะขายออก แต่กับราคาตอนนี้นะหรือ ไปไกลสุดๆ ชนิดติดจรวจ

-Seiko H558-500A ‘Orange Arnie’ : อีกรุ่นคลาสสิคในกลุ่มนาฬิกาดำน้ำที่ผลิตออกมาขายในยุคทศวรรษที่ 1980 และเหตุที่เรียกว่า Arnie ก็เพราะนี่คือนาฬิกาที่อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ใส่เข้าฉากในภาพยนตร์เรื่อง Predator ภาคแรก แต่ตามปกติแล้วเราจะคุ้นเคยกับหน้าดำเป็นหลัก ซึ่งความจริงมันมีหน้าส้มขายคู่กันด้วย

-Seiko Prospex SRP589 ‘Orange Mohawk’ : นาฬิกาในกลุ่ม Prospex ที่ดูจะไม่ค่อยฮิตในบ้านเราเท่าที่ควร และที่เห็นตามตู้ส่วนใหญ่ก็จะมีแต่รุ่นหน้าดำ แต่จริงๆ แล้ว Mohawk มีรุ่นหน้าส้มอยู่ด้วย เพียงแต่ในบ้านเราเท่าที่เช็คดูไม่เคยเห็นมีใครขายเลย ซึ่งงานนี้ถ้าสนใจอาจจะต้องอิมพอร์ตจากต่างแดนเพียงอย่างเดียว

-Seiko SRP497 ‘Orange Stargate II’ : ถือเป็นอีกรุ่นที่สวยและลงตัวมากทั้งหน้าดำเข็มแดง และเรือนดำเข็มเหลือง รวมถึงตัวหน้าส้ม แต่ด้วยการที่เป็นนาฬิกาที่คนไม่นิยม ก็เลยทำให้ถูกเมินและมองข้ามอยู่เสมอ ซึ่งสำหรับหน้าส้มมีสีสันที่โดดเด่นมาก และยิ่งตัวกระจกมี Cyclop มาให้ด้วย ยิ่งทำให้ Stargate II หน้าส้มมีความน่าสนใจมากขึ้น

-Seiko SKX011 : น่าจะเรียกว่าเป็นนาฬิกาดำน้ำที่คลาสสิคอีกรุ่นของ Seiko ที่ยังมีขายอยู่ในตลาด แต่เราจะคุ้นเคยกับนาฬิกาตระกูลนี้ผ่านทางหน้าดำกับขอบ Pepsi มากกว่า ทั้งที่จริงๆ แล้ว Seiko มีหน้าส้มทำตลาดด้วย และต้องยอมรับว่าสวยเลยทีเดียว

-Seiko SKXA55 ‘Orange Bullet’ : เจ้าของฉายา Bullet กับหน้าตาและดีไซน์ที่สวยและดูสปอร์ตขึ่นจากรุ่น SKX007/009 โดยในรุ่นนี้มีขายหน้าส้มด้วย และใช้กลไก 7S26 เหมือนกับรุ่นปกติ

-Seiko Prospex SBDC009 ‘Orange Shogun’ : น่าจะเรียกว่าเป็น The Grail  ของ Seiko รุ่นหนึ่งเลยทีเดียว และมีขายควบคู่กับรุ่นปกติที่เป็นหน้าดำ แต่เมื่อมีการปรับโฉมเปลี่ยนรหัสและใช้หน้าปัดแบบมีโลโก้ X หน้าสีส้มก็ไม่มีผลิตขายอีกต่อไป

-Seiko Night Monster SZEN009 : หนึ่งใน 5 สีของนาฬิกาในตระกูล Night Monster ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่ผลิตและ MOD ขายเฉพาะร้านในญี่ปุ่นเท่านั้น มากับตัวเรือนสีดำเคลือบ PVD และใช้กลไก 7S26 ซึ่งเป็นเครื่องเดิมของ Monster Classic

-Seiko SRP251 ‘Orange Sardine’ : ว่ากันว่ามันคือ Limited สำหรับผลิตขายในตลาดเกาหลี และมีขายเพียง 400 เรือน แต่เมื่อพลิกดูด้านหลังบนฝาหลังก็ไม่ได้มีการสลักเรือนที่ผลิตและจำนวนที่ผลิตตามแบบฉบับพวก LE เลย

-Seiko SBDA005  ‘Orange Samurai’ : เป็นอีกรุ่นที่มาพร้อมกับความสวยและลงตัว อีกทั้งยังถือว่าหาค่อนข้างยากเมื่อเปรียบเทียบกับหน้าดำ และหน้าฟ้า โดยตัวเรือนผลิตจากไทเทเนียม แต่มีขนาดเล็กกว่ารุ่นใหม่ เพราะมีเส้นผ่านศูนย์กลางแค่ 42 มิลลิเมตรเท่านั้น

-Seiko SNM037 : จริงๆ แล้วนาฬิการุ่นนี้จัดอยู่ในคอลเล็กชั่นของ Land Monster ที่ไม่เน้นในการดำน้ำเท่าไร แต่ทว่าบนหน้าปัดกลับมีเขียนว่า Diver’s200 เมตร นั่นหมายความว่ามันสามารถที่จะลงน้ำด้วยมาตรฐานเดียวกับพวก Diver Watch ตัวนาฬิกามากับกลไก 7S35 แบบ Date และขอบ Bezel สีดำ ซึ่งสวยและตัดกันอย่างลงตัวกับหน้าปัดส้ม

-Seiko SKX781 ‘Orange Monster’ : เราเลือกเอาตัวคลาสสิคมากกว่า The Fang ซึ่งเป็นรุ่นใหม่กว่า เพราะ Monster หน้าสมที่มาพร้อมกับหลักชั่วโมงซึ่งมีตัวเลขวินาทีกำกับด้วยนั้น เป็นอะไรที่คลาสสิคมาก แม้ว่ากลได 7S26 จะไม่สามารถ Hack เข็มวินาทีได้ แต่ก็แลกมาด้วยความทนทาน และการดูแลรักษาที่ง่ายขึ้น

-Seiko SBDC023 ‘Orange Monster JDM’ : เป็น 1 ใน 2 เรือนที่ถูกผลิตออกมาสำหรับโปรเจ็กต์ Monster JDM ที่มีหน้าดำและหน้าส้ม โดยจับเอากลไก 6R15 ของ Sumo มาใส่ในร่างของ Monster และเปลี่ยนหน้าปัด และกระจกให้มีเลส์ Cyclop ตรงช่อง Date ในปัจจุบัน Discontinued ไปแล้ว และหาไม่ค่อยง่ายตามตลาดมือสองในบ้านเรา