Seiko เฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 110 ปีของการผลิตนาฬิกาเรือนแรกอย่างรุ่น Laurel ที่เปิดตัวในปี 1913 โดยจะมีการผลิตออกมาทั้งหมด 11 รุ่นจากคอลเล็กชั่น Presage, Astron, Prospex, Lukia, 5 Sports และ Seiko collection โดยทุกรุ่นขายในญี่ปุ่น ส่วนในตลาดโลกจะมีเพียงแค่ 7 รุ่นเท่านั้น
Seiko Celebrating 110 years of Watchmaking ฉลองช่วงเวลาพิเศษด้วยนาฬิการุ่นใหม่
-
คอลเล็กชั่นใหม่สำหรับฉลองโอกาสครบรอบ 110 ปีของการผลิตนาฬิกาข้อมือเรือนแรกของ Seiko
-
มีจำหน่ายทั้งหมด 11 รุ่นจากคอลเล็กชั่น Presage, Astron, Prospex, Lukia, 5 Sports และ Seiko collection
-
บางรุ่นมีขายเฉพาะในญี่ปุ่น ส่วนในตลาดโลกมีขายจริงๆ 7 รุ่นเท่านั้น
เรื่องของการฉลองครบรอบ 110 ปีในการผลิตนาฬิกาเรือนแรกของ Seiko ยังเป็นหัวข้อในการนำเสนอนาฬิการุ่นพิเศษออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง และในตอนนั้ทางแบรนด์ได้เปิดตัวนาฬิกา 11 รุ่นที่อยู่ในเซ็ต Celebrating 110 years of Watchmaking ของ Seiko ออกมาแล้ว โดยทั้งหมดจะเป็นเวอร์ชันสำหรับขายในตลาดญี่ปุ่น ส่วนในตลาดโลกจะมีจำหน่ายเพียงบางรุ่นเท่านั้น ซึ่งคาดว่าน่าจะมีเพียงแค่ 7 รุ่นย่อยเท่านั้น
หลังจากที่ทาง Kintaro Hattori (คินทาโร ฮัตโตริ) ผู้ก่อตั้ง Seiko ได้เปิดร้านเซอร์วิสและจำหน่ายนาฬิกาของตัวเองแถวย่านกินซ่าของกรุงโตเกียวในปี 1881 ได้ไม่นาน เขาก็เปิดตัวนาฬิกาข้อมือเรือนแรกของ Seiko ออกมาในชื่อ Laurel เมื่อปี 1913 ซึ่งถือเป็นนาฬิกาที่ได้วางรากฐานในด้านการออกแบบและงานฝีมือที่ถูกส่งผ่านมายังนาฬิการุ่นต่อๆ มาของ Seiko
ดังนั้น ในวาระของการครบรอบ 110 ปีของการผลิตนาฬิกาข้อมือเรือนแรกของแบรนด์ ทาง Seiko ได้เปิดตัวคอลเล็กชั่นสุดพิเศษที่มีชื่อว่า Celebrating 110 years of Watchmaking ซึ่งประกอบไปด้วยนาฬิกาจากคอลเล็กชั่นหลักๆ ของแบรนด์ เช่น Presage, Prospex, Astron, 5 Sports, Lukia
ซึ่งแต่ละรุ่นจะมีจุดร่วมที่เหมือนกันคือ การใช้กิมมิคของสีแดงที่ปรากฏอยู่ในนาฬิการุ่น Laurel มาใช้กับตำแหน่งมาร์คเกอร์สำคัญบนหน้าปัด นั่นคือ ตรงหลัก 12 ชั่วโมง และทุกรุ่นที่ใช้สายหนังจะเป็นสายหนังที่ได้รับการรับรองจาก Leather Working Group
สำหรับตลาดญี่ปุ่นจะมีจำหน่ายด้วยกัน 11 รุ่น คือ
-
SARW071 ในตลาดญี่ปุ่น หรือ SPB401 ในตลาดโลก
โดยเป็นผลผลิตจากคอลเล็กชั่น Presage Craftmanshio Series ซึ่งเน้นความสวยงามและความประณีตด้วยหน้าปัดแบบเอนาเมลที่ผลิตโดย Mitsuru Yokosawa และทีมงานของเขา พร้อมกับการถอดแบบความสวยงามมาจาก Laurel
แต่มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ มากับตัวเรือนขนาด 40.2 มิลลิเมตร พร้อมกลไกอัตโนมัติ 6R27 มีกำลังสำรอง 45 ชั่วโมง พร้อมฟังก์ชั่นทั้งมาตรวัดแสดงระดับกำลังสำรองในตำแหน่ง 9 นาฬิกา และหน้าปัดย้อยในการแสดงวันที่แบบ Pointer Date ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา มีการผลิตออกมาทั้งหมด 1,500 เรือน และจะเป็นรหัสญี่ปุ่นจำนวน 300 เรือน ส่วนราคาอยู่ที่ 165,00 เยน
-
SARX113 ในตลาดญี่ปุ่น หรือ SPB413
เป็นนาฬิกาจากคอลเล็กชั่น Sahrp Edged Series ของ Presage โดดเด่นด้วยตัวเรือนที่มีเส้นสายที่เฉียบคมให้ความสปอร์ตแต่ก็แฝงด้วยความหรูหรา มากับตัวเรือน 40.2 มิลลิเมตร ขับเคลื่อนด้วยกลไก 6R55 ที่มีกำลังสำรอง 3 วันหรือ 72 ชั่วโมง บนหน้าปัดสีขาวมากับลาย Asanoha หรือลาย Hemp Leaf พร้อมกับกิมมิกขีดแดงในตำแหน่ง 12 นาฬิกาบน Railtrack ที่อยู่รอบนอกของขอบหน้าปัด มีการผลิตออกมา 2,000 เรือนและเป็นรหัสญี่ปุ่น 300 เรือน มีราคาอยู่ที่ 143,000 เยน
-
SARY223 ในตลาดญี่ปุ่น หรือ SSK015
ใช้ตัวเรือน Style60’s GMT ซึ่งขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ 4R34 มีกำลังสำรอง 41 ชั่วโมง พร้อมฟังก์ชั่นบอกเวลาที่ 2 หรือ GMT นาฬิกาเรือนนี้มากับชุดเข็มสีน้ำเงิน ซึ่งก็รวมถึงเข็มในการแสดงเวลาที่ 2 หรือ GMT ด้วย ซึ่งจะช่วยเพิ่มความโดดเด่นที่ตัดกับพื้นหน้าปัด ส่วนอินเนอร์ริงที่อยู่ด้านในหน้าปัดจะมีเครื่องหมายสีแดงเล็กๆ อยู่ในตำแหน่ง 12 นาฬิกาซึ่งจะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการระบุเวลาในส่วนของนาทีและวินาที มีการผลิตทั่วโลก 3,500 เรือนและเป็นรหัสญี่ปุ่น 300 เรือน โดยราคาอยู่ที่ 84,700 เยน
-
SBEJ017 ในตลาดญี่ปุ่น หรือ SPB409 ในตลาดโลก
เป็นนาฬิกาในกลุ่ม Prospex และ Seiko เลือกหยิบเอารุ่น Alpinist GMT ที่เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดมาสร้างสรรค์กับตัวเรือนขนาด 39.5 มิลลิเมตร มาพร้อมสายสตีลและสายหนังในเซ็ต โดยรุ่นนี้ติดตั้งกลไกแบบ GMT จากตระกูล 6R ในรหัส 6R54 ที่มีความทนทานและมั่นใจได้ในการใช้งาน พร้อมกับระดับกำลังสำรองอยู่ที่ 72 ชั่วโมง พร้อมหน้าปัดที่มีการใช้สีแดงตรงตำแหน่งทิศเหนือบนอินเนอร์ริงแบบหมุนได้ การผลิตมีจำนวน 3,000 เรือนและเป็นรหัสญี่ปุ่น 300 เรือน มีราคาอยู่ที่ 181,500 เยน
-
SBER009 ในตลาดญี่ปุ่น และรหัส SFJ009 ในตลาดโลก
สร้างสรรค์บนตัวเรือนของนาฬิกา Sppedtimer รุ่นล่าสุดนั่นคือ Speedtimer Solar Chronograph ซึ่งสามารถจับเวลาได้ละเอียดในระดับ 1/100 วินาที สำหรับหน้าปัดย่อยในตำแหน่ง 2, 10 และ 12 นาฬิกาถือว่าอยู่ในตำแหน่งที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนและในรุ่นพิเศษนี้เสริมความเด่นด้วยเข็มโทนสีแดงที่เป็นการแสดงความเคารพและยกย่องต่อ Laurel บนตัวเรือนขนาด 42 มิลลิเมตร ซึ่งมากับสายสตีลและมีสายหนังเพิ่มอีกเส้นในเซ็ต ขณะที่กลไกในการขับเคลื่อนเป็นแบบ Solar Quartz Chronograph ในรหัส 8A50 การผลิตมีจำนวน 3,500 เรือนและมีขายในญี่ปุ่น 500 เรือน โดยมีราคาอยู่ที่ 137,500 เยน
-
SBXD019 ในญี่ปุ่น และ SSJ019 ในตลาดโลก
เป็นคอลเล็กชั่น Astron รุ่นล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวออกมากับกลไก 3X62 ซึ่งมีความเที่ยงตรงและประสิทธิภาพในการปรับเวลาได้อย่างรวดเร็วหลังจากรับสัญญาณดาวเทียม ตัวนาฬิกาผลิตจากไทเทเนียมและมากับสายหนัง โดยเส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือนอยู่ที่ 41.2 มิลลิเมตร มีการผลิต 800 เรือน ในจำนวนนั้นเป็นรหัสญี่ปุ่น 300 เรือน มีราคาอยู่ที่ 220,000 เยน
-
SBXY069 มีขายเฉพาะในญี่ปุ่น
เป็นนาฬิกาในกลุ่ม Astron เช่นกัน โดยมีขนาด 41.3 บนตัวเรือนไทเทเนียมและสายหนัง ในรุ่นนี้ใช้กลไกในรหัส 8B63 แบบปรับเวลาตามสัญญาณ GPS และชาร์จกระแสไฟฟ้าผ่านทางแสงอาทิตย์ มีการผลิต 300 เรือน และมีราคาอยู่ที่ 132,000 เยน
-
SBSA241 ในญี่ปุ่น หรือ SRPK41 ในตลาดโลก
จากรุ่น 5 Sports ที่เป็นเวอร์ชันนาฬิกา Field Watch ซึ่งมากับตัวเรือนและสายสตีล พร้อมกับสายหนังเพิ่มอีกเส้น ตัวนาฬิกามีขนาด 39.4 มิลลิเมตร ความพิเศษอยู่ที่ตัวเลขด้านในของเวลาที่เป็นแบบ 24H จะเป็นสีแดงทั้งหมด ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติในรหัส 4R36 มีกำลังสำรอง 41 ชั่วโมง การผลิตมีจำนวนทั้งหมด 6,000 เรือนและเป็นรหัสญี่ปุ่น 300 เรือน ส่วนราคาอยู่ที่ 56,100 เยน
-
SSVW223 มีจำหน่ายเฉพาะในญี่ปุ่น
เป็นนาฬิกาสำหรับผู้หญิงจากคอลเล็กชั่น Lukia มีขนาด 27.5 มิลลิเมตรตัวเรือนและสายผลิตจากสแตนเลสสตีล ขับเคลื่อนด้วยกลไกควอตซ์ในรหัส 1B32 แบบ Solar พร้อมปรับเวลาตามคลื่นวิทยุ มีการผลิตออกมาเพียง 300 เรือนและมีราคาอยู่ที่ 79,200 เยน
-
SBPX149 และ STPX099 มีจำหน่ายเฉพาะในญี่ปุ่น
มีขาย 2 รุ่นคือ สำหรับผู้ชาย และผู้หญิง ซึ่งมีขนาดตัวเรือน 38.7 มิลลิเมตร ขับเคลื่อนด้วยกลไกควอตซ์แบบ Sola ในรหัส V157 และ 27.8 มิลลิเมตรสำหรับผู้หญิงขับเคลื่อนด้วยกลไก Solar ในรหัส V137 โดยรูปลักษณ์ถอดแบบมาจาก Presage แต่เป็นนาฬิกาในกลุ่ม Seiko Collection การผลิตอยู่ที่รุ่นละ 500 เรือน และมีราคาอยู่ที่ 36,300 เยนเท่ากันทั้ง 2 รุ่น
นาฬิกาทั้งหมดจะเริ่มวางจำหน่ายและทำตลาดในเดือนตุลาคมนี้ โดยจะเริ่มจากญี่ปุ่น และประเทศต่างๆ ทั่วโลก ใครที่สนใจก็เตรียมงบฯ กันเอาไว้ได้เลย
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline