ภาพแรกที่ได้เห็นหลังจากที่ Seiko นำมาอวดโฉมที่งานประชุมดีลเลอร์ของตัวเอง คือ ความสวยและความลงตัว ซึ่งนั่นทำให้ Seiko 5Sports SRPD08K เป็น Limited Edition ที่น่าสนใจรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว

Seiko 5Sports SRPD08K ความสวยจากทะเลสาบน้ำใส

• ตกแต่งเพิ่มเติมจากรุ่น Seiko Submariner (SNF17K1)

• เป็น Limited Edition ที่ได้แรงบันดาบใจมาจากทะเลสาบ Mashu บนเกาะฮ็อคไกโด

• ผลิตเพียง 1,963 เรือน และมีราคาป้าย 13,500 บาท

ตามปกติแล้วถ้าไม่ใช่รุ่นราคาแพงๆ ผมไม่ค่อยให้ค่าความเป็น Limited Edition ของ Seiko สักเท่าไร ส่วนเหตุผล ? ผมเชื่อว่าคนที่เวียนว่ายอยู่กับแบรนด์นี้มานานคงทราบกันดี เพราะมันออกมาเยอะจนเฝือและแทบไม่เหลือคุณค่าเลย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะไม่ควักเงินซื้อนะครับ เพียงแต่เหตุผลที่ทำให้เสียเงิน ไม่ใช่คำว่า Limited หรือ Special Edition รวมถึงจำนวนการผลิตของมัน แต่เป็นสิ่งที่มีอยู่ในตัวนาฬิกาเรือนนั้นเอง เหมือนอย่างที่ผมสนใจเจ้า Seiko 5Sports SRPD08K ที่ผลิตออกสู่ตลาด 1,963 เรือน

จริงๆ ตอนแรกผมทำท่าว่าจะวางเฉยกับนาฬิการุ่นนี้สักหน่อย เพราะตอนนี้อยู่ในช่วงของการปรับกรุ หลังจากที่กระหน่ำช้อปมาจนล้นกล่องแล้ว แต่หลังจากได้รับการติดต่อจากคุณป็อบแห่ง Excel Watch พร้อมกับมีภาพส่งมาให้ดูในแต่ละมุม บอกเลยว่า ค่อนข้างถูกใจ และเชื่อว่ารุ่นนี้น่าจะมียอดขายที่ค่อนข้างดีด้วยเหตุผล 2-3 ประการ

ข้อแรก มันเป็น LE ที่พัฒนามาจาก Seiko Submariner (SNF17K1) ที่หลายๆ คนเรียก หรือมีชื่อเล่นอย่างเป็นทางการว่า Sea Urchin หรือเจ้าเม่นทะเล ซึ่งถือเป็นนาฬิกาหลักพันในกลุ่ม 5Sports ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเพราะขนาดตัวเรือนที่ไม่ใหญ่เกินไป ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 41 มิลลิเมตร และหน้าตาดูดี แต่เหตุผลลึกๆ ผมเชื่อว่าเพราะมีคนไปตั้งฉายาว่าเป็น Submariner ซะมากกว่า

ข้อที่ 2 การให้สีสันบนตัวเรือนในแบบขาว-ฟ้า ซึ่งผมสังเกตมาหลายครั้งแล้วว่า เป็นสีที่สะดุดตา และมักจะเรียกลูกค้าได้เสมอ เหมือนกับคอลเล็กชั่น Mt.Fuji Heritage ที่ผลิตออกมาก่อนหน้านี้สัก 2-3 ปี

ข้อที่ 3 คือ การอัพเกรดสเป็กจาก SNF17K1 โดยเฉพาะกลไกที่มีการเปลี่ยนจาก 7S26 มาเป็น 4R36 ที่สามารถ Hack เข็มวินาทีได้ และขึ้นลานมือได้ ส่วนการสำรองพลังงานก็ไม่ได้ต่างอะไรกันมาก อยู่ในระดับ 40 ชั่วโมงโดยประมาณ

สำหรับเจ้า Sea Urchin ผมว่ามันเป็นนาฬิกาที่มีหน้าตามาตรฐาน คือ ไม่มีบวกหรือลบสำหรับคนที่ได้เห็น แต่ในมุมของผมเลยทำให้มันหลายเป็นความน่าเบื่อ เพราะขาดสีสันไปหน่อย แต่เมื่อมีการปรับเป็นรุ่น SRPD08K แล้ว ยอมรับเลยว่าการเลือกใช้สีขาวสลับฟ้ามาเป็นสีหลักในการตกแต่งนั้น ช่วยทำให้หน้าตาจืดๆ ของ Sea Urchin มีสีสันมากขึ้น และส่วนตัวผมเป็นคนที่แพ้ทางนาฬิกาที่มาพร้อมกับหน้าปัดสีขาว และยิ่งมีสีฟ้าเข้ามามีส่วนในการเพิ่มความงาม อันนี้ยิ่งไปกันใหญ่ ส่วนหนึ่งคงเป็นปมตั้งแต่สมัยที่ชอบเจ้า Omega Speedmaster Moonphase 1866 หน้าฟ้าเข็ม Board Arrow ที่เลิกผลิตไปแล้ว

การเลือกใช้โทนสีนี้มีที่มาที่ไป ไม่ใช่อยู่ดีๆ นึกจะทำก็จับใส่เข้ามา ซึ่งทาง Seiko บอกว่าเป็นคอลเล็กชั่นที่ผลิตขึ้นมาโดยมีแรงบันดาลใจมาจากทะเลสาบ Mashu ซึ่งตั้งอยู่ในอุทธยานแห่งชาติ Akan บนเกาะฮ็อกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งที่นี่มีความโดดเด่นในเรื่องของความสวยงามของธรรมชาติโดยรอบ และมีน้ำที่ใสมากชนิดที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นทะเลสาบที่มีน้ำที่ใสที่สุดในโลกกันเลยทีเดียว และเป็นทะเลสาบที่มีระดับความลึกที่สุดในญี่ปุ่น ด้วยตัวเลขประมาณ 40.5 เมตร

ดังนั้น สีขาวและสีฟ้า รวมถึงสีน้ำเงินที่นำมาใช้ในส่วนของขอบสเกลบน Bezel และสายยางที่แถมมาให้ในกล่องนั้น จึงเป็นตัวแทนของความใสสะอาดของน้ำในทะเลสาบ และหิมะที่ปกคลุมทั้งบนยอดเขาและบนทะเลสาบในช่วงฤดูหนาว และทำให้ภาพรวมของตัวนาฬิกาดูสวยและโดดเด่นขึ้นอย่างมาอย่างชัดเจน

เช่นเดียวกับ SNF17K1 ในรุ่น LE1 มากับฝาหลังใสที่สามารถมองเห็นกลไก 4R36 ตัวกระจกด้านหน้ายังเป็นแบบ Hardlex Crystal ไม่ได้มีการเปลี่ยนเป็น Sapphire และก็ไม่มีเลนส์นูนหรือ Cyclop ตรงตำแหน่งช่อง Day/Date เหมือนกับรุ่นอื่นๆ ซึ่งโดยปกติแล้ว Seiko มักจะชอบทำแบบนี้ในรุ่น Limited Edition

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ดีของตัวนาฬิกาก็มีแต่จุดที่ผมไม่ค่อยถูกใจในแง่รสนิยมส่วนตัวก็มีบ้างในแง่ของความสมดุลระหว่างเส้นผ่านศูนย์กลางของตัวเรือนกับขนาดความกว้างของขาสาย ซึ่งนาฬิกาไซส์ 41 มิลลิเมตรกับความกว้างขาสาย 22 มิลลิเมตร ผมว่ามันไม่ค่อยสมดุลสักเท่าไรตอนที่หาสายหนังสวยๆ มาเปลี่ยน แทนที่จะช่วยทำให้ขอบโค้งเว้าของตัวนาฬิกามีความเด่นขึ้นมากลับกลายเป็นทำให้นาฬิกาดูเป็นแท่งตรงๆ

นอกจากนั้น กับประเด็นราคาตามป้าย ซึ่งตั้งอยู่ที่ 13,500 บาทเมื่อเปรียบเทียบกับ SNF17K1 ซึ่งมีราคาป้ายราวๆ 10,500 บาทนั้น ถ้าผมตัดเรื่องของ Passion กับความชอบที่ตีออกมาเป็นตัวเลขไม่ได้ไปก่อน ส่วนต่างประมาณนี้ผมถือว่ารับได้กับสิ่งที่เพิ่มขึ้นและมีอยู่ใน SRPD08K เพราะคุณจะได้ทั้งความพิเศษที่แตกต่างจากรุ่นปกติในเชิงรูปลักษณ์ สายยางสีน้ำเงินสำหรับเอาไว้แก้เบื่อเผื่อจะไม่ชอบใส่สายเหล็ก และกลไกที่ถูกเปลี่ยนจาก 7S26 มาเป็น 4R36 ที่มีฟังก์ชั่นเพิ่มขึ้นอีกหน่อย

แต่พอมาเป็นราคาหลักหักส่วนลดแล้ว ด้วยความที่ SRPD08K เป็น Limited Edition และในช่วงแรกของการทำตลาดมีการตอบรับที่ดี ส่วนลดสำหรับ SRPD08K เลยมีน้อยไปหน่อย นั่นเลยทำให้ส่วนต่างในด้านราคากับรุ่น SNF17K1 หลังหักส่วนลดที่เราหาได้นั้น ต่างกันค่อนข้างเยอะมาก เอาเป็นว่าต่างกันถึงระดับครึ่งหมื่นเลยทีเดียว ถ้าได้ส่วนลดจากที่เห็นตามตลาด ณ ตอนนี้ จะช่วยตัดสินใจได้ง่ายขึ้นอย่างมาก

และก็อย่างที่บอกตั้งแต่แรกว่ามันเป็นการเปรียบเทียบแบบตัด Passion ออก แต่ถ้ามีเรื่องนี้เข้ามาเกี่ยวแล้ว ประเด็นความต่างของราคาหลังหักส่วนลดที่ค่อนข้างเยอะก็จะไม่ใช่สิ่งที่น่าติดใจอะไรอีกเลย เพราะต้องยอมรับว่า นี่คือ นาฬิกาที่ดูสวยและลงตัวรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว

ใครที่สนใจก็ลองติดต่อที่นี่ได้เลยครับ www.excel-watch.com

ขอบคุณข้อมูลจาก : www.excel-watch.com

ข้อมูลทางเทคนิค : Seiko 5Sports SRPD08K

• ขนาดเส้นผ่านศุนย์กลาง : 41 มิลลิเมตร
• ความหนา : 13 มิลลิเมตร
• ความกว้างขาสาย : 22 มิลลิเมตร
• ระดับการกันน้ำ : 100 เมตร
• กลไก : 4R36 แฮ็คเข็มวินาทีได้ และขึ้นลานมือได้
• ความถี่ : 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง (3Hz)
• จำนวนทับทิม : 24 เม็ด
• พลังงานสำรอง : 41 ชั่วโมง

• ประทับใจ : สีสัน รูปลักษณ์โดยรวม
• ไม่ประทับใจ : ส่วนลดช่วงนี้ยังน้อยไปหน่อย ความไม่สมดุลของขนาดตัวเรือนและความกว้างขาสาย
  

Fanpage : https://www.facebook.com/anadigiwatch/