บทสัมภาษณ์ Richard ‘Ipy’ Siegrist ชายผู้อยู่เบื้องหลังในการนำนวัตกรรมการผลิตที่ล้ำสมัยทางวิทยาศาสตร์มาผนวกเข้ากับการผลิตเรือนเวลาจักรกลแบบดั้งเดิม ถ้าสังเกตให้ดีเราจะพบว่าในช่วงปีสองปีที่ผ่านมา Oris ได้นำ 2 สิ่งนี้เข้ามาผสมผสานกัน ซึ่งก็รวมถึงนาฬิการุ่นล่าสุดของพวกเขาอย่าง ProPilot X Calibre 400 Laser
Richard Ipy Siegrist ผู้อยู่เบื้องหลังโปรเจ็กต์ด้านนวัตกรรมของ Oris
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราได้เห็น Oris นำกระบวนการผลิตในเชิงนวัตกรรมและวิทยาศาสตร์เข้ามาผสมผสานในการสร้างสรรค์เรือนเวลาของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็น ProPilot Coulson Limited Edition และ ProPilot Altimeter รุ่นใหม่ล่าสุด ไล่มาจนถึงรุ่น ProPilot X Calibre 400 Laser โดยทั้งหมดมีชายคนหนึ่งอยู่เบื้องหลังในการทำงาน นั่นคือ Richard Ipy Siegrist
Richard Ipy Siegrist ดูแลด้านการพัฒนาหน้าปัดอันเป็นเอกลักษณ์ของ Laser เขาจะมาอธิบายถึงวิธีการทำงาน และเรื่องราวเกี่ยวกับการผลิตนาฬิกาของ Oris
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
ss |
Q : Richard หรือเราควรเรียกคุณว่า Ipy? ช่วยเล่าเกี่ยวกับตัวคุณ…
A : ผมชื่อ Richard Siegrist แต่ทุกคนเรียกผมว่า Ipy ที่มาจากชื่อ Ipyana ผมได้ชื่อนี้มาจากประเทศแทนซาเนีย ซึ่งเป็นที่ที่ผมเกิดและอาศัยอยู่จนถึงอายุเจ็ดขวบ ตอนนี้ผมอายุ 35 ปี แต่งงานแล้วกับหญิงสาวแสนสวยชาวอิตาเลียน และอาศัยอยู่ในเมือง Basel โดยการศึกษาผมเป็นวิศวกรด้านงานไม้ ที่บ้านผมมีร้านขายไม้เล็กๆที่ทำเฟอร์นิเจอร์ หรือปรับแต่งสิ่งที่หาได้จากตลาดนัด ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว พวกเราจะออกไปล่าเห็ดทรัฟเฟิลกับสุนัขของเรา ซึ่งเป็นวิธีที่ดีในการได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ
Q : และช่วยเล่าเรื่องราวของคุณเกี่ยวกับ Oris ?
A : ผมเข้ามาร่วมงานกับ Oris ในตำแหน่งวิศวกรฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ตั้งแต่เมื่อสี่ปีที่แล้ว งานของผมคือการค้นหาและพัฒนาวัสดุที่เป็นนวัตกรรม รวมถึงกระบวนการผลิตใหม่ๆ ที่สามารถนำมาผนวกเข้ากับนาฬิกาได้ นอกจากนี้ผมกำลังพัฒนาฟังก์ชั่นใหม่ๆ ที่ไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยกลไกของนาฬิกา ซึ่งได้รับการดูแลโดยแผนกที่แยกออกมาต่างหาก
Q : โครงการใดบางที่คุณได้มีส่วนร่วมทำ?
A : การพัฒนาที่ผมทำอยู่ต้องใช้เวลาหลายปีกว่าที่จะเปิดเผยออกมา ดังนั้นงานส่วนใหญ่ของผมจึงเพิ่มเริ่มปรากฏออกมาให้เห็นในตอนนี้ ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดคือตัวเรือนคาร์บอนไฟเบอร์คอมโพสิตจากกระบวนการ 3D Printing ที่พวกเราพัฒนาขึ้นร่วมกับ 9T labs ซึ่งพวกคุณได้เห็นในรุ่น Coulson Limited Edition และ ProPilot Altimeter รุ่นล่าสุด นี่เป็นหนึ่งในโปรเจ็กต์แรกๆของผมและใช้เวลาสามปีในการเปิดตัว ดังนั้นคุณต้องมีความอดทนอย่างมากในงานนี้! แต่ผมชอบที่ได้แก้ไขปัญหา และสิ่งนี้ช่วยได้มากสำหรับ Oris ผมชอบในความเป็นอิสระของบริษัทที่ดำเนินงานตามวิถีทางของตนเอง
Q : มาพูดถึงหน้าปัดของ Laser กระบวนการสร้างสรรค์เกิดขึ้นมาอย่างไร?
A : สิ่งที่คุณกำลังมองเห็นอยู่เรียกว่า การแทรกสอดกันของแสง (optical interference) ซึ่งคุณจะเห็นหน้าปัดที่มีสีสันสวยงาม ตั้งแต่สีน้ำเงินไปจนสีเขียว ไปจนสีม่วง โดยไม่มีเม็ดสีแม้เพียงหยดเดียวบนหน้าปัดนาฬิกา ทุกสิ่งเกิดขึ้นจากกระบวนการเลเซอร์หน้าปัดไทเทเนียมของนาฬิกา ในลักษณะที่คลื่นแสงที่สะท้อนกลับมาที่ดวงตามีเพียงสเปกตรัมของแสงที่มองเห็นได้บางช่วงเท่านั้น จึงทำให้คุณสัมผัสถึงสีสันได้ แสงปกติจะประกอบด้วย แสงสีที่รวมกันเรียกว่าสเปกตรัมของแสงสีขาวที่สามารถมองเห็นได้ มีด้วยกันเจ็ดสีได้แก่ ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง ส้ม แดง (และสีอื่นๆที่ไม่สามารถมองเห็นได้) ในช่วงระยะหนึ่ง แสงสีแดงเป็นแสงที่ความยาวคลื่นยาว จึงมีการหักเหผ่านตัวกลางได้น้อย จึงมีเพียงแสงสีเขียวที่ความยาวคลื่นปานกลาง และแสงสีน้ำเงินที่ความยาวคลื่นสั้นที่ตกกระทบกับวัตถุแล้วสะท้อนเข้าสู่ดวงตา มันเป็นการสร้างสรรค์สีเพิ่มเติมเข้าไป นอกจากนี้เราได้เพิ่มเลเยอร์ชั้นที่สองที่แยกแสงที่สามารถมองเห็นออกเป็นส่วนๆ และสร้างเอฟเฟกต์สีรุ้งที่ส่องประกาย ซึ่งการที่จะเห็นสีเหล่านี้ขึ้นอยู่กับมุมในการมองของคุณ
Q : ว้าว! และนี่คือครั้งแรกในกระบวนการการผลิตนาฬิกาเลยใช่หรือไม่?
A : ใช่ ต้องขอบคุณกระบวนการการเลเซอร์นี้ เราจึงสามารถผสมผสานการสร้างสรรค์สีเข้ากับเอฟเฟกต์แวววาวได้ ซึ่งกระบวนการนี้ต้องใช้เวลาหลายปีในการวิจัยและระยะเวลาลองผิดลองถูก เราเป็นเพียงผู้เดียวในอุตสาหกรรมที่ทำสิ่งนี้ มันเป็นความงดงามทางเทคโนโลยีที่น่าหลงใหลที่สุด
Q : ความงดงามทางเทคโนโลยีคืออะไร?
A : กล่าวง่ายๆ คือการสร้างสรรค์สิ่งสวยงามด้วยกระบวนการทางเทคโนโลยีขั้นสูง เรากำลังใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อเผยให้เห็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ คล้ายกับการเลียนแบบทางชีวภาพ มีสัตว์หลายชนิดที่สร้างสีสันด้วยเอฟเฟกต์แบบเดียวกัน อย่างเช่น ผีเสื้อ การใช้เอฟเฟกต์นี้เพื่อสร้างสรรค์หน้าปัดที่มีความโดดเด่นไม่เหมือนใครนั้นเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก
Q : คุณมีพันธมิตรที่ร่วมทำงานนี้ด้วยหรือไม่?
A : มี.. เรามีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งในการร่วมมือกับบริษัทชั้นนำของสวิสที่มีจิตวิญญาณแห่งนวัตกรรม และผลักดันในการทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนเหมือนกัน เรามีความร่วมมือระยะยาวและประสบความสำเร็จอย่างมากกับ ETH Zürich หนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านเทคโนโลยีที่มีชื่อเสียงที่สุดของโลก และสถาบันวิจัยเครือข่าย นั่นทำให้เราสามารถเข้าถึงบุคคลที่มีทั้งความเชี่ยวชาญและแรงบันดาลใจที่ทำงานเกี่ยวกับเทคโนโลยีล้ำสมัย เราเข้าไปมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนเพื่อพัฒนาเทคนิคการเลเซอร์ที่อยู่เบื้องหลังนาฬิการุ่นนี้ และเพื่อให้ได้พื้นผิวและการตกแต่งดังกล่าว คุณต้องเป็นเจ้าของกระบวนการผลิตทั้งหมด
Q : การพัฒนาโครงการนี้ใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ และคุณต้องเผชิญกับความท้าทายอะไรบ้าง?
A : ประมาณสองปี ความท้าทายใหญ่ที่ต้องเผชิญ คือการผลิตอย่างต่อเนื่อง การผลิตตัวอย่างนั้น ‘ง่าย’ แต่ความสามารถในการขยายขนาดการผลิตหน้าปัดที่มีลักษณะเหมือนกันขึ้นไปถึงจำนวนนับร้อยนับพัน ถือเป็นความท้าทายอย่างแท้จริง ทั้งนี้เป็นเพราะค่าความคลาดเคลื่อนมีผลทำให้เอฟเฟกต์ที่ได้ไม่คงที่ทันที หากมีความคลาดเคลื่อนของความหนาของหน้าปัดเพียง 1 หรือ 2 ไมครอน ตำแหน่งจุดโฟกัสของเลเซอร์ก็จะเปลี่ยนไป เราต้องทำการทดสอบค่อนข้างมากเพื่อพัฒนาตัวจับยึดหน้าปัดในระหว่างกระบวนการเลเซอร์ ซึ่งมันสนุกมาก
Q : ถ้าพูดให้คนทั่วไปเข้าใจก็เหมือนกับรูปทรงเลนส์ใช่หรือไม่?
A : เอฟเฟกต์มีความคล้าย แต่ในทางเทคนิคแล้วมันไม่เหมือนกันเลย การสร้างสรรค์สีทำได้โดยการปรับพื้นผิวในลักษณะที่แสงที่มีความยาวคลื่นระดับหนึ่งไม่สามารถหักเหผ่านตัวกลางได้ และแสงที่ความยาวคลื่นระดับอื่นๆสามารถหักเหและสะท้อนกลับเข้าสู่ดวงตาได้ ด้วยการเล่นกับค่าตัวแปรเหล่านี้และเพิ่มเอฟเฟกต์แวววาวทำให้ได้สีต่างๆ เหมือนกับคุณมีสายรุ้งอยู่บนข้อมือ ซึ่งขึ้นอยู่กับมุมในการมองของคุณ
Q : กระบวนการนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับชิ้นส่วนนาฬิกาอื่นๆ ได้หรือไม่?
A : สามารถทำได้ แต่มันเบาและงอโค้งได้ง่าย ดังนั้นในมุมมองของเรา วิธีที่ดีที่สุดคือนำไปใช้กับชิ้นส่วนที่มีการปกป้อง เช่น หน้าปัด
Q : และนาฬิการุ่นนี้บอกอะไรเกี่ยวกับ Oris ได้บ้าง?
A : บทสรุปสั้นๆของผมก็คือ การคิดหาวิธีแก้ปัญหาที่ทั้งยั่งยืนและเป็นนวัตกรรมใหม่ และนั่นแสดงให้เห็นถึงความเป็นอิสระของโอริส นาฬิการุ่นนี้ตอบโจทย์ด้วยการนำเอาเทคโนโลยีที่ไม่เคยถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมนี้มาก่อน การเชื่อมโยงเข้ากับ ETH ก็มีความสำคัญเช่นกัน เรามีความหลงใหลในการทำงานร่วมกับคนรุ่นใหม่ และเปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงความสามารถและไอเดีย เมื่อนำทั้งหมดนี้มารวมเข้ากับ ProPilot X Calibre 400 แล้ว คุณจะได้นาฬิกาที่น่าทึ่งซึ่งจะนำความสุขมาให้กับผู้สวมใส่ และทำให้พวกเขายิ้มได้
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline