ทิ้งระยะจากการเปิดตัวเวอร์ชันแรก 2 ปี ทาง Rado เผยโฉมทางเลือกใหม่ของ Captain Cook Over-Pole ซึ่งครั้งนี้นอกจากสีสันที่เปลี่ยนแปลงแล้ว ยังมากับตัวเรือนที่ใหญ่ขึ้นเป็น 39 มิลลิเมตรขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลาน ที่มีกำลังสำรอง 80 ชั่วโมง และมีการผลิตจำนวน 1,962 เรือน
Rado Captain Cook Over-Pole ขยายไซส์ ผลิตเพียง 1962 เรือน
-
เวอร์ชันที่ 2 ของนาฬิกาที่ผลิตเพื่อระลึกถึงคอลเล็กชั่นในอดีตอย่าง Over-Pole
-
ใช้พื้นฐานของรุ่น Captain Cook ใหม่ แต่ขยายจากเวอร์ชันแรกจาก 37 มาเป็น 39 มิลลิเมตร
-
ขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลาน ที่มีกำลังสำรอง 80 ชั่วโมง และมีการผลิตจำนวน 1,962 เรือน
ชื่อของ Over-Pole เป็นนาฬิกาที่ Rado เคยผลิตจำหน่ายในปี 1962 และเมื่อครบวาระ 60 ปีทางแบรนด์ก็เคยเปิดตัวนาฬิการุ่นพิเศษออกมาแล้วในแบบผลิตจำกัด ส่วนที่เห็นอยู่นี้คือ เวอร์ชันที่ 2 ของ Rado Captain Cook Over-Pole และคราวนี้ใม่ได้แตกต่างแค่สีสันและรูปลักษณ์ที่อยู่บนตัวนาฬิกาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการขยายขนาดตัวเรือน จากเดิมในปี 2022 (Ref. R32116158) ซึ่งอยู่ที่ 37 มิลลิเมตรมาเป็น 39 มิลลิเมตรในรุ่นนี้
![]() |
![]() |
Over-Pole Worldtimer เป็นนาฬิการุ่นดังของ Rado ที่เปิดตัวในช่วงทศวรรษที่ 1960 และมีจุดเด่นอยู่ที่ขอบตัวเรือนซึ่งมีการสลักชื่อเมืองสำคัญที่ถูกใช้เป็นการอ้างอิงเขตเวลา หรือ Time Zone ในแต่ละชั่วโมง โดยในปี 2022 ทาง Rado ได้นำชื่อของ Over-Pole Worldtimer มาเป็นส่วนหนึ่งของคอลเล็กชั่น Captain Cook รุ่นใหม่ และผลิตจำหน่ายในวาระของการฉลองครบรอบ 60 ปี ด้วยการผลิตออกสู่ตลาดจำนวน 1,962 เรือนตามปีที่นาฬิกา Over-Pole Worldtimer รุ่นดั้งเดิมเปิดตัวออกมา
สำหรับรุ่นใหม่ (Ref. R32193018) Rado ถอดแบบมาจากรุ่นดั้งเดิม Over-Pole Worldtimer คงรายละเอียดที่สำคัญ ซึ่งถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของตัวนาฬิกาเอาไว้ เช่น อินเสิร์ตบนของตัวเรือนที่เป็นแบบ Worldtime มีการใส่ชื่อเมืองของเขตเวลาทั้ง 24 เขตเวลาเอาไว้สำหรับใช้ในการระบุเวลาที่ 2 แต่เพิ่มความพิเศษตรงที่อินเสิร์ตนี่ผลิตจากเซรามิก ตามด้วยชุดเข็มชั่วโมงและนาทีซึ่งเป็นทรงปลายแหลม และหน้าปัดซึ่งตรงขอบนอกสุดจะมีการใส่สเกลของ 24H เอาไว้เพื่อใช้ในการทำงานร่วมกับอินเสิร์ตในการระบุเวลาทั่วโลก และขอบตัวเรือนสามารถหมุนได้ 2 ทิศทาง
![]() |
![]() |
สิ่งที่แตกต่างออกไปคือ ขนาดของตัวเรือนที่ถูกเพิ่มเป็น 39 มิลลิเมตร เช่นเดียวกับวัสดุที่แม้ว่าจะเป็นสเตนเลสสตีลตัวเรือนและสาย แต่ในรุ่นใหม่มีการเคลือบ PVD สีเหลืองทองแบบขัดเงาทั้งตัวเรือนและสาย ขอบตัวเรือนผลิตจากสเตนเลสเป็นแบบหมุนได้สองทิศทางชุบ PVD สีเหลืองทองขัดเงา มีขอบหน้าปัดไฮเทคเซรามิกสีดำขัดเงา พร้อมกับชื่อเมืองเคลือบแลกเกอร์สีทอง ฝาหลังเป็นแบบขันสกรู ทำจากสเตนเลสขัดเงาพร้อมกับคริสตัลแซฟไฟร์
![]() |
![]() |
ส่วนหน้าปัดเป็นแบบสีเงินซันเรย์ ให้ความสวยงามในยามส่องกระทบกับแสง โดยขอบด้านนอกจะโค้งลง และทั้งเข็ม-หลักชั่วโมงก็ถูกออกแบบให้โค้งตาม มีสีเหลืองตัดกันอย่างสวยงาม โดยหลักชั่วโมงเคลือบสารเรืองแสง Super-LumiNova® สีขาวสไตล์วินเทจ
เพื่อความสวยงามและลงตัว จะมีทั้งสายสเตนเลสที่ข้อกลางออกแบบในสไตล์ Beads of Rices ซึ่งเป็นลวดลายที่นิยมกันในกลุ่มนาฬิกาวินเทจยุคทศวรรษที่ 1960 และมาพร้อมระบบ Easy-Clip ซึ่งช่วยให้คุณสะดวกสบายในการเปลี่ยนสลับสายเป็นสายหนังอีกเส้นที่อยู่ในเซ็ตโดยที่ไม่ต้องใช้เครื่องมือใดๆ
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
ในรุ่นนี้ยังใช้กลไกแบบไขลาน ซึ่งเป็นรหัส R862 เหมือนกับเวอร์ชันที่แล้ว มีการเก็บงานโดยการตกแต่งด้วยลวดลาย Côtes-de-Genève สกรูสีน้ำเงินที่ผ่านการอบอ่อนและเครื่องหมายสีทองที่มองเห็นได้ผ่านทางกระจกแซฟไฟร์ชิ้นที่สองตรงฝาหลัง อีกทั้งยังใช้แฮร์สปริง Nivachron™ ป้องกันสนามแม่เหล็ก รวมถึงผ่านการทดสอบ 5 ตำแหน่ง เพื่อความเที่ยงตรงในระดับสูงสุดที่มั่นใจได้ในการใช้งาน และตัวกลไกมีกำลังสำรองนานถึง 80 ชั่วโมง
Rado Captain Cook Over-Pole มีการผลิตจำกัดในจำนวนเท่าเดิม คือ 1,962 เรือน และในเมืองไทยมีราคาอยู่ที่ 107,000 บาท
รายละเอียดทางเทคนิค : Rado Captain Cook Over-Pole
- เส้นผ่านศูนย์กลาง: 39 มิลลิเมตร
- Lug to Lug: 45.5 มิลลิเมตร
- ความหนา: 10.9 มิลลิเมตร
- วัสดุตัวเรือน: สแตนเลสสตีล
- กระจก: Sapphire
- กลไก: ไขลาน Rado Calibre R862
- ความถี่: 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง
- กำลังสำรอง: 80 ชั่วโมง
- การกันน้ำ: 100 เมตร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline