Rado นำเสนอความสวยงามของวัสดุอย่าง High-Tech Ceramic ที่มากับสีน้ำเงิน ด้วยการเติมสีสันที่ตัดกันอย่างสวยงาม ด้วยขอบอินเสิร์ตเซรามิกสีแดงและเหลือง พร้อมหน้าปัดแบบ Skeleton โดยจะมีการผลิตออกสู่ตลาดรุ่นละ 262 เรือนเท่านั้น
Rado Captain Cook High-Tech Ceramic Skeleton Limited Edition เติมสีสันบนขอบตัวเรือนพร้อมผลิตจำกัด
-
เพิ่ม 2 รุ่นใหม่ให้กับ Captain Cook High-Tech Ceramic Skeleton
-
ตัวเรือนสีน้ำเงินผลิตจาก High-Tech Ceramic พร้อมหน้าปัดแบบ Skeleton
-
เติมสีสันด้วยขอบตัวเรือนสีแดงและเหลือง ตัดกับตัวเรือนอย่างลงตัว และผลิตรุ่นละ 262 เรือนเท่านั้น
หลังจากเปิดตัวรุ่น Navy Blue Ceramic ออกมาได้ไม่นาน Rado มีความสดใสรุ่นใหม่มาเติมเต็มให้กับคอลเล็กชั่น Captain Cook High-Tech Ceramic Skeleton ด้วยนาฬิการุ่น Limited Edition กับขอบตัวเรือน 2 สีใหม่บนตัวเรือนที่ผลิตจาก Navy Blue Ceramic และมีการผลิตรุ่นละ 262 เรือนบนอินเสิร์ตของขอบตัวเรือน 2 สีคือ แดงและเหลือง
 |
 |
 |
 |
Rado เปิดตัวไฮเทคเซรามิกเป็นครั้งแรกในปี 1986 ด้วยเนื้อสัมผัส ความทนทานต่อการขีดข่วน และน้ำหนักที่เบา ถึงแม้ว่าไฮเทคเซรามิกจะมีความเกี่ยวข้องกับเซรามิกทั่วไปที่เราทุกคนรู้จักอยู่บ้าง แต่ไฮเทคเซรามิกก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่ถือกำเนิดจากหลักวิทยาศาสตร์ขั้นสูงอย่างแท้จริง
ผงอะลูมิเนียมออกไซด์ เซอร์โคเนียมออกไซด์ และซิลิกอนไนไตรด์ที่บริสุทธิ์มาก ผ่านการคาลิเบรทอย่างละเอียดและมีขนาดเกรนที่สม่ำเสมออย่างสมบูรณ์แบบ จะได้รับการขึ้นรูปภายใต้สภาวะที่มีความเข้มงวดสูง เพื่อให้มีรูปทรงที่ต้องการจากนั้นจึงผ่านการอบที่อุณหภูมิสูงเพื่อสร้างวัตถุหรือตัวเรือนนาฬิกาที่มีขนาดและคุณสมบัติตามที่ต้องการ
วิธีการใหม่ที่ Rado พัฒนาขึ้นมา มีการใช้สารตัวกลางช่วยพาพลาสติกผสมกับผงแร่ เพื่อให้สามารถฉีดเข้าไปในแม่พิมพ์ที่มีความแม่นยำ ภายใต้แรงดันประมาณ 1,000 บาร์ หลังจากชิ้นส่วนต่างๆ เย็นลงแล้ว ก็จะนำออกจากแม่พิมพ์และจะมีการละลายสารช่วยพาในขั้นตอนทำละลายทางเคมีมาตรฐานก่อนที่จะเผาผนึกที่อุณหภูมิ 1450 องศาเซลเซียส
การเผาผนึกที่ผ่านการควบคุมอย่างแม่นยำนี้จะทำให้ได้ไฮเทคเซรามิกที่แข็งและมีความหนาแน่นอย่างน่าทึ่ง ซึ่งต่างจากเซรามิกธรรมดาๆ ขั้นตอนนี้อยู่ในระดับเดียวกันกับวิทยาศาสตร์การผลิตจรวดอย่างแท้จริง เนื่องจากขนาดของชิ้นส่วนที่ขึ้นรูปชิ้นแรกจะหดตัวระหว่างการเผาผนึก อนุภาคจะแน่นขึ้นเมื่อรูพรุนหายไป และต้องมีการคำนวณที่แม่นยำเพื่อคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงขนาดที่สำคัญประมาณ 23% ผลลัพธ์คือตัวเรือนที่มีความแข็งอยู่ในระดับ 1,250 ในสเกล Vickers ซึ่งพร้อมสำหรับการตัดเพชรและการเก็บงานในขั้นตอนสุดท้ายเพื่อให้เป็นนาฬิกา Rado ที่น่าประทับใจ
ที่ผ่านมา สีบนตัวเรือนของนาฬิกาแบบ High-Tech Ceramic จะมีความหลากหลายทั้งสีเทา สีดำ และรุ่นล่าสุดคือ สีเขียว Olive แต่ล่าสุดเมื่อกลางปี 2024 Rado ประสบความสำเร็จในการผลิตตัวเรือนแบบ High-Tech Ceramic หน้าปัดแบบ Skeleton ที่มาพร้อมกับสีน้ำเงิน และเปิดตัวไปแล้วกับชื่อ Navy Blue Ceramic โดยจะมีทั้งรุ่นปกติ และ 2 รุ่นใหม่ล่าสุดในแบบ Limited Edition คือ
-
Ref. R32152208 อินเสิร์ตสเกลจขับเวลาบนขอบตัวเรือนมีสีเหลือง
-
Ref. R32152209 อินเสิร์ตสเกลจขับเวลาบนขอบตัวเรือนมีสีแดง
 |
 |
ตัวเรือนมีขนาด 43 มิลลิเมตร และจะมากับสายรับเบอร์สีน้ำเงิน พร้อมกับบานพับที่ผลิตจาก High-Tech Ceramic ตัวเรือนไฮเทคเซรามิกที่มีโครงสร้างแบบเป็นชิ้นเดียวสีกรมท่าขัดเงามาพร้อมขอบหน้าปัดไฮเทคเซรามิกแบบหมุนได้สีกรมท่าขัดเงา และส่วนสีตรงขอบหน้าปัดที่ทำจากเซรามิกสีเหลืองเพื่อตัดกับตัวเรือนและขาตัวเรือน
 |
 |
หน้าปัดเป็นแบบใสและเรียบง่าย พร้อมขีดบอกเวลารูปทรงเรขาคณิตที่มากมายและเข็มชั่วโมง/นาที/วินาทีโทนสีโรเดียมเคลือบสารเรืองแสง Super-LumiNova® สีขาวเพื่อให้อ่านได้ชัดที่สุดในที่ที่มีแสงน้อย พร้อมฝาหลังแบบใส ซึ่งสามารถมองเห็นกลไกที่อยู่ภายใน
ทั้ง 2 รุ่นใช้หน้าปัดแบบเปลือย Skeleton สามารถมองเห็นรายละเอียดของชิ้นส่วนกลไกอัตโนมัติ R808 อยู่ข้างใน โดยเป็นกลไกที่พัฒนามาจากรุ่น Powermatic 80 ที่เป็นกลไกที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อใช้กับแบรนด์ต่างๆ ที่อยู่ในเครือสวอทช์ กรุ๊ป มีกำลังสำรองอยู่ที่ 80 ชั่วใมง และใช้ใยนาฬิกาแบบ Nivachron ลดปัญหาในเรื่องการเดินไม่เที่ยงตรงอันเป็นผลกระทบมาจากสนามแม่เหล็กได้
 |
 |
ทั้ง 2 รุ่นมีราคาอยู่ที่ 171,200 บาท โดยการผลิตจะมีเพียง 262 เรือนในแต่ละรุ่นเท่านั้น
รายละเอียดทางเทคนิค : Rado Captain Cook High-Tech Ceramic Skeleton Limited Edition
- เส้นผ่านศูนย์กลาง: 43 มิลลิเมตร
- ความหนา: 14.6 มิลลิเมตร
- Lug to Lug: 49.8 มิลลิเมตร
- กลไก: อัตโนมัติรหัส R808
- ความถี่ :21,600 ครั้งต่อชั่วโมง
- กำลังสำรอง: 80 ชั่วโมง
- การกันน้ำ :300 เมตร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline
