ORIS Sustainable Watch Box เปลี่ยนแพ็คเกจใหม่เพื่อความยั่งยืน

0

นอกจากตัวนาฬิกาแล้ว กล่องบรรจุนาฬิกาใหม่ยังถือเป็นอีกจุดที่สามารถมีส่วนร่วมในเรื่องความเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งที่ดีขึ้น และช่วยลดในเรื่องของการใช้วัสดุ เช่นเดียวกับเรื่องของการลดคาร์บอนในระห่างการทำงานส่วนต่างๆ และ ORIS ได้เปิดตัวกล่องบรรจุนาฬิกาใหม่ที่มีชื่อว่า Sustainable Watch Box ซึ่งแสดงให้เห็นถึงหลักชัยสำคัญในการสานต่อพันธกิจของแบรนด์เพื่อนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งที่ดีขึ้น

- Advertisement -

ORIS Sustainable Watch Box

ORIS Sustainable Watch Box เปลี่ยนแพ็คเกจใหม่เพื่อความยั่งยืน

  • กล่องบรรจุนาฬิกาแบบใหม่ที่ ORIS จะนำมาใช้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์นี้

  • ตัวกล่องผลิตจากกระดาษและกระดาษการ์ดบอร์ดที่มาจากกระบวนการรีไซเคิล

  • นอกจากนั้นยังสามารถพับเก็บได้เมื่อไม่ใช้งาน ทำให้ช่วยลดปริมาตรในการบรรทุกได้ถึง 50% เมื่อเปรียบเทียบกับกล่องแบบเดิม

หน้าธุรกิจสู่ความยั่งยืนอีกครั้งด้วยการพัฒนากล่องบรรจุภัณฑ์แบบใหม่ สำหรับใช้กับนาฬิการุ่นใหม่ๆ ที่จะเปิดตัวออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป โดยกล่องบรรจุนาฬิกาใหม่รุ่นนี้มีชื่อว่า ORIS Sustainable. Watch Box ซึ่งแสดงให้เห็นถึงหลักชัยสำคัญในการสานต่อพันธกิจของแบรนด์เพื่อนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งที่ดีขึ้นสู่ทุกแง่มุมของธุรกิจ และเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนของ ORIS นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่มีต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 17 ประการของสหประชาชาติ

ORIS Sustainable Watch Box

ORIS ได้รับใบรับรองด้านความเป็นกลางทางสภาพอากาศโดยองค์กร ClimatePartner ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และยังให้คำมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนลง 10 เปอร์เซ็นต์ต่อปีเป็นเวลาสามปีภายใต้โครงการ Oris Emissions Reduction Programme ตามรายละเอียดในรายงานความยั่งยืนของ ORIS ซึ่งสามารถดาวน์โหลดอ่านได้ที่ oris.ch

ประเด็นหนึ่งทื่ทางแบรนด์ระบุไว้ถึงการพัฒนาที่สำคัญในรายงานก็คือบรรจุภัณฑ์ของนาฬิกา แม้ว่ากล่องนาฬิกาของ ORIS จะไม่เคยมีขนาดใหญ่เทอะทะ แต่ก็เชื่อมาโดยตลอดว่าความก้าวหน้าทางวัตถุ บวกกับการลดทั้งขนาดและปริมาณที่สามารถนำมาใช้ได้เพื่อลดผลกระทบจากการผลิตและการแจกจ่ายกล่องนาฬิกาของแบรนด์ โดยปราศจากผลกระทบด้านความมั่นใจและความปลอดภัยต่อการขนส่งนาฬิกาหรือประสบการณ์ของลูกค้า ปัจจุบันการค้าปลีกของORIS ขยายไปยังกว่า 80 ประเทศ ซึ่งทางแบรนด์จัดส่งนาฬิกาไปยังลูกค้าทั่วโลกโดยตรงจากโรงงาน Oris ในหมู่บ้านโฮลสไตน์ในสวิตเซอร์แลนด์

กล่องนาฬิกา ORIS Sustainable Watch Box ใหม่ จะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างมาก ตัวกล่องผลิตจากกระดาษและกระดาษการ์ดบอร์ดทั้งหมด ซึ่งมากกว่าครึ่งได้รับการรีไซเคิลมาจากส่วนที่เหลือจากแหล่งที่ได้รับการรับรองของ FSC ซึ่งจะช่วยลดการใช้วัสดุที่เกี่ยวข้องกับพลาสติกได้มากกว่า 1.5 ตันต่อปีเมื่อเทียบกับบรรจุภัณฑ์เดิมหรือเทียบเท่ากับการลดปริมาณลง 65 %

ORIS Sustainable Watch Box

นอกจากนั้น กล่องนาฬิกายังมีโครงสร้างแบบพับได้ที่จะช่วยลดปริมาตรลง 50 % เมื่อเทียบกับบรรจุภัณฑ์เดิม ซึ่งโดยรวมปริมาตรจะน้อยกว่า เบากว่า และมาจากแหล่งผลิตบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนซึ่งจะส่งผลกระทบเชิงบวกที่วัดได้ต่อการปล่อยก๊าซคาร์บอนสัมบูรณ์

ตัวกล่องยังได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงความยืดหยุ่นในแบบโมดูลาร์ดีไซน์ ซึ่งเป็นการออกแบบที่แบ่งออกเป็นส่วนย่อยๆ ที่สามารถปรับรูปแบบให้เข้ากับนาฬิการุ่นต่างๆได้ ทั้งยังสามารถพับเก็บได้ ทำให้เจ้าของนาฬิกาสามารถพับเก็บไว้ในบ้านได้อย่างง่ายดาย ในกรณีที่ต้องการเก็บหรือนำกลับมาใช้ใหม่

ORIS Sustainable Watch Box

ภายในแต่ละกล่องและด้านข้างนาฬิกาจะมีการ์ดสองใบที่ผลิตจากกระดาษรีไซเคิล 100 % การ์ดใบแรกจะมี QR code ที่จะนำพาเจ้าของนาฬิกาไปยังหน้า MyOris ซึ่งพวกเขาสามารถลงทะเบียนนาฬิกาและเปิดใช้งานเพื่อขยายเวลาการรับประกันเป็นแบบสามสี ห้าปี หรือสิบปี ขึ้นอยู่กับรุ่นของนาฬิกา

นอกจากนี้ยังเชื่อมโยงกับคู่มือผลิตภัณฑ์และใบรับรองการเป็นเจ้าของ ซึ่ง ORIS จะไม่ได้จัดพิมพ์หรือแจกจ่ายอีกต่อไป โดยเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการลดคาร์บอนอีกประการหนึ่ง ส่วนการ์ดอีกหนึ่งใบจะมาในขนาดเท่ากับบัตรเครดิต และมีหมายเลขอ้างอิง หมายเลขประจำตัวเรือน และหมายเลขบัตรรับประกัน

รวมถึงมี QR code ที่จะนำไปยังหน้า MyOris เช่นเดียวกัน ภายในกล่องยังมีผ้าทำความสะอาดอ่อนนุ่มแบบไม่เป็นขุยซึ่งเพิ่มการปกป้องระหว่างการขนส่ง และสามารถใช้ทำความสะอาดนาฬิกาและแอคเซสเซอรี่อื่นๆได้อีกด้วย

กล่องนาฬิกา ORIS Sustainable Watch Box ใหม่ จะมาในแบบสีน้ำเงิน ORIS Blue ที่ให้ความรู้สึกสงบและผ่อนคลาย พร้อมกับเซอร์ไพรส์อีกหนึ่งหรือสองอย่าง โดยการออกแบบทั้งหมดนี้มีอีกหนึ่งเป้าหมายที่สูงกว่า นั่นคือการทำให้ผู้คนยิ้มได้

ORIS Sustainable Watch Box

กล่องนาฬิกา ORIS Sustainable Watch Box ใหม่นี้จะพร้อมนำมาใช้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2024