Oris Big Crown ProPilot Okavango Air Rescue Limited Edition ความพิเศษจากนาฬิกานักบิน

สถานที่ที่ควรถูกเล็งเห็น

สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโอคาวังโกของบอตสวานา เป็นหนึ่งในความมหัศจรรย์ของธรรมชาติและเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก การดำเนินการให้บริการของ Okavango Air Rescue ครอบคลุมพื้นที่นี้ รวมถึงพื้นที่ที่อยู่ห่างไกล

สถานที่แห่งนี้ เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของแอฟริกา ครอบคลุมพื้นที่ราบกว่า 20,000 ตารางกิโลเมตร และในปี 2014 สถานที่แห่งนี้ได้กลายเป็นมรดกโลกลำดับที่ 1,000 ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนขององค์การยูเนสโก สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโอคาวังโกของบอตสวานาเป็นหนึ่งในสถานที่ที่งดงามที่สุดในโลก

ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำซึ่งประกอบด้วยทุ่งหญ้า หนองบึง ทะเลสาบ และเกาะแก่งหลายพันเกาะ เกิดขึ้นจากน้ำที่ท่วมตามฤดูกาล โดยมีช่วงเวลาที่สูงสุดระหว่างเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาวที่แห้งแล้งของบอตสวานา ในช่วงเวลานี้ดินดอนจะขยายตัวเป็นสามเท่าของขนาดปกติ ทำให้สัตว์ป่ารวมตัวกันอยู่อย่างหนาแน่นมากที่สุดแห่งหนึ่งของแอฟริกา

บอตสวานาเป็นบ้านของสัตว์ป่า ‘บิ๊กไฟว์’ ที่ถูกล่าเพื่อการกีฬา ทั้ง สิงโต เสือดาว ควาย ช้าง และแรด รวมทั้ง ยีราฟ ฮิปโป     เสือชีตาห์ จระเข้ และสัตว์สายพันธุ์อื่นๆอีกมากมาย ทำให้สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโอคาวังโก เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของแอฟริกา

พื้นที่นี้มีความหลากหลายเกือบพอๆกับประชากรมนุษย์ ที่ประกอบด้วยกลุ่มชาติพันธุ์ห้ากลุ่ม ซึ่งแต่ละกลุ่มมีภาษาเป็นของตนเอง การดำรงชีวิตของผู้คนมาจากบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำเป็นหลัก

จนกระทั่งเมื่อองค์กร Okavango Air Rescue (O.A.R.) ได้ก่อตั้งขึ้นในปี 2011 พื้นที่ดังกล่าวก็ไม่ได้รับบริการจากองค์กรที่ดำเนินการด้านการบิน คนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวที่ต้องการบริการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยจากพื้นที่ห่างไกลต้องรอให้เครื่องบินเดินทางมาจากประเทศเพื่อนบ้านในแอฟริกาใต้

เหนือขอบฟ้า

เมื่อ คริสเตียน กรอสส์ และ ดร. มิชา เอส ครุกค์ เห็นว่าการจัดหาทางการแพทย์ในพื้นที่ห่างไกลของบอตสวานานั้นเลวร้ายเพียงใด พวกเขาจึงลงมือดำเนินการทันที และจากนี้พวกเขาจะบอกเล่าเรื่องราวของหน่วยกู้ภัยทางอากาศ Okavango Air Rescue

คริสเตียน, มิชา ช่วยแนะนำตัวเอง

MK: ฉันชื่อ ดร. มิชา เอส ครุกค์ ฉันเกิดที่เยอรมนี แต่ย้ายไปสวิตเซอร์แลนด์เพื่อศึกษาเชี่ยวชาญด้านวิสัญญีวิทยา ผู้ป่วยหนัก และเวชศาสตร์ฉุกเฉิน ฉันเคยทำงานให้กับกาชาดสากล และ Rega ซึ่งเป็นหน่วยกู้ภัยทางอากาศของสวิส

CG: ผมชื่อ คริสเตียน กรอสส์ ผู้ประกอบการชาวสวิส ผมอยากเป็นสัตวแพทย์ แต่เข้าสู่ธุรกิจ ซึ่งผมมักนำเอาสิ่งที่สนใจมารวมเข้าด้วยกัน ตัวอย่างเช่น ในองค์กรที่ปรึกษาด้านการจัดการทรัพยากรสัตว์ ที่ผมก่อตั้งในปี 1988 ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นต้น

คุณพบกันได้อย่างไร?

MK: บนเที่ยวบิน

จากสวิตเซอร์แลนด์ไปสเปนในปี 2008 ในช่วงระยะเวลาหนึ่งเราอยู่ในความสัมพันธ์แบบ ‘มีระยะทาง’ ระหว่างดูไบและสวิตเซอร์แลนด์ แต่หลังจากนั้นสองปีเราตัดสินใจว่าเราต้องการเริ่มต้นชีวิตบทใหม่ด้วยกัน เรามีทั้งอิสระและกำลังมองหาการเปลี่ยนแปลง เราตัดสินใจว่าเราต้องการนำเอาวิชาชีพและความสนใจของเรามารวมกัน จับคู่กันระหว่างการแพทย์และการอนุรักษ์

CG: แอฟริกาเป็นความคิดของมิชา เราย้ายไปบอตสวานาในปี 2011 สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโอคาวังโกเป็นที่รู้จักกันดีในด้านการอนุรักษ์ แต่เราพบว่าโครงสร้างพื้นฐานทางการแพทย์ของพื้นที่นั้นจำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัย ดังนั้นเราจึงก่อตั้ง Okavango Air Rescue (O.A.R.) ขึ้น ซึ่งในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาองค์กรเติบโตขึ้นอย่างมาก แต่ก็ไม่ได้ปราศจากความท้าทายใดๆ!

ช่วยเล่าให้เราได้ทราบยิ่งขึ้นเกี่ยวกับองค์กร O.A.R.

MK: องค์กร O.A.R. ตั้งอยู่ในบอตสวานา และมีสำนักงานใหญ่ในเมืองมาอูน ซึ่งเป็นประตูสู่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโอคาวังโก ทีมงานประกอบด้วยแพทย์ นักบิน พยาบาล เจ้าหน้าที่กู้ภัย และเจ้าหน้าที่ธุรการ บางคนมาจากบอตสวานา แต่เรามีบุคลากรชายจากทั่วโลก โดยเริ่มจากการเป็นผู้ให้บริการทางการแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านเหตุฉุกเฉินและการอพยพทางอากาศ แต่พัฒนามาเป็นผู้ให้บริการด้านการแพทย์ทั่วไป เราปฏิบัติการโดยเครื่องบิน Pilatus PC12 จำนวน 2 ลำ และเฮลิคอปเตอร์ Bell Jetranger 206 III จำนวน 2 ลำ และดำเนินการแบบโพลีคลินิก

การก่อตั้งองค์กรนี้ง่ายหรือไม่?

CG: ไม่เลย! เรามีความกระตือรือร้นอย่างมากและมีวิสัยทัศน์ที่ดีในเรื่องนี้  แต่ถ้าพูดตามตรง ถ้าเรารู้ล่วงหน้าว่าฝันร้ายของระบบราชการจะเป็นอย่างไร เราอาจเลือกเส้นทางอื่น! แต่ก็ได้ผลตอบแทนที่มหาศาล

องค์กรได้รับทุนสนับสนุนอย่างไร?

MK: เราต้องการให้บริการมีความเป็นอิสระทางการเงิน หาทุนเอง โดยไม่ต้องพึ่งพาการสนับสนุนจากรัฐบาล หรือการบริจาค ดังนั้นเราจึงใช้ระบบอุปถัมภ์ที่ทำให้ทุกคนสามารถใช้บริการได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชากรในท้องถิ่น และยอมให้ชาวต่างชาติที่ร่ำรวยกว่าสามารถบริจาคเงินได้มากขึ้น เราไม่รับเงินเดือนและจัดตั้งขึ้นเพื่อให้เมื่อเราเกษียณแล้ว องค์กรก็สามารถดำเนินการต่อไปได้โดยไม่มีเรา

ระบบอุปถัมภ์ทำงานอย่างไร?

CG: การอุปถัมภ์โดยการขอเงินสนับสนุนขั้นต่ำ 150 ปูลา หรือประมาณ 15 เหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่าการบริโภคโค้กหนึ่งกระป๋องต่อเดือนเป็นระยะเวลา 12 เดือน การอุปถัมภ์รับรองการเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ที่ห่างไกลความเจริญโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับผู้ป่วย เว้นแต่จะมีประกัน

O.A.R. ครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่ขนาดไหน?

MK: องค์กร O.A.R. ครอบคลุมทั้งทวีปแอฟริกาตอนใต้ด้วยเครื่องบิน PC-12 และส่วนของเฮลิคอปเตอร์ O.A.R. จะปฏิบัติการเฉพาะในบอตสวานาซึ่งมีพื้นที่ขนาดเท่ากับฝรั่งเศสและเบลเยี่ยมรวมกัน จากเมืองมาอูน องค์กร O.A.R. จะครอบคลุมพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโอคาวังโกซึ่งมีขนาดประมาณประเทศสวิตเซอร์แลนด์

อะไรที่ก่อให้เกิดความท้าทาย?

CG: เราอยู่ในสภาพแวดล้อมซึ่งไม่ได้มีระบบการจัดการให้เชื่อมโยงกัน และการกู้ภัยทั้งหมดนั้นขึ้นอยู่กับ ‘การหาวิธีแก้ไข’ บางครั้งการเชื่อมต่อโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตไม่ดีพอ และการขออนุญาตเที่ยวบินในประเทศเพื่อนบ้านมักใช้เวลานานเกินควร ด้วยเฮลิคอปเตอร์เรามักจะต้องค้นหาผู้ป่วย เนื่องจากพิกัดที่เราได้รับมักจะไม่แม่นยำ หรือจุดนั้นไม่เหมาะสำหรับการลงจอด ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่คือการจัดการกับบริษัทประกันภัยที่ไม่เข้าใจ ‘พูดจาอ้อมค้อม’…

O.A.R. สร้างความแตกต่างอะไรบ้าง?

MK: ขณะนี้เราได้บินรับส่งผู้ป่วยวิกฤตไปแล้วมากกว่า 1,500 ราย และดูแลผู้ป่วยมากกว่า 20,000 รายในโพลีคลินิกของเรา ก่อนที่จะมีการก่อตั้งองค์กร O.A.R. ไม่มีบริการเคลื่อนย้ายทางอากาศทางการแพทย์ในพื้นที่ หรือการสนับสนุนภาคพื้นดินในรูปแบบของคลินิกที่มีคุณภาพ เราได้สร้างงานและรายได้ในท้องถิ่นผ่านคลินิกของเราด้วย

ช่วยเล่าให้เราทราบเกี่ยวกับความร่วมมือกับโอริส

CG: ในละแวกพื้นที่ของเรานาฬิกาที่สูงค่าสวยงามไม่ได้มีความหมายอะไรมากนัก แต่ความร่วมมือได้ส่งเสริมทีมของเราอย่างแท้จริง นาฬิกาจะช่วยสร้างการตระหนักรู้ในสิ่งที่เราทำซึ่งมีค่ามหาศาลสำหรับเรา ในขณะที่เรามองหาที่จะสร้างรูปแบบที่ยั่งยืนสำหรับอนาคต นักบินของเราชื่นชอบนาฬิกานักบินของโอริส และมันวิเศษมากที่ได้เห็นส่วนที่มีโลโก้ของเราบนฝาหลังของตัวเรือน!