Oris Big Crown ProPilot Big Date Bronze ลงตัวทุกอย่าง ถ้าได้กำลังสำรองเพิ่มขึ้นจะยิ่งแจ่ม

0

ในที่สุดผมก็สานฝันในการสอยนาฬิกานักบินบรอนซ์ของ Oris เข้ากรุจนได้ สารภาพเลยว่านี่คือนาฬิกาที่สวย และลงตัวอย่างมาก แต่เสียอย่างเดียวถ้ากลไก Oris 751 มีกำลังสำรองมากกว่านี้ จะเยี่ยมมากเลย

- Advertisement -

Oris Big Crown ProPilot Big Date Bronze

Oris Big Crown ProPilot Big Date Bronze ลงตัวทุกอย่าง ถ้าได้กำลังสำรองเพิ่มขึ้นจะยิ่งแจ่ม

  • อีกหนึ่งเป้าหมายในปีนี้ และถือเป็นนาฬิกานักบินแบบโมเดิร์นพร้อมตัวเรือนบรอนซ์ที่สวยรุ่นหนึ่ง

  • ขนาด 41 มิลลิเมตรไม่ได้มีปัญหาเมื่อคาดอยู่บนข้อมือขนาด 7 นิ้ว

  • กลไก Oris 751 มีกำลังสำรองน้อยไปหน่อยเมื่อเปรียบเทียบกับนาฬิกาใหม่ๆ รุ่นอื่นในยุคนี้

เป็นอีกครั้งที่คำว่า ‘นาฬิกาบรอนซ์’ ล่องลอยและวนเวียนอยู่ในหัวของผมตลอดเวลา แม้ว่าก่อนหน้าจะได้อะไรมาดับความฟุ้งซ่านไปแล้วก็ตาม สารภาพตามความจริง มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากมายหรอกครับ เพราะเป้าหมายจริงๆ ของผมนั้นคือ Oris Big Crown ProPilot Big Date Bronze ที่ได้มีโอกาสจับตัวจริงและลองขึ้นข้อตอนช่วงที่ทาง OSC BKK หรือกลุ่มคนรักนาฬิ กา Oris ในประเทศไทยจัดให้สมาชิกบางส่วนไปทดลองนาฬิการุ่นต่างๆ ของแบรนด์ที่เคาน์เตอร์สยามพารากอนเมื่อประมาณต้นปี 2022 ซึ่งหลังจากนั้น ภาพของนาฬิกาเรือนนี้ก็ลอยอยู่ในหัวของผมตลอดเวลาเมื่อนึกถึงนาฬิกาบรอนซ์

นาฬิกาเรือนนี้ถูกเปิดตัวในช่วงปลายปี 2021 และถือว่าเป็นทางเลือกที่ค่อนข้างน่าแปลกใจเหมือนกัน เพราะกระแสการผลิตนาฬิกาที่ผลิตจากบรอนซ์ทั้งเรือนแทบจะไม่ค่อยมีให้เห็นแล้วในหลายๆ แบรนด์ แต่ทว่าทาง Oris เองก็มีออกมาอย่างต่อเนื่องนับในช่วงปี 2021 จาก Divers Sixty Five Cotton Candy ที่มีทั้งรุ่นสายบรอนซ์ และสายหนัง รวมถึงการนำบรอนซ์มาผลิตในชิ้นส่วนบางจุดของตัวนาฬิกา แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นนาฬิกาดำน้ำในกลุ่ม Divers Sixty Five

ขณะที่นาฬิกานักบิน ? เท่าที่เคยเห็นก็คือ Big Crown Pointer Date เท่านั้น ส่วน Big Crown ProPilot ยังไม่มี จึงน่าจะเรียกว่าเป็นครั้งแรกก็คงไม่ผิด

ประเด็นที่ผมยังไม่ได้สอยเข้ามากรุตั้งแต่ตอนเปิดตัวเมื่อปลายปี 2021 ก็มีด้วยกันเหตุผลเดียวคือ ยังไม่มั่นใจกับขนาดตัวเรือนที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 41 มิลลิเมตร ที่จะดูลงตัวกับข้อมือไซส์ 7 นิ้วของผมหรือไม่ และจริงอยู่ที่นาฬิกานักบินรุ่นนี้มีขาสายที่ยาว และทำให้ Lug to Lug ยาวตามไปด้วย (48.2 มิลิเมตร ซึ่งใกล้เคียงกับ Omega Speedmaster 1861) แต่สุดท้ายผมก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดีจนกว่าจะได้ขึ้นข้อมือ

Oris Big Crown ProPilot Big Date Bronze Oris Big Crown ProPilot Big Date Bronze
Oris Big Crown ProPilot Big Date Bronze Oris Big Crown ProPilot Big Date Bronze

ส่วนตัวกับแบรนด์ Oris นอกจากนาฬิกาในกลุ่มดำน้ำ ก็มีนาฬิกากลุ่มนักบินของพวกเขานี่แหละที่เป็นขวัญใจของผม เพียงแต่ Big Crown ProPilot รุ่นปกติอาจจะยังไม่เร้าใจหรือเชิญชวนให้ผมเป็นเจ้าของได้เพราะความธรรมดาของการเป็นนาฬิกานักบินแบบ 3 เข็ม ไม่ได้มีลูกเล่นเหมือนกับพวกรุ่น Small GMT หรือ Altimeter ในมุมผม คือ ถ้าเป็นรุ่น 3 เข็มมันดูเรียบเกินไปหน่อย…ในมุมมองของผม

อย่างไรก็ตาม พอได้เห็นภาพของ Big Crown ProPilot Big Date Bronze เป็นครั้งแรกเมื่อปลายปีที่แล้ว ความรู้สึกแบบเดียวที่เคยเกิดขึ้นกับรุ่นสแตนเลสสตีลมลายหายไป ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะนาฬิกาเรือนนี้มีความพิเศษในตัวเอง เนื่องจากผลิตจากบรอนซ์ และอีกประการคือ ความลงตัวในเชิงสีสันที่อยู่บนหน้าปัด ซึ่งถ้าคุณนำมาเปรียบเทียบกับ ProPilot รุ่นธรรมดาแล้ว จะพบว่าในรุ่นบรอนซ์ให้สีสันและความสวยงามบนหน้าปัดอย่างชัดเจนชนิดทำคะแนนเข้าเป้าได้แบบจะๆ จนนำมาสู่การตามหาในที่สุด

เมื่อได้มาแล้ว ความกังวลในเรื่องของขนาดตัวเรือนที่เคยเกิดขึ้นในช่วงแรกๆ นั้น กลับไม่ได้สร้างปัญหาอะไรมากมาย ขนาด 41 มิลลิเมตรยังรับกับขนาดข้อมือของผมได้ (แต่ถ้าจะให้ดีขอให้เป็นขนาด 42 มิลลิเมตรจะเยี่ยมกว่า) ซึ่งแม้เส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือนจะไม่ได้เยอะมาก แต่ก็มีบางอย่างเข้ามาชดเชยและช่วยทำให้นาฬิกาดูดีบนข้อมือ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของนาฬิกาที่ไม่มีขอบตัวเรือนแบบหนาๆ เหมือนพวกนาฬิกาดำน้ำ ทำให้หน้าปัดดูใหญ่ขึ้น ความยาวของขาสายในระดับ 48.2 มิลลิเมตร และที่สำคัญคือ เม็ดมะยมที่มีขนาดใหญ่ทำให้พื้นที่ซึ่งดูเหมือนกับตัวเรือนมีขนาดใหญ่ตามไปด้วยในเชิงความรู้สึก

Oris Big Crown ProPilot Big Date Bronze Oris Big Crown ProPilot Big Date Bronze
Oris Big Crown ProPilot Big Date Bronze Oris Big Crown ProPilot Big Date Bronze

สิ่งที่ผมชอบจริงๆ ในนาฬิการุ่นนี้และคิดว่าคือปัจจัยที่รองจากการเป็นนาฬิกาบรอนซ์ คือ รายละเอียดที่อยู่บนหน้าปัด พื้นหน้าปัดสีดำแบบด้าน มาพร้อมกับหลักชั่วโมงตัวเลขสีขาวที่แปะลงไปบนพื้นผิวหน้าปัด บวกกับสเกลเวลา ฟอนต์บนหน้าปัดที่เคลือบสีทองแบบด้านๆ นั้น ตัดกับสีหน้าปัดอย่างชัดเจน และทำให้ตัวเลขนี้ดูมีมิติมากขึ้น เอาเข้าจริงๆ ชุดเข็มที่ในตอนแรกผมมองผ่านๆ นั้นเหมือนกับว่าจะแตกต่างจาก Big Crown ProPilot รุ่นสตีล แต่กลายเป็นว่า การเคลือบพื้นผิวของเข็มให้เป็นสีดำ ทำให้พื้นที่ส่วนนี้กลืนไปกับหน้าปัด ทำให้สิ่งที่ดูชัดเจนที่สุดคือ รูปทรงของร่องที่มีการเคลือบสารเรืองลงไป ซึ่งในตอนแรกที่ได้มา ผมนึกว่า Oris เปลี่ยนรูปทรงของเข็มชั่วโมงและนาทีให้ต่างจากรุ่นปกติ แต่ที่ไหนได้ เหมือนกันนี่นา

รายละเอียดของรุ่นบรอนซ์ถอดแบบมาจากรุ่นสตีล ไม่ว่าจะเป็นขอบตัวเรือนแบบบางแต่มีการเซาะร่องเป็นแบบเกลียวเหมือนกับใบพัดในชุดไอพ่น ซึ่งตรงนี้ถูกนำมาใช้กับการออกแบบด้านข้างของเม็ดมะยมด้วย ส่วนฝาหลังเป็นแบบสแตนเลสสตีล พร้อมกระจก ซึ่งตรงนี้ผมไม่ได้ซีเรียสอะไรหรอกว่าฝาหลังจะมาในแบบใสหรือเป็นแบบทึบ เพราะสุดท้ายตัวกลไกก็ไม่ได้มีการขัดแต่งเพิ่มความสวยแต่อย่างใด นอกจากโรเตอร์สีแดงที่เป็นเอกลักษณ์ของ Oris แต่การมากับสแตนเลสสตีลก็ถือเป็นเรื่องปกติของนาฬิกาบรอนซ์ เพราะว่าหลังมือจะได้ไม่เปื้อนเพราะคราบเขียวจากพาตินา

Oris Big Crown ProPilot Big Date Bronze Oris Big Crown ProPilot Big Date Bronze

สำหรับสาย ถือเป็นอีกจุดที่ผมมีค่อนข้างชอบ อย่างแรกคือการใช้วัสดุ ทั้งประเภท สี และการตัดเย็บ ซึ่งสายแบบด้านหน้าเป็นผ้าสีเขียวและด้านหลังเป็นหนังนั้นคือ สิ่งที่ลงตัวกับนาฬิกาบรอนซ์ การตัดเย็บสวยงามประณีต รวมถึงบัคเคิลบรอนซ์ที่เปิด-ปิดอย่างสะดวกในแบบ Lift Clasp ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเข็มขัดนิรภัยบนเครื่องบินก็ช่วยทำให้นาฬิกาเรือนนี้มีความพิเศษมากขึ้นในแง่องค์ประกอบโดยรวม

 กลไกที่ขับเคลื่อนนาฬิการุ่นนี้เป็น Oris 751 ที่สำรองกำลังงาน 38 ชั่วโมง โดยตัวกลไกอยู่บนพื้นฐานของ Sellita SW-200 และมีเจาะช่องแสดงวันที่ หรือ Date เอาไว้ที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา ซึ่งส่วนตัวผมว่า กับค่าตัวในระดับ 83,000 บาท สิ่งที่ได้ในแง่ของกลไกที่มีกำลังสำรองแค่ 38 ชั่วโมง ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับราคาป้าย ผมว่าอาจจะเหนื่อยหน่อยเมื่อต้องเจอคู่แข่งในระดับเดียวกันที่มีกลไกที่สเปกเหนือกว่า โดยเฉพาะแบรนด์จากฝั่ง SWATCH Group ที่มีการแชร์ Know How จนสามารถทำให้นาฬิกาของแบรนด์ต่างๆ ในเครือมีความสามารถในการแข่งขันที่สูงขึ้น

Oris Big Crown ProPilot Big Date Bronze Oris Big Crown ProPilot Big Date Bronze

Oris Big Crown ProPilot Big Date Bronze

สถานะของการเป็นแบรนด์เดี่ยวที่ไม่ได้อยู่ในเครือของ Oris อาจจะทำให้การต่อสู้ในตลาด Mass ของพวกเขาลำบากนิดนึง แต่ประเด็นเหล่านี้เป็นแค่จุดเล็กๆ ที่ผู้ใช้บางคน โดยเฉพาะแฟนๆ ของ Oris มองข้ามได้หากพวกเขาสามารถมองหาอะไรอื่นเข้ามาทดแทนจุดอ่อนตรงนี้

สำหรับผม กลไกก็มีความสำคัญระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้มีอิทธิพลต่อการเซย์เยสหรือโนในการซื้อมากไปกว่าองค์รวมของตัวนาฬิกา เพียงแต่ถ้าเลือกได้ ในฐานะคนซื้อก็อยากได้อะไรที่คุ้มค่าและตรงกับความต้องการที่อยู่ใน Check List ของเขาทุกข้อ แค่น่าเสียดายที่กับนาฬิกาสมัยนี้ เจ้า Oris Big Crown ProPilot Big Date Bronze น่าจะมีกำลังสำรองมากกว่านี้…เท่านั้นเอง

มาถึงการสรุปกับความพึงพอใจของผมที่มีต่อนาฬิกาเรือนนี้ แน่นอนว่าในแง่หน้าตา และการสวมใส่บนข้อมือ ผ่านอยู่แล้ว เพราะถ้ากระบวนการหลุดมาจนถึงผมจ่ายเงินแล้ว แสดงว่า เงื่อนไขเหล่านี้ถูกเช็คให้ผ่านหมด และต้องยอมรับว่าการเป็นนาฬิกาบรอนซ์ในสไตล์นักบินแบบโมเดิร์นของนาฬิการุ่นนี้ถือเป็นความโดดเด่นที่ทำให้ผมค่อนข้างชอบ และยอมลืมสิ่งที่ไม่ประทับใจบางข้อที่มีอยู่ เพื่อสานฝันจนกระทั่งให้กลายเป็นจริง

ข้อมูลทางเทคนิค: Oris Big Crown ProPilot Big Date Bronze

  • เส้นผ่านศูนย์กลาง : 41 มิลลิเมตร
  • Lug to Lug : 48.2 มิลลิเมตร
  • หนา : 12.4 มิลลิเมตร
  • ความกว้างขาสาย : 20 มิลลิเมตร
  • วัสดุตัวเรือน : บรอนซ์
  • กระจก : Sapphire
  • กลไก : Oris 751 แบบอัตโนมัติ
  • กำลังสำรอง : 38 ชั่วโมง
  • จำนวนทับทิม : 26 เม็ด
  • ความถี่ : 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง
  • การกันน้ำ : 100 เมตร
  • ประทับใจ : วัสดุบนตัวเรือนนักบิน การเลือกใช้สีของรายละเอียดบนหน้าปัด ขนาดที่กำลังดี รูปแบบของสายและบานพับสาย
  • ไม่ประทับใจ : กลไกที่กำลังสำรองน้อยไปหน่อยเมื่อเปรียบเทียบกับนาฬิกาใหม่ๆ ในยุคปัจจุบัน