Oris Big Crown ProPilot Altimeter ยกระดับความเหนือชั้นของนาฬิกานักบิน

0

อีกครั้งที่ Oris แสดงให้เห็นถึงความสนใจต่อการเลือกใช้วัสดุที่มีความยั่งยืนกับการใช้ตัวเรือนที่ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ (อีกครั้ง) พร้อมกับวิธีการผลิตที่สุดพิเศษ โดยนำมาใช้กับนาฬิการุ่น Big Crown ProPilot Altimeter ที่ได้รับการปรับปรุงทั้งในเรื่องของรูปลักษณ์ ความสามารถในการวัดความสูงที่เพิ่มขึ้นเป็น 19,700 ฟุตหรือ 6,000 เมตร และการใช้กลไกใหม่ในรหัส Oris 793 ที่มีกำลังสำรองเพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิม

Oris Big Crown ProPilot Altimeter
Oris Big Crown ProPilot Altimeter

Oris Big Crown ProPilot Altimeter ยกระดับความเหนือชั้นของนาฬิกานักบิน

  • อัพเกรดตัวเรือนด้วยการผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์โดยมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 47 มิลลิเมตร

  • มาพร้อมโมดูลสำหรับวัดระดับความสูงที่พัฒนาขึ้น จากเดิมอยู่ที่ 15,000 ฟุต หรือ 4,500 เมตร มาเป็น 19,700 ฟุต หรือ 6,000 เมตร

  • เปลี่ยนกลไกอัตโนมัติใหม่มาเป็นรหัส Oris 793 ที่มีกำลังสำรองเพิ่มขึ้น

- Advertisement -

เกือบ 10 ปีหลังจากที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2014 ทางด้าน Oris นำนาฬิกานักบินสุดเจ๋งอย่าง Big Crown ProPilot Altimeter กลับมาสู่ตลาดอีกครั้ง และแน่นอนว่าการกลับมาครั้งนี้ไม่ได้เป็นแค่เรื่องของการปรับโฉม หรือเพิ่มรุ่นพิเศษ แต่เป็นการปรับปรุงเพื่อยกระดับความเหนือชั้นของนาฬิกานักบินรุ่นนี้ให้เหนือขึ้นไปอีกด้วยตัวเรือนที่ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์แบบชิ้นเดียว รวมถึงฟังก์ชั่นวัดความสูงที่สามารถวัดได้สูงขึ้นจากรุ่นเดิม และขับเคลื่อนด้วยกลไกที่ได้รับการพัฒนาให้มีขนาดบางลงเพื่อรับกับตัวเรือนที่ผลิตจากวัสดุใหม่ด้วย

Oris Big Crown ProPilot Altimeter
Oris Big Crown ProPilot Altimeter

Oris Big Crown ProPilot Altimeter

ProPilot Altimeter สานต่อแนวทางในการเป็นทั้งเครื่องมือที่มีความสามารถทั้งในด้านการบอกเวลา ความดันอากาศ และระดับความสูงอย่างเที่ยงตรงแม่นยำผ่านเพียงหน้าปัดเดียวด้วยระบบจักรกลทั้งหมด และด้วยนวัตกรรมที่เต็มเปี่ยมทำให้ ProPilot Altimeter กลายมาเป็นนาฬิกาสำหรับนักบิน นักปีนเขา นักเดินเขา และถูกเรียกว่าเป็นนาฬิกาที่เหล่า “watchnerds” ปรารถนา ซึ่งในรุ่นใหม่ก็เช่นเดียวกัน Oris ยังคงคอนเซ็ปต์ในการพัฒนาตัวนาฬิกาด้วยแนวทางนี้

Oris Big Crown ProPilot Altimeter

Oris Big Crown ProPilot Altimeter

การเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของการปรับเปลี่ยนขนานใหญ่ให้กับ ProPilot Altimeter ซึ่งมีไฮไลท์อยู่ 3 จุดใหญ่ อย่างไรแรกก็คือ การเปลี่ยนจากตัวเรือนสแตนเลสสตีลมาเป็นคาร์บอนไฟเบอร์แบบชิ้นเดียวน้ำหนักเบา ผลิตด้วยกระบวนการที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ถูกพัฒนาและปรับปรุงให้สมบูรณ์แบบขึ้นโดย 9T Labs ซึ่งเป็นพันธมิตรของเรา ที่แยกออกมาจากมหาวิทยาลัย ETH Zurich อันทรงเกียรติ (Swiss Federal Institute of Technology – สถาบันเทคโนโลยีแห่งสหพันธ์สวิส) โดยเส้นผ่านศูนย์กลางของตัวเรือนยังมีขนาดที่ 47 มิลลิเมตรเช่นเดิม

Oris Big Crown ProPilot Altimeter Oris Big Crown ProPilot Altimeter Oris Big Crown ProPilot Altimeter

อย่างที่ 2 คือ การปรับรายละเอียดของสเกลและความสามารถในการวัดความสูงของตัวระบบ โดยภายหลังจากโปรเจ็คเพื่อการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นนาน 3 ปีเต็ม นาฬิกา ProPilot Altimeter รุ่นใหม่ล่าสุดมาพร้อมโมดูลสำหรับวัดระดับความสูงที่พัฒนาขึ้น จากเดิมอยู่ที่ 15,000 ฟุต หรือ 4,500 เมตร มาเป็น 19,700 ฟุต หรือ 6,000 เมตร

               ในรุ่นใหม่นี้จะมีสเกลให้เลือก 2 ระบบ คือ

  • Ref.793 7775 8734-Set มากับการระบุหน่วยเป็นฟุต
  • Ref. 793 7775 8764-Set มากับการระบุหน่วยเป็นเมตร

Oris Big Crown ProPilot Altimeter

และสุดท้ายคือ การเปลี่ยนกลไกใหม่ จากรุ่นเดิมใช้รหัส 733 สำรองกำลังงานได้ 38 ชั่วโมง มาเป็นการขับเคลื่อนด้วย Calibre 793 ซึ่งเป็นกลไกจักรกลออโตเมติกแบบสลิมไลน์ ที่มีพลังงานสำรอง 56 ชั่วโมงที่ได้รับการปรับปรุงขึ้น ซึ่งประกอบอยู่ภายในตัวเรือนที่บางลงกว่ารุ่นเดิม 1 มม.

Oris Big Crown ProPilot Altimeter Oris Big Crown ProPilot Altimeter

สำหรับนาฬิการุ่นนี้มีราคาอยู่ที่ 6,200 ฟรังก์สวิสส์ และเริ่มวางขายตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป

รายละเอียดทางเทคนิค : Oris Big Crown ProPilot Altimeter

  • เส้นผ่านศูนย์กลาง : 47 มิลลิเมตร
  • วัสดุตัวเรือน : คาร์บอนไฟเบอร์ชิ้นเดียว วงแหวนขอบหน้าปัดและฝาหลังไทเทเนียมเคลือบ PVD สีเทา
  • หน้าปัด : สีดำ พร้อมสเกลวัดระดับความสูงบนวงแหวนหน้าปัด หน่วยเป็นฟุต หรือเมตร
  • วัสดุเรืองแสง : ขีดบอกเวลา ตัวเลขบอกเวลา และเข็มนาฬิกา เคลือบด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova®
  • กระจกหน้าปัด : แซฟไฟร์ โค้งรูปโดมทั้งสองด้าน เคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนทั้งสองด้าน
  • ฝาหลัง : ฝาหลังไทเทเนียมเคลือบ PVD สีเทา ขันสกรู สลักชาร์ตแปลงมาตรวัดจากฟุตเป็นเมตร
  • ปุ่มปรับตั้งเวลา : เม็ดมะยมนิรภัยไทเทเนียมเคลือบ PVD สีเทาแบบขันเกลียว ณ ตำแหน่ง 2 นาฬิกา เม็ดมะยมวัดระดับความสูงไทเทเนียมเคลือบ PVD สีเทาแบบขันเกลียว ณ ตำแหน่ง 4 นาฬิกา
  • สายนาฬิกา : สายถักสีเขียวบุหนังสีน้ำตาล เฟืองล็อคสายแบบบานพับไทเทเนียมเคลือบ PVD สีเทา พร้อมระบบ fine adjustment system ในการปรับเลื่อนเพื่อเพิ่มหรือลดความยาวของสาย
  • การกันน้ำ 10 บาร์ (100 เมตร)
Oris Big Crown ProPilot Altimeter Oris Big Crown ProPilot Altimeter Oris Big Crown ProPilot Altimeter

Oris ร่วมมือกับ 9T Labs สำหรับตัวเรือน ProPilot Altimeter โดย Giovanni Cavolina ได้มาไขความลับในเรื่องนี้

Q : Giovanni ช่วยแนะนำตัวเอง และ 9T Labs…

A : สวัสดีครับ ผมชื่อ Giovanni ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ของ 9T Labs ซึ่งเป็นบริษัทไฮเทคของสวิสที่ตั้งอยู่ในเมืองซูริค เราก่อตั้งบริษัทขึ้นในปี 2018 และตอนนี้มีจำนวนพนักงานมากกว่า 60 คน และมีสำนักงานอยู่ในยุโรปและอเมริกาเหนือ 9T Labs ให้ความสำคัญกับสิ่งที่เราเรียกว่า “การขับเคลื่อนสู่ความเป็นกลางทางสภาพอากาศแห่งอนาคต” ซึ่งหมายถึงการแนะนำดีไซน์และมาตรฐานการผลิตใหม่ เพื่อชิ้นส่วนที่แข็งแกร่งขึ้นและน้ำหนักเบาขึ้น ด้วยต้นทุนต่ำและตามแนวทาง Zero Waste ลดขยะให้เป็นศูนย์

Q : ทำไม Oris ถึงติดต่อทาง 9T Labs?

A : Oris ต้องการนาฬิกาที่ทำจากวัสดุที่มีความแข็งแกร่งมากและน้ำหนักเบา แต่ในรูปแบบใหม่ที่เป็นนวัตกรรม นาฬิกาที่ผลิตโดยใช้คาร์บอนไฟเบอร์คอมโพสิตมีอยู่ทั่วไปในตอนนี้ มันกลายเป็นสิ่งที่ค่อนข้างน่าเบื่อและวัสดุก็ไม่เป็นไปตามแนวทางยั่งยืน  9T Labs ได้รับมอบหมายให้ใช้คาร์บอนไฟเบอร์คอมโพสิตในแนวทางที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน โดยใช้กระบวนการที่ยั่งยืนและดีไซน์ที่ไม่เหมือนใครด้วยรูปแบบศิลป์ที่เป็นธรรมชาติ การผลิตด้วยเอฟเฟกต์วงแหวนของเนื้อไม้ทำให้เกิดความท้าทายที่ไม่ธรรมดาสำหรับวัสดุนี้ ซึ่งโดยปกติความท้าทายจะขึ้นอยู่กับระดับความทนทานของวัสดุ เราได้ร่วมกับทีมออกแบบของ Oris เพื่อที่จะให้ได้ผลลัพธ์ออกมา ซึ่งทำออกมาได้ดีจริงๆ

Q : ตัวเรือนของ ProPilot Altimeter ผลิตขึ้นอย่างไร?

A : 9T Labs พัฒนาโซลูชั่นด้านการผลิตแบบครบวงจรที่ไม่เหมือนใครบนพื้นฐานของ “การผลิตแบบเติมแต่งและการขึ้นรูป” สิ่งนี้แตกต่างจากการพิมพ์สามมิติทั่วไปซึ่งส่วนใหญ่ใช้สำหรับการสร้างต้นแบบ เราสามารถผลิตเชิงอุตสาหกรรมและใช้เทคโนโลยีในการผลิตชิ้นส่วนเชิงโครงสร้างที่มีการใช้งานในปริมาณมาก นี่คือความก้าวหน้าที่แท้จริง

Q : อะไรคือประโยชน์ที่ได้จากวัสดุนี้?

A : มันคือส่วนประกอบของคาร์บอนไฟเบอร์และพอลีเมอร์ที่เรียกว่า PEKK ซึ่งมีสมบัติเชิงกลสูงทนทานต่อความร้อนและสารเคมี เมื่อรวมเข้าด้วยกันแล้วกลายเป็นวัสดุที่เบาคล้ายกับพลาสติกและแข็งแรงกว่าโลหะ ดังนั้นจึงมีน้ำหนักเบา มีความแข็งและความแกร่งสูง

Q : และวัสดุนี้ถูกนำไปใช้ที่ใดอีกบ้าง?

A : เทคโนโลยีของ 9T Labs ถูกนำไปใช้ในการผลิตชิ้นส่วนของเครื่องบิน ดาวเทียม รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ จักรยาน และอุปกรณ์ที่ใช้ในการผ่าตัด โอริสเป็นผู้ผลิตนาฬิการายแรกที่ใช้เทคโนโลยีของ 9T