Oris Aquis Big Day Date ขยายขนาดเพิ่มช่องวันที่

0

จากการเปิดตัวครั้งแรกเป็น Limited Edition ในชื่อ Hammerhead ในที่สุด Oris ก็ปรับปรุงไลน์อัพ Aquis จนได้ โดยเพิ่มทางเลือกใหม่ด้วยรุ่น Big Day Date พร้อมขยายตัวเรือนเป็น 45.5 มิลลิเมตร กันน้ำเพิ่มขึ้นเป็น 500 เมตร และใช้กลไกใหม่ที่มีฟังก์ชั่นแสดงทั้งวันที่ และวันในสัปดาห์

- Advertisement -

Oris Aquis Big Date

Oris Aquis Big Day Date ขยายขนาดเพิ่มช่องวันที่

สำหรับใครหลายคน โดยเฉพาะเรา Oris Aquis คือนาฬิกาที่โอเค

ลงตัวทั้งหน้าตา และฟังก์ชั่นที่ไม่เยอะเกิน มีแค่ Date หรือการบอกวันที่เท่านั้นบนหน้าปัด

แต่แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่คิดเหมือนกับเรา และพวกเขาอาจจะอยากได้นาฬิกาแบบ 3 เข็มที่มีอะไรมากขึ้น

โดยเฉพาะในเรื่องของการแสดงวันที่ ซึ่งควรจะมาในรูปแบบของ Day/Date ไม่ใช่แค่ Date

และดูเหมือนว่าความต้องการตรงนี้จะมีพลังค่อนข้างเยอะ และเสียงดังไปจนถึงสำนักงานใหญ่ที่ Holstien ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

จนทำให้พวกเขาเปิดตัว Aquis ใหม่ออกมากับรุ่น Big Day Date ที่มาครบทั้ง Day และ Date

เอาเข้าจริงๆ ตรงนี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรสำหรับ Aquis เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาก็เคยผลิตรุ่น Day Date ออกมาแล้ว เพียงแต่ในตอนนั้นมันอยู่ใน Limited Edition ของรุ่น Hammerhead ส่วนที่เห็นอยู่นี้คือ รุ่นปกติที่มีขาย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกสำหรับ Aquis

แน่นอนว่าในเรื่องของขนาดตัวเรือนและรายละเอียดที่มองเห็นในแง่ของภาพรวมนั้น ตอนแรกคิดว่าไม่น่าจะมีอะไรต่าง แต่เอาเข้าจริงๆ คนละเรื่องเลยกับรุ่น Date โดยมากับตัวเรือนที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 45.5 มิลลิเมตร เพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 2 มิลลิเมตร และก็เป็นไซส์เดียวกับ Hammerhead Limited Edition พร้อมกับเพิ่มความสามารถในการกันน้ำจาก 300 เมตรในรุ่น Date มาเป็น 500 เมตรในรุ่น Big Day Date

Oris Aquis Big Date

อีกจุดที่ต่างออกไป คือ มีการใช้ขอบ Chapter Ring ในหน้าปัด พร้อมกับสเกลสำหรับเผื่อใช้ในการจับเวลา ส่วนตัวหน้าปัดต่างอยู่แล้ว เพราะเปลี่ยนจาก Date มาเป็น Day Date เพียงแต่แทนที่ช่องนี้จะอยู่ในตำแหน่ง 6 นาฬิกาเหมือนเดิม ก็ถูกย้ายมาอยู่ที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกาแทน ส่วนสีบนหน้าปัดในตอนนี้ก็มีแบบเดียวคือสี Deep Blue พร้อมกับขอบ Bezel สีดำที่ผลิตจากเซรามิค ส่วนกระจกเป็นแบบทรงโดมทั้ง 2 ด้านและเคลือบสารกันการสะท้อนแสงที่ด้านใน และแน่นอนว่ากลไกมีการเปลี่ยนแปลงจากรุ่น Date มาเป็น Cal.752 ที่พัฒนามาจาก Selitta SW220

ในรุ่นนี้มีขายทั้งสายเหล็ก สายยางที่มีให้เลือกทั้งแบบสายดำ และสายน้ำเงิน โดยที่มีรุ่นสายหนังเป็นอีกทางเลือก โดยรุ่นสายเหล็กจะตั้งราคาเอาไว้ที่ 2,200 ฟรังก์สวิสส์ หรือราวๆ 68,000 บาท ส่วนสายอื่นๆ อยู่ที่ 2,000 ฟรังก์สวิสส์ หรือ 63,000 บาท

สำหรับบ้านเรายังไม่มีเข้ามาขายในตอนนี้ แต่คิดว่าน่าจะรอกันได้อีกไม่นาน