คอลเล็กชั่น Diver 200M ถือเป็นอีกรุ่นหนึ่งที่เข้ามามีส่วนในการฉลองครบรอบ 70 ปีของ โอเรียนท์ โดยทางแบรนด์มีการเปิดตัวรุ่นใหม่ออกมาด้วยกัน 5 รุ่นและหนึ่งในนั้นเป็น Limited Edition ที่มีการผลิต 2,500 เรือน
Orient New Diver 200M โฉมใหม่ฉลอง 70 ปี
นาฬิกา โอเรียนท์ เผยโฉมนาฬิกาทรงสปอร์ตแนวดำน้ำคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมเม็ดมะยมแบบขันเกลียวในตำแหน่ง4นาฬิกาและสีสันอันโดดเด่น โดยจะมีจำหน่ายด้วยกัน 5 รุ่นและหนึ่งในนั้นเป็น Limited Edition
จากประวัติศาสตร์อันยาวนานมากกว่า 50 ปีของนาฬิกาทรงสปอร์ตแนวดำน้ำของแบรนด์ที่ออกสู่ตลาดในปี ค.ศ. 1964 มาถึงวันนี้ โอเรียนท์ พร้อมแล้วที่จะนำเสนอนาฬิกาดำน้ำรุ่นใหม่ที่อัดแน่นไปด้วยรายละเอียดในการออกแบบและการผลิตที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความพิถีพิถันไม่ว่าจะเป็นการใช้กระจกแซฟไฟน์ที่ประกอบอยู่บนตัวเรือนขนาด 43.4 มิลลิเมตรอย่างแน่นหนาและโดยเฉพาะมะยมแบบขันเกลียวที่ถูกเลื่อนให้มาอยู่ในตำแหน่ง 4 นาฬิกาเพื่อความสบายในการสวมใส่และใช้งาน พร้อมทั้งยังทำหน้าที่ป้องกันแรงดันน้ำซึ่งสามารถทนแรงดันน้ำได้เทียบเท่ากับระดับความลึก 200 เมตร จึงเป็นเหมือนเรือนเวลาในอุดมคติสำหรับผู้ที่รักกิจกรรมทางน้ำและกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ
นอกจากนี้ โอเรียนท์ รุ่น New Diver 200 M ยังเพิ่มความโดดเด่นในการเลือกใช้สีที่สดใสบนหน้าปัดที่เล่นลวดลายแบบ sunburst ประกอบไปด้วย 4 รุ่นมาตรฐานได้แก่ สีดำ- RA-AC0K01B, สีเขียวข RA-AC0K02E, สีน้ำเงิน- RA-AC0K03L, เขียวด้าน-RA-AC0K04E และ 1 รุ่นพิเศษสีน้ำตาลทองข RA-AC0K05G ที่ผลิตขึ้นแบบจำกัด 2,500 เรือนในวาระการครบรอบ 70 ปีของแบรนด์
Orient New Diver 200 M รุ่นพิเศษนี้ได้รับการออกแบบด้วยการไล่ระดับโทนสีทองบนหน้าปัดที่ให้ความรู้สึกแบบวินเทจอันได้แรงบันดาลใจมาจากรุ่น Jaguar Focus ซึ่งเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมในช่วงทศวรรษที่ 70 คุณสมบัติที่โดดเด่นอีกประการหนึ่งคือการเพิ่มลูกเล่นไปบนขอบตัวเรือนที่มีการผสมสีคู่เช่นสีน้ำเงินกับสีแดง หรือสีเขียวคู่กับสีส้ม แต่ละรุ่นจะเคลือบ luminous light ที่เข็มนาฬิกาและหลักบอกเวลาช่วยเพิ่มความชัดเจนในการดูเวลาแม้อยู่ในที่มืด
สำหรับรุ่น RA-AC0K04E และ RA-AC0K05G จะเลือกใช้ตัวเรือนสีทองแดงซึ่งเป็นครั้งแรกของแบรนด์ที่เลือกใช้กับนาฬิกาสปอร์ตมาพร้อมกับสายไนล่อนและสายหนังในแบบ NATO สำหรับรุ่นพิเศษ สำหรับผู้ที่ต้องการความแปลกใหม่ในนาฬิกาดำน้ำแบบดั้งเดิม
ในรุ่นธรรมดาจะมีราคา 15,000 บาท ส่วนรุ่น Limited Edition จะอยู่ที่ 16,000 บาท
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
