ก่อนที่จะได้เดินทางและสร้างตำนานในฐานะนาฬิกาเรือนแรกบนดวงจันทร์ Omega Speedmaster ได้รับควานนิยมในกลุ่มนักบินอย่างมาก และเพื่อระลึกถึงเรื่องราวและการพัฒนาของแบรนด์ที่มีต่อวงการบิน ทาง OMEGA ได้เปิดตัวนาฬิการุ่นPilot Flight Qualified ออกสู่ตลาด
Omega Speedmaster Pilot Flight Qualified ระลึกถึงจุดเริ่มต้นกับความนิยมของนักบิน
-
นาฬิกาที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อสื่อถึงเรื่องราวของ OMEGA กับการบิน
-
ตัวเรือน 40.85 มิลลิเมตรได้รับแรงบันดาลใจจากดีไซน์มาจาก Speedmaster รุ่นแรก
-
ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ 9900 พร้อมหน้าปัดที่ดีไซน์มาเพื่อการใช้งานของนักบิน
หลังจากที่มีภาพหลุดออกมาให้ชาวเน็ตได้เห็นกันอยู่นานสองนาน ในที่สุด OMEGA ก็เฉลยแล้วว่า Speedmaster แบบ 2 วงที่ใช้กลไก Calibre 9900 นั้นคือรุ่นอะไร โดยในตอนนี้ทางแบรนด์ได้เปิดตัว Omega Speedmaster Pilot Flight Qualified ออกมาอย่างเป็นทางการแล้วบนตัวเรือนขนาด 40.85 มิลลิเมตร
นาฬิกา OMEGA มีชื่อเสียงที่ได้รับการยกย่องในหมู่นักบินมาโดยตลอด ตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา แบรนด์นี้ส่งมอบนาฬิกามากกว่า 110,000 เรือนให้กับกระทรวงกลาโหมของอังกฤษเพื่อสนับสนุนนักบินของกองทัพอากาศและกองทัพเรือระหว่างปฏิบัติหน้าที่ นาฬิการุ่นที่มีชื่อเสียงและใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุด คือ รุ่น UK/CK2292 ผลิตขึ้นเพื่อส่งให้กับบุคลากรส่วนใหญ่ของกองทัพอากาศอังกฤษและกองบิน โดยมีคุณสมบัติเด่นคือมีความต้านทานแม่เหล็กสูง ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักบินที่นั่งหลังเครื่องยนต์อันทรงพลังของเครื่องบินเฮอริเคนและสปิตไฟร์
เมื่อ OMEGA Speedmaster ถือกำเนิดขึ้นในปี 1957 นักบินบางส่วนในกองทัพอากาศสหรัฐฯ ก็รับเอาไปใช้อย่างรวดเร็ว โดยหลายคนต่อมาได้กลายเป็นนักบินอวกาศของยานเมอร์คิวรีในโครงการอวกาศที่มีมนุษย์ร่วมเดินทางครั้งแรกของ NASA
ในปี 1969 OMEGA Flightmaster ได้รับการเปิดตัวเพื่อตอบสนองความต้องการของนักบินเครื่องบินโดยเฉพาะ ช่วยให้พวกเขาดูเวลาได้ในทันที อีกทั้งยังมอบเครื่องมือที่ครบครันสำหรับการเดินทางให้กับนักเดินทางอีกด้วย การออกแบบที่ล้ำสมัยนั้นดูใหญ่และโดดเด่น และแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากนาฬิกาจับเวลาแบบมาตรฐานในสมัยนั้น
ปี 1969 ยังเป็นปีที่ Concorde บินครั้งแรกอีกด้วย ไม่เพียงแต่เครื่องมือวัดเวลาของ OMEGA จะผลิตเป็นส่วนประกอบมาตรฐานสำหรับเครื่องบิน Concorde หลายลำเท่านั้น แต่ลูกเรือ Concorde หลายคนยังเลือกสวมนาฬิกา OMEGA เพื่อให้บอกเวลาได้แม่นยำอยู่เสมอ กัปตันจอห์น แฮ็คเกตต์ ซึ่งเป็นคนแรกที่เป็นนักบิน Concorde เหนือมหาสมุทรแอตแลนติกก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย
แม้ว่าในรายละเอียดของ OMEGA ที่เปิดเผยออกมาจะระบุว่านาฬิกาเรือนนี้มีแรงบันดาลใจมาจาก Speedmaster รุ่นแรกที่เปิดตัวในปี 1957 แต่ในส่วนของของรายละเอียดที่อยู่บนหน้าปัดบางอย่างก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Flightmaster ที่เปิดตัวในปี 1969 ด้วยเช่นกัน โดย Speedmaster รุ่นแรก ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในกลุ่มของนักบินเครื่องบินขับไล่ในกองทัพอากาศสหรัฐฯ จนถูกขนานามว่า ‘Pilot’s Choice’ เพราะมีดีไซน์ที่ลงตัว ทนทาน และใช้งานสะดวก ซึ่งตัวเรือนไซส์ 40.85 มีดีไซน์ที่เหมือนกัน Speedmaster รุ่นแรก
Omega Speedmaster Pilot Flight Qualified ในแง่ของการออกแบบรายละเอียด คงต้องบอกว่ามีกลิ่นอายของการออกแบบรายละเอียดที่อยู่บนตัวเรือนและสิ่งที่อยู่บนหน้าปัดให้สอดคล้องกับการใช้งานและมีกลิ่นอายของ Flightmaster รุ่นแรกในปี 1969 เช่น สีสัน เข็ม และรายละเอียดบนหน้าปัด ที่สำคัญบนตัวเรือนเน้นการขัดแต่งแบบด้านเพื่อลดการสะท้อนแสงในขณะที่กำลังใช้งาน รวมถึงหน้าปัดแบบด้านที่เป็นลายเกรนสีดำบนพื้นผิวหลัก
บนหน้าปัดย่อยแบบคู่ที่อยู่บนหน้าปัดหลักของนาฬิกา โดยตรงกลางของทั้งสองหน้าปัดทำจากโอพาลีนและมีขอบลาดเอียงด้านนอก การออกแบบโดยรวมได้รับแรงบันดาลใจจากลักษณะของห้องนักบิน ที่เข้ากันกับเข็มนาฬิกาโครโนกราฟตรงกลางที่มีปลายรูปทรงเครื่องบินสีส้มเคลือบเงา ฝั่งซ้ายในตำแหน่ง 9 นาฬิกาเป็นเข็มวินาทีแยกของระบบแสดงเวลาหลัก ตกแต่งคล้ายกับหน้าปัดแสดงขอบฟ้าเทียมของห้องนักบิน พร้อมกับเข็มสีเหลืองขนาดใหญ่ ส่วนหน้าปัดย่อยฝั่งขวาในตำแหน่ง 3 นาฬิกาได้รับแรงบันดาลใจมาจากตัวแสดงอัตราการเผาไหม้ในห้องนักบิน มาพร้อมกับเข็มขนาดใหญ่สีส้ม
นอกจากนั้น สิ่งที่แปลกตาคือ ปลายเข็มชั่วโมง-นาที รวมถึงหลักชั่วโมงบนหน้าปัดจะมากับบล็อกขนาดใหญ่และมีการเคลือบด้วยสารเรืองแสง Super-Luminova เพื่อความสะดวกในการมองเห็นยามค่ำคืน
สเกลของ Tachymeter ที่อยู่บนเพลทอะลูมิเนียมสีดำด้าน รวมถึง Dot Over Ninety หรือจุดที่อยู่เหนือตัวเลข 90 และ Diagonal to Seventy หรือสเกลที่ลดความถี่ลงเมื่อข้ามจากตัวเลข 75 มายัง 70
เมื่อพลิกฝาหลังจะพบกับฝาหลังแบบทึบซึ่งไม่มีรายละเอียดอะไรเลยอยู่บนฝาหลัง นอกจากสัญลักษณ์ของ Speedmaster ที่อยู่ตรงกลาง และข้อความ 100 เมตรเพื่อสื่อถึงความสามารถในการกันน้ำ
การขับเคลื่อนเป็นหน้าที่ของกลไก Calibre 9900 แบบอัตโนมัติที่สามารถจับเวลาได้สูงสุด 12 ชั่วโมง และมีความเที่ยงตรงที่เหนือระดับในแบบ Master Chronometer ที่ผ่านการรับรองโดย METAS และระบบปล่อยจักร Co-Axial สามารถทนทานต่อสนามแม่เหล็กได้ถึง 15,000 เกาส์ คุณสมบัตินั้นรวมไปถึงซิลิคอนบาลานซ์สปริง บาร์เรลทั้งสองติดตั้งเรียงกันและฟังก์ชั่นบอกเขตเวลา มีเข็มชั่วโมง นาที และวินาทีแบบโครโนกราฟตรงกลาง พร้อมด้วยหน้าปัดย่อยขนาดเล็กบอกวินาที หน้าปัดย่อยจับเวลา 12 ชั่วโมง และ 60 นาที ผิวสัมผัสชุบด้วยโรเดียมพร้อมลายเจนีวาเวฟแบบอาหรับ โดยมีกำลังสำรองสูงสุด 60 ชั่วโมง
Omega Speedmaster Pilot Flight Qualified Ref. 332.10.41.51.01.002 มาพร้อมกับสายนาโต้ที่มีการเสริมด้วยเส้นใย Kevlar พร้อมกับซองหนังและเครื่องมือสำหรับใช้ในการเปลี่ยนสาย โดยราคาอยู่ที่ 350,000 บาท
รายละเอียดทางเทคนิค : Omega Speedmaster Pilot Flight Qualified
- เส้นผ่านศูนย์กลาง : 40.85 มิลลิเมตร
- ความหนา : 14.7 มิลลิเมตร
- Lug to Lug : 49.6 มิลลิเมตร
- ความกว้างขาสาย : 20 มิลลิเมตร
- กระจก : Sapphire เคลือบสารกันการสะท้อนแสงทั้ง 2 ฝั่ง
- กลไก : อัตโนมัติ Calibre 9900 มีความเที่ยงตรง Master Chronometer
- ฟังก์ชั่น : จับเวลาสูงสุด 12 ชั่วโมง
- ความถี่ : 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง
- กำลังสำรอง : 60 ชั่วโมง
- การกันน้ำ : 100 เมตร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline