การเพิ่มอีกทางเลือกใหม่สำหรับคอลเล็กชั่น Speedmaster Moonphase กับนาฬิการุ่นใหม่ที่มากับตัวเรือน 43 มิลลิเมตร พร้อมกลไกใหม่แบบไขลานในรหัส Calibre 9914 มาพร้อมฟังก์ชั่นจับเวลา และการแสดง Moonphase สำหรับซีกโลกเหนือและใต้ ซึ่งในช่วงแรกมีจำหน่าย 2 รุ่นย่อยด้วยหน้าปัดอุกาบาตหรือ Meteorite สีดำ และสีเทา
OMEGA Speedmaster Moonphase Meteorite โฉมใหม่ปรับไซส์ลดลงพร้อมกลไกไขลาน
-
อีกทางเลือกของคนชอบฟังก์ชั่นข้างขึ้นข้างแรมในนาฬิกา Speedmaster
-
ขนาดตัวเรือน 43 มิลลิเมตรพร้อมกลไกใหม่แบบไขลาน Cal.9914
-
มาพร้อมฟังก์ชั่นจับเวลา และการแสดง Moonphase สำหรับซีกโลกเหนือและใต้
การเพิ่มฟังก์ชั่น Moonphase ในคอลเล็กชั่น Speedmaster มีให้สัมผัสกันมาตั้งแต่ทศวรรษ 1980 มาจนถึงช่วงประมาณกลางปี 2016 กับการเลือกใช้กลไกไขลานในรหัส 1866 ก่อนที่ OMEGA จะปรับเปลี่ยนแนวทางใหม่ด้วยการใช้กลไกแบบอัตโนมัติรุ่นใหม่ที่มีความเที่ยงตรงในระดับ Master Chronometer และมาพร้อมกับตัวเรือน 44.25 มิลลิเมตร และได้ยึดแนวทางนี้ในการทำตลาดมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
OMEGA เปิดทางเลือกใหม่ให้กับแฟนๆ ของ Speedmaster ที่ชื่นชอบฟังก์ชั่น Moonphase ด้วย OMEGA Speedmaster Moonphase Meteorite รุ่นใหม่ที่มากับหน้าปัดหินอุกาบาต พร้อมกับการปรับขนาดตัวเรือน รวมถีงดีไซน์ที่อยู่บนหน้าปัด เช่นเดียวกับการใช้กลไกไขลานรุ่นใหม่ในรหัส Calibre 9914 ที่สามารถแสดงข้างขึ้นข้างแรมได้ทั้งซีกโลกเหนือและใต้
อย่างไรก็ตาม ในปี 2025 OMEGA เปิดตัว Speedmaster Moonphase รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นการเพิ่มอีกทางเลือกจากรุ่น 44.25 มิลลิเมตรที่มีอยู่แล้วในตลาด พร้อมกับตัวเลือกไซส์ใหม่ ด้วยขนาด 43 มิลลิเมตร
สิ่งที่สำคัญก็คือการเปลี่ยนกลไกจากรหัส Cal.9904 มาเป็น Cal.9914 Co-Axial Master Chronometer ซึ่งเป็นกลไหม่ โดยกลไกไขลานรุ่นใหม่ที่สามารถรับชมความงดงามของการขัดแต่งได้ผ่านกระจกแซฟไฟร์บนฝาหลัง มาพร้อมคุณสมบัติการต้านทานสนามแม่เหล็กอันสูงถึง 15,000 เกาส์และรับประกันด้วยมาตรฐานระดับสูงที่สุดของ OMEGA ทั้งในด้านความเที่ยงตรงและประสิทธิภาพทางโครโนเมตริกตามข้อกำหนดจากสถาบันมาตรวิทยาแห่งสมาพันธรัฐสวิส (METAS)
การแสดงข้างขึ้นข้างแรมได้ทั้งซีกโลกเหนือและใต้ ซึ่งหน้าปัดย่อยในตำแหน่ง 6 นาฬิกา จะเป็นฟังก์ชั่นแสดงดิถีหรือการเคลื่อนตัวของดวงจันทร์ ซึ่งบนเพลทของฟังก์ชั่นนี้จะมากับรูปภาพดวงจันทร์ทรงคาโบชงที่ผลิตจากชิ้นส่วนอุกกาบาตจากดวงจันทร์ของแท้ ซึ่งเมื่อหมุนก็จะเผยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของแสงตามที่มองเห็นได้จากซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้ และที่น่าประทับใจยิ่งกว่านั้นก็คือดวงดาวบนพื้นหลังถูกจัดเรียงอย่างแม่นยำเช่นเดียวกับในค่ำคืนที่ยาน Apollo 11 ไปถึงดวงจันทร์ในปี 1969 เมื่อมองจากบ้านของ OMEGA ที่เมืองเบียนน์ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ส่วนหน้าปัดย่อย ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกาแสดงการจับเวลา 60 นาทีและ 12 ชั่วโมงในขณะที่หน้าปัดย่อยบอกวินาทีที่ตำแหน่ง 9
นาฬิกาที่ทำตลาดจะมีด้วยกัน 2 รุ่นย่อย คือ
-
Ref. : 304.30.43.52.01.001 หน้าปัดอุกกาบาตเคลือบ PVD สีดำบนฐานหน้าปัดเคลือบ PVD สีดำ ติดตั้งด้วยชุดเข็มและหลักชั่วโมงจากไวท์โกลด์ 18K กับขอบตัวเรือนเซรามิกสีดำที่มีสเกลทาคีมิเตอร์อีนาเมลสีขาว
-
Ref. : 304.30.43.52.06.001 เป็นหน้าปัดหินอุกาบาตสีเทา หน้าปัดย่อยสีน้ำเงิน หน้าปัดอุกกาบาตเคลือบกัลวานิกสีเทาบนฐานหน้าปัดเคลือบ PVD สีน้ำเงิน ติดตั้งด้วยขอบตัวเรือนเซรามิกเคลือบ PVD สีน้ำเงินที่มีสเกลทาคีมิเตอร์อีนาเมลสีขาว ชุดเข็มและหลักชั่วโมงถูกรังสรรค์จากทอง 18K เคลือบ PVD สีน้ำเงิน ในขณะที่ชุดเข็มบนหน้าปัดย่อยถูกรังสรรค์จากไวท์โกลด์ 18K
นาฬิกาแต่ละรุ่นมาพร้อมกับสายนาฬิกาโลหะขัดเงาสลับด้านที่มีระบบปรับสายซึ่งเป็นสิทธิบัตรของ OMEGA ซึ่งเติมเต็มรายละเอียดให้กับเรือนเวลาแห่งแรงบันดาลใจที่ทำให้ Speedmaster ยังคงรักษาความเชื่อมโยงกับมรดกทางดวงจันทร์ในทุกวันและทุกซีกโลก
OMEGA Speedmaster Moonphase Meteorite ทั้ง 2 รุ่นมีราคาเท่ากันที่ 632,000 บาท
รายละเอียดทางเทคนิค : OMEGA Speedmaster Moonphase Meteorite
- เส้นผ่านศูนย์กลาง : 43 มิลลิเมตร
- ความหนา : 6 มิลลิเมตร
- Lug to Lug : 48.6 มิลลิเมตร
- ความกว้างขาสาย : 21 มิลลิเมตร
- วัสดุตัวเรือนและสาย : สเตนเลสสตีล
- กระจก : Sapphire พร้อมเคลือบสารกันการสะท้อนแสงทั้ง 2 ฝั่ง
- กลไก : Calibre 9914 แบบไขลาน ะระบบปล่อยจักร Co-Axial มีความเที่ยงตรงระดับ Master Chronometer
- ฟังก์ชั่น : จับเวลา Chronograph และ Moonphase แสดงข้างขึ้นข้างแรมทั้งซีกโลกเหนือและใต้
- กำลังสำรอง : 60 ชั่วโมง
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline