OMEGA Speedmaster Dark Side of the Moon Apollo 8 การกลับมาอีกครั้งของโปรเจ็กต์บินรอบดวงจันทร์

0

OMEGA นำเรื่องราวความสำเร็จของโครงการ Apollo 8  ซึ่งเป็นการโคจรรอบดวงจันทร์เป็นครั้งแรกของมนุษย์กลับมาอีกครั้ง โดยคราวนี้นำเสนอผ่านนาฬิการุ่น Speedmaster Dark Side of the Moon Apollo 8 มากับตัวเรือนเซรามิกขนาด 44.25 มิลลิเมตร และกลไกไขลาน Calibre 3869

- Advertisement -

OMEGA Speedmaster Dark Side of the Moon Apollo 8

OMEGA Speedmaster Dark Side of the Moon Apollo 8 การกลับมาอีกครั้งของโปรเจ็กต์บินรอบดวงจันทร์

  • นาฬิการุ่นพิเศษเฉลิมฉลองการโคจรรอบดวงจันทร์เป็นครั้งแรกของนักบินอวกาศจากโครงการ Apollo 8

  • มากับตัวเรือนขนาด 44.25 มิลลิเมตรผลิตจากเซรามิก พร้อมหน้าปัดที่มีการขัดแต่งและสร้างสรรค์ลวดลายเหมือนผิวดวงจันทร์

  • ขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลาน Calibre 3869

Dark Side Of the Moon Apollo 8  ของ OMEGA Speedmaster กลับมาอีกครั้ง หลังจากที่เคยเปิดตัวเวอร์ชันแรกออกมาเมื่อปี 2018 ครั้งนี้มากับตัวเรือนเซรามิก พร้อมกับจรวดแซทเทิร์น V ที่นำนักบินอวกาศจากโครงการนี้เดินทางไปยังดวงจันทร์ก่อนสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในการบินโคจรรอบดวงจันทร์เป็นครั้งแรก

OMEGA Speedmaster Dark Side of the Moon Apollo 8

ในปี 1968 ประวัติศาสตร์บทใหม่ก็ถูกจารึกเมื่อภารกิจ Apollo 8 สามารถบินโคจรรอบดวงจันทร์ครั้งแรกที่มีมนุษย์ สิ่งที่อยู่บนข้อมือนักบินอวกาศทุกรายระหว่างภารกิจแห่งการบุกเบิกครั้งนั้นคือนาฬิกา OMEGA Speedmaster – เครื่องมือที่พวกเขาต้องพึ่งพาตลอดการรณรงค์ไปดวงจันทร์ของ NASA ในปีนี้ OMEGA จึงขอยกย่องเรื่องราวดังกล่าวผ่านนาฬิกา Speedmaster Dark Side of the Moon รุ่นใหม่ที่รังสรรค์ด้วยเทคโนโลยีอันล้ำยุค, วัสดุหลากหลายแบบ และอัดแน่นด้วยความเชี่ยวชาญในการผลิต

OMEGA ได้เคยเผยโฉมนาฬิกา Speedmaster Dark Side of the Moon Apollo 8 ครั้งแรกเมื่อปี 2018 เนื่องในวาระครบรอบ 50 ปีของภารกิจ และบัดนี้แบรนด์ได้หวนย้อนกลับไปสู่จุดเริ่มต้นด้วยการยกระดับรายละเอียดในการออกแบบให้ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น

OMEGA Speedmaster Dark Side of the Moon Apollo 8 OMEGA Speedmaster Dark Side of the Moon Apollo 8 OMEGA Speedmaster Dark Side of the Moon Apollo 8

สำหรับรุ่นใหม่ในรหัส Ref. 310.92.44.50.01.001 การรังสรรค์สัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ทั่วทั้งการออกแบบ ลวดลายพื้นผิวดวงจันทร์บนกลไกนาฬิกา Calibre 3869 จึงถูกตกแต่งด้วยกรรมวิธีการระเหยด้วยเลเซอร์บนชิ้นส่วนเมนเพลทกับสะพานเครื่องรมดำ

OMEGA Speedmaster Dark Side of the Moon Apollo 8 OMEGA Speedmaster Dark Side of the Moon Apollo 8 OMEGA Speedmaster Dark Side of the Moon Apollo 8

เช่นเดียวกับเรื่องราวของดวงจันทร์ที่มี 2 ด้าน กลไกรุ่นนี้จะอวดโฉมให้ได้เห็นทั้งสองด้านที่แตกต่างกัน บนฝั่งหน้าปัดจะแสดงด้านของดวงจันทร์ที่เรามองเห็นจากโลก ในขณะที่ด้านหลังของเรือนเวลาจะเผยด้านมืดของดวงจันทร์ที่มีเพียงนักบินอวกาศเท่านั้นที่เคยสัมผัส กรรมวิธีการสลักด้วยเลเซอร์และการใช้พื้นผิวที่ตัดกันจึงทำให้การปรับโฉมครั้งนี้เป็นการตีความดวงจันทร์ใหม่ รายละเอียดต่างๆ ได้ถูกจัดวางอย่างวิจิตรและผสมผสานไปกับชิ้นส่วนจักรที่เคลือบด้วยสีเทาอ่อนกับบาลานซ์วีลเคลือบสีทองและเทาเข้มอย่างลงตัว

OMEGA Speedmaster Dark Side of the Moon Apollo 8 OMEGA Speedmaster Dark Side of the Moon Apollo 8

นอกจากนี้ กลไกไขลาน Calibre 3869 ยังได้รับการรับรองระดับ Co-Axial Master Chronometer ซึ่งมอบคุณสมบัติด้านความเที่ยงตรง, ประสิทธิภาพทางโครโนเมตริกและคุณสมบัติด้านการต้านทานสนามแม่เหล็กที่สูงที่สุดในอุตสาหกรรม และมีกำลังสำรองในระดับ 50 ชั่วโมง

สามารถชมกลไกที่ตกแต่งด้วยดวงจันทร์ได้ผ่านหน้าปัดแบบฉลุของนาฬิกาที่รังสรรค์จากอลูมิเนียมอโนไดซ์สีดำ กระนั้นการเดินทางก็ยังไม่สิ้นสุด สำหรับตัวเรือนขนาด 44.25 มิลลิเมตร ชิ้นส่วนขอบตัวเรือนขัดเงากับฝาหลังของ OMEGA รุ่นนี้จะผลิตจากเซรามิกสีดำหลายชิ้น อีกทั้งเติมเต็มด้วยสเกลทาคีมิเตอร์จากอีนาเมลแบบ “กรองด์ เฟอ” (Grand Feu) สีขาว เข็มโครโนกราฟกลางสีเหลืองเคลือบซึ่งเป็นโทนเดียวกับบนส่วนของสายนาฬิกาแบบฉลุ ซึ่งรังสรรค์จากวัสดุยางสีดำและตกแต่งด้านในด้วยสีเหลือง

OMEGA Speedmaster Dark Side of the Moon Apollo 8 OMEGA Speedmaster Dark Side of the Moon Apollo 8

อีกหนึ่งรายละเอียดใหม่คือเข็มวินาทีขนาดเล็กที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกาที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการจดสิทธิบัตรซึ่งผลิตจากวัสดุไทเทเนียมเกรด 5 และมีรูปทรงคล้ายกับจรวด Saturn V อันโด่งดังของ NASA ชิ้นส่วนสามมิตินี้ถูกรังสรรค์จากกรรมวิธีการกลึงด้วยเลเซอร์ในขณะที่สีมาจากกระบวนการเคลือบด้วยสีขาว, ระเหย และรมดำด้วยเลเซอร์ รายละเอียดขนาดเล็กทว่าเปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจแห่งการเฉลิมฉลองให้กับความสำเร็จของโครงการ Apollo

OMEGA Speedmaster Dark Side of the Moon Apollo 8

ฝาหลังได้รับการประดับด้วยข้อความต่างๆ รวมถึง “WE’LL SEE YOU ON THE OTHER SIDE” – ประโยคสุดท้ายที่ จิม โลเวลล์ (Jim Lovell) ผู้เป็นนักบินประจำโมดูลบัญชาการพูดกับศูนย์ควบคุมก่อนที่ภารกิจ Apollo 8 จะขาดการติดต่อระหว่างที่เข้าไปเยือนยังด้านมืดของดวงจันทร์เป็นครั้งแรก

พื้นผิวดวงจันทร์อันห่างไกลได้เป็นจุดกำเนิดเรื่องราวและความสงสัยมาอย่างยาวนาน การสวมใส่เรือนเวลารุ่นนี้จึงเป็นการเชื่อมต่อกับดวงดาวบริวารของเราอย่างแท้จริงเฉกเช่นเดียวกับสายสัมพันธ์ที่ OMEGA มีต่อการสำรวจอวกาศ เมื่อโลกมองหาความเป็นไปได้ในอนาคตเบื้องหน้า ภารกิจ Apollo 8 จะยังคงย้ำเตือนให้เราเห็นว่าความร่วมมือของมนุษยชาตินั้นพาให้เราไปได้ไกลถึงเพียงใด

OMEGA Speedmaster Dark Side of the Moon Apollo 8 ทำตลาดในเมืองไทยแล้วกับราคา 527,000 บาท

รายละเอียดทางเทคนิค : OMEGA Speedmaster Dark Side of the Moon Apollo 8

  • เส้นผ่านศูนย์กลาง : 44.25 มิลลิเมตร
  • ความหนา : 13.0 มิลลิเมตร
  • Lug to Lug : 50 มิลลิเมตร
  • ความกว้างขาสาย : 21 มิลลิเมตร
  • วัสดุตัวเรือน : เซรามิก
  • กระจก : Sapphire พร้อมเคลือบสารกันการสะท้อนแสงทั้ง 2 ฝั่ง
  • กลไก : ไขลาน รหัส OMEGA 3869 พร้อมฟังก์ชั่นจับเวลา และความเที่ยงระดับ MasterChronometer
  • กำลังสำรอง : 50 ชั่วโมง
  • การกันน้ำ : 50 เมตร