OMEGA Speedmaster Chronoscope Paris 2024 เวอร์ชันใหม่สำหรับสาย Olympic

ผลผลิตใหม่สำหรับคนที่ชื่นชอบนาฬิกาที่เกี่ยวพันกับอีเวนต์พิเศษ ซึ่ง OMEGA เผยโฉม Speedmaster Chronoscope Paris 2024 นาฬิกาเวอร์ชันใหม่สำหรับมหกรรมการแข่งขัน Olympic 2024 ที่ปารีส ฝรั่งเศส โดยจะมีด้วยกัน 2 รุ่นตัวเรือน คือ สตีล และ Moonshine Gold กับ 4 รุ่นย่อย

OMEGA Speedmaster Chronoscope Paris 2024 เวอร์ชันใหม่สำหรับสาย Olympic

• เวอร์ชันพิเศษรับมหกรรมกีฬา Olympic 2024

• 2 ทางเลือกสำหรับตัวเรือนจากสแตนเลสสตีล และแบบ Moonshine Gold โดยจะมีทั้งแบบสายหนัง และสายโลหะ

• รหัสกลไกจะแตกต่างกันออกไป คือ 9908/9909 ซึ่งต่างกันที่ชิ้นส่วนภายใน แต่โครงสร้างหลักเหมือนกัน

สำหรับแฟนๆ ของ OMEGA ที่ชื่นชอบการสะสมนาฬิกาในเซ็ต Olympic ตอนนี้ทางแบรนด์ได้เปิดตัว 2 ทางเลือกใหม่จากคอลเล็กชั่น Speedmaster Chronoscope ซึ่งได้รับการออกแบบและตกแต่งให้สวยสปอร์ต-หรูหราขึ้นในสไตล์ดำ-ทอง-ขาว เพื่อเป็นนาฬิกาเซ็ตพิเศษของ Paris 2024 ซึ่งเป็นการแข่งขัน Olympic ฤดูร้อนและ OMEGA เป็นผู้สนับสนุนในด้านการจับเวลาอย่างเป็นทางการมาโดยตลอดนับจากปี 1932

มหกรรมกีฬา Olympic ที่กรุงปารีส ปี 2024 ถือเป็นครั้งที่ 31 นับตั้งแต่ปี 1932 ที่ OMEGA ได้รับหน้าที่สำคัญในฐานะผู้บอกเวลาอย่างเป็นทางการของมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาตินี้ และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองโอกาสครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ดังกล่าว OMEGA มักจะมีการผลิตนาฬิการุ่นพิเศษออกมาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง

โดยในการแข่งขัน Paris 2024  นี้ พวกเขาเปิดตัวนาฬิกาเรือนนี้แรกก็คือ  Seamaster Diver 300M รุ่นพิเศษ ที่มีรหัส Ref. 522.21.42.20.04.001 ได้นำเสนอการออกแบบในสไตล์สปอร์ตด้วยสีขาว สีทอง และสีดำ ตามธีมสีหลักอย่างเป็นทางการของ Olympic และได้ส่งต่อมายังนาฬิกาใหม่อีก 2 รุ่นที่เพิ่งเปิดตัวออกมา

สำหรับ OMEGA Speedmaster Chronoscope Paris 2024 มีจำหน่วยด้วยกัน 2 รูปแบบตัวเรือนกับ 4 รุ่นย่อย คือ ตัวเรือนที่ผลิตจากสแตนเลสสตีล และทอง Moonshine Gold โดยจะประกอบด้วย

• Ref.522.30.43.51.02.001 : ตัวเรือนและสายแบบสแตนเลสสตีล

• Ref.522.32.43.51.02.001 : ตัวเรือนแบบสแตนเลสสตีล และสายหนัง

• Ref.522.60.43.51.02.001 : ตัวเรือนและสายผลิตจาก Moonshine Gold  

• Ref.522.62.43.51.02.001 : ตัวเรือนผลิตจาก Moonshine Gold และสายหนัง

ตัวเรือนมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 43 มิลลิเมตร และหนา 13 มิลลิเมตรเพิ่มขึ้นจากรุ่นปกติ 0.2 มิลลิเมตร ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นผลมาจากฝาหลังซึ่งมีการสลักเป็นสัญลักษณ์เปลวไฟของ Paris 2024 โดยในรุ่นสตีลจะมาพร้อมกับขอบตัวเรือนที่ผลิตจากอะลูมิเนียม และรุ่น Moonshine Gold จะเป็นเซรามิกสีดำ โดยจะมีสเกลสีทองอยู่ข้างใน

ทุกรุ่นมากับหน้าปัดสีเงินเหมือนกัน โดยพื้นหน้าปัดย่อยจะเป็นสีดำ โดยพื้นของหน้าปัดจะมีสเกลทั้ง Pulsometer และ Telemeter อยู่ข้าง ทุกรุ่นจะใช้หลักชั่วโมงที่ผลิตจาก Moonshine Gold ขณะที่เข็มนาฬิกาทรงใบไม้และหน้าปัดย่อยเคลือบทอง PVD Moonshine

สำหรับกลไกของทั้ง 2 รุ่นจะมีความแตกต่างในแง่ของรหัสคือ 9908 สำหรับรุ่นตัวเรือนสตีล และ 9909 สำหรับตัวเรือน Moonshine Gold โดยส่วนหนึ่งเป็นเพราะการเลือกใช้วัสดุและการขัดแต่งของกลไกที่มีความแตกต่างกัน แต่ในแง่ของโครงสร้างพื้นฐานเหมือนกัน โดยในรุ่น 9909 มากับบาลานซ์บริดจ์ทอง 18K Sedna™ และลายเจนีวาเวฟแบบอาหรับ ส่วนรุ่น 9908 เป็นแบบชุบโรเดียมพร้อมลายเจนีวาเวฟแบบอาหรับ แต่ไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหนก็เป็นฝาหลังแบบทึบ ไม่สามารถมองเห็นรายละเอียดที่อยู่ข้างใน แต่ทั้งคู่เป็นแบบไขลานเหมือนกัน

กลไกทั้ง 2 รุ่นได้รับการปรับแต่งให้มีความเที่ยงตรงในระดับ Master Chronometer ซึ่งสามารถผ่านมาตรฐานความเที่ยงตรงของทั้ง METAS และ COSC หน้าปัดย่อยสามารถจับเวลาได้สูงสุด 12 ชั่วโมง และอีกหน้าปัดเป็นเข็มวินาทีย่อย โดยชุดกลไกจับเวลามาพร้อมคอลัมน์วีลและระบบปล่อยจักร Co-Axial มาตรฐานระดับ Master Chronometer ที่ผ่านการรับรองโดย METAS ว่าสามารถทนทานต่อสนามแม่เหล็กถึง 15,000 เกาส์ บาลานซ์สปริงซิลิคอน บาร์เรลทั้งสองติดตั้งเรียงกัน มีกำลังสำรองสูงสุด 60 ชั่วโมง

สำหรับ OMEGA Speedmaster Chronoscope Paris 2024 เป็นนาฬิการุ่นพิเศษไม่ใช่ Limited Edition ส่วนราคาอยู่ที่ 350,000 บาทสำหรับรุ่นสตีลสายหนัง และ 363,000 บาทสำหรับรุ่นตัวเรือนและสายสตีล ส่วนรุ่น Moonshine Gold สายหนังอยู่ที่ 1,209,000 บาท และตัวเรือนและสาย Moonshine Gold อยู่ที่ 1,900,000 บาท

รายละเอียดทางเทคนิค : OMEGA Speedmaster Chronoscope Paris 2024

• เส้นผ่านศูนย์กลาง: 43 มิลลิเมตร
• ความหนา: 12.8 มิลลิเมตร
• ความกว้างขาสาย: 21 มิลลิเมตร
• วัสดุตัวเรือน: สแตนเลสสตีล / Moonshine Gold
• กระจก: Sapphire
• กลไก: ไขลาน Cal.9908/9909 พร้อมฟังก์ชั่นจับเวลา มีความเที่ยงตรงระดับ Master Chronometer
• ความถี่: 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง
• จำนวนทับทิม: 44 เม็ด
• กำลังสำรอง : 60 ชั่วโมง
• ระดับการกันน้ำ :50 เมตร

Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/

YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline